งานถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์ .. กลางทะเลอันดามัน .. ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในเวลาหนึ่งเดือนนับตั้งแต่ วันปวารณาออกพรรษา ๒๑ ตุลาคม เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาอันมีค่ายิ่งของพุทธศาสนิกชนที่ได้ประกอบกาลทาน.. ถวายสังฆทานพิเศษ ที่มีความจำเพาะตามพุทธบัญญัติ ที่เรียกว่า ถวายผ้ากฐิน โดยสิ้นสุดเขตกาลทาน เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ตรงกับวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่เพิ่งผ่านไป

๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒.. ในปีนี้ ตรงกับวันพระใหญ่ ที่พระสงฆ์ในแต่ละอาวาสจักต้องประกอบสังฆกรรม ที่เรียกว่า ลงอุโบสถ เพื่อฟังพระภิกษุสวดศีลปาฏิโมกข์ ๒๒๗ สิกขาบท หากมีจำนวนภิกษุ ๔ รูปขึ้นไป..

นอกจากเป็นวันพระใหญ่แล้ว ยังตรงกับวันลอยกระทงตามประเพณีของชาวไทย ที่จะจัดกระทงจุดประทีป อธิษฐานธรรมลอยบูชา เหนือแม่น้ำลำคลองหนองบึงตามนิยมของชุมชนทั้งหลาย ที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรม.. ในความเป็นประเพณีที่มีรูปแบบความรื่นเริงสนุกสนานอย่างสร้างสรรค์

ที่สำคัญยิ่ง.. ในความเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒.. คือ เป็นวันสุดท้ายแห่งเขตกาลทาน.. ที่สามารถถวายผ้ากฐินด้วยการประกอบสังฆทานพิเศษตามพระวินัยนิยมบรมพุทธานุญาตนี้ได้

วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒.. ในปีนี้จึงมีความสำคัญครบใน ๓ ความหมายตามที่กล่าว ดังเมื่อ สำนักสงฆ์พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี จ.ภูเก็ต ได้จัดให้มีการจัดงานถวายผ้ากฐินสามัคคีของคณะศิษย์ศรัทธา ที่นำโดย นายณรงค์-นางวันดี วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต.. นางเมทินี ชโลธร อดีตประธานศาลฎีกา คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ และ น.ส.รจนา วานิช ประธานคณะศิษย์ศรัทธาพุทธศาสนิกชนที่ได้ร่วมกันจัดงานถวายผ้ากฐินครั้งประวัติศาสตร์กลางทะเลอันดามันบนเรือพีพีครุยเซอร์ และเรือนางฟ้าดาราณี.. ท่ามกลางคณะศรัทธาที่ได้รับการตรวจคัดเลือกตามมาตรฐานสาธารณสุข เพื่อเป็นตัวแทนศาสนิกชนเข้าร่วมงานถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์กลางทะเลอันดามันดังกล่าว ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๓๐ น. ในท่ามกลางบรรยากาศที่เกื้อกูลให้เห็นความสวยงามของท้องทะเลอันดามันที่ยังไม่เคยสิ้นมนต์ขลัง จึงได้เห็นความรื่นเริง เบิกบาน แจ่มใส ของคณะศรัทธาสาธุชนที่มีโอกาสลงเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เพื่อร่วมงานบุญกุศลครั้งสำคัญดังกล่าว

ในงานถวายผ้ากฐินบนเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่กลางทะเลอันดามันครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดประกอบศาสนกิจของคณะสงฆ์ที่เรียกว่า กระทำสังฆกรรมบนเรือกลางทะเล... โดยกำหนดเรืออีกลำที่ชื่อเรือ นางฟ้าดาราณี เป็นเขตประกอบสังฆกรรม โดยสมมติเป็น อพัทธสีมา คือ สีมาที่อ้างอิงธรรมชาติ เช่น ป่า ภูเขา แม่น้ำลำธาร หนองคลองบึง.. หรือทะเล.. อันเป็นไปตามพระวินัยที่พุทธบัญญัติไว้

ด้วยความมีสติปัญญาของคณะสงฆ์จึงได้เห็นการจัดการกำหนดพัทธสีมาอย่างถูกต้องบน เรือนางฟ้าดาราณี ที่ถูกจัดเป็นดุจอุโบสถบนน้ำ สวยงามด้วยดอกไม้ธงทิวริ้วผ้าที่เกิดจากการออกแบบจัดการด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา อันควรค่าแก่การอนุโมทนาสาธุการ... เมื่อแลเห็น.. เรืออุโบสถ (อพัทธสีมา) ดังกล่าวจอดทอดสมออยู่ในอ่าวของทะเลอันดามัน ที่สงบนิ่งอยู่บนผืนน้ำทะเลที่ประดับด้วยริ้วคลื่นเล็กๆ ที่มักปลิวผ่านไปขึ้นชายฝั่งเกาะภูเก็ตอย่างพอเหมาะ จึงเห็นความสงบของเรือที่จอดทอดสมอนิ่งอยู่กลางทะเล เกื้อกูลให้คณะสงฆ์กระทำสังฆกรรม ด้วยญัตติทุติยกรรม อันจะต้องกระทำในเขตสีมาหรืออพัทธสีมาที่ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ

บนเรือลำดังกล่าวที่ถูกคณะสงฆ์ยกขึ้นเป็นอพัทธสีมา.. จึงไม่มีศรัทธาสาธุชนเข้าไปคาบเกี่ยวอาศัยอยู่บนเรือลำดังกล่าวแม้แต่คนเดียว.. รวมถึงไม่มีคนเรือ.. นายท้ายเรือ.. กะลาสีเรือ.. เพื่อเปิดที่ประชุมกระทำสังฆกรรมเฉพาะภิกษุสงฆ์เท่านั้น ตามที่ได้มีสังฆมติสมมติเรือลำดังกล่าวตามกว้างและยาว เป็นพื้นที่อพัทธสีมาประกอบสังฆกรรม โดยจอดอยู่ห่างจากฝั่ง.. และเรือทุกลำ ให้แลดูโดดเด่นสวยงาม น่าอนุโมทนายิ่งในยามที่ได้เห็นคณะสงฆ์ประกอบสังฆกรรมร่วมกัน...

ซึ่งแตกต่างจากเรืออีกลำหนึ่ง คือ เรือพีพีครุยเซอร์ .. ที่ถูกกำหนดให้เป็นเหมือน เรือวิหารธรรม .. ที่ประชุมของพระสงฆ์และอุบาสก-อุบาสิกา ที่สามารถประกอบศาสนกิจอยู่ร่วมกันได้ จึงได้กำหนดให้เป็นมหาวิหารกลางทะเลอันดามัน เพื่อการประกอบศาสนกิจ สวดมนต์ สมาทานศีล บูชาธรรม.. คณะสงฆ์อันเป็นกาลทานในสังฆทานพิเศษที่มีความจำเพาะ.. ที่ทำได้ยากกว่าสังฆทานทั่วไป ซึ่งจะต้องครบองค์ธรรมตามพระวินัยนิยมบรมพุทธานุญาต... การถวายผ้ากฐิน.. ครั้งประวัติศาสตร์กลางทะเลอันดามันในครั้งนี้ ท่ามกลางศาสนิกชนจำนวนมากกว่า ๑๐๐ ชีวิต..

ที่น่าสนใจยิ่งต่อการพิจารณา เมื่อได้เห็นความสงบที่เกิดขึ้นในระหว่างท่ามกลาง ขณะคณะสงฆ์ไปขึ้นเรืออันดามันที่กำหนดเป็น อพัทธสีมา อันเป็นเขตสังฆกรรมของสงฆ์ที่จะต้องกระทำ ญัตติทุติยกรรม ตามพระธรรมวินัย...

ในเวลาร่วม 3 ชั่วโมงเศษๆ เกือบ 4 ชั่วโมง ของการดำเนินศาสนกิจตั้งแต่เริ่มต้นในเรือมหาวิหาร (พีพีครุยเซอร์) .. สู่เรืออพัทธสีมา (นางฟ้าดาราณี) จึงเป็นเวลาแห่งอธิการกุศลที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อจิตใจของคณะสงฆ์.. อุบาสก อุบาสิกา ที่ได้มีโอกาสร่วมงานถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์กลางทะเลอันดามันในครั้งนี้ที่ดำเนินไปจนครบ ๓ รายการ ได้แก่ การถวายสังฆทาน (มตกภัต).. การถวายผ้ากฐิน.. การประกอบสังฆกรรมของสงฆ์ด้วยการตั้งญัตติทุติยกรรมในเขตอพัทธสีมา (สีมาน้ำกลางทะเล).. และการประกอบสังฆกรรม ฟังสวดภิกขุโอวาทปาฏิโมกข์.. จนถึงการอธิษฐานกระทงธรรมลอยลงกลางทะเลอันดามัน เพื่อจุดประทีปบูชาธรรมครั้งยิ่งใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม.. เพื่อสืบสานจิตวิญญาณแห่งคุณธรรมความดีไปสู่สรรพสัตว์น้อยใหญ่ทุกภพภูมิ.. จึงเป็น การลอยกระทงเมตตาธรรม .. เพื่อแผ่เมตตาบูชาธรรม ด้วยการถวายสักการบูชาคุณพระรัตนตรัย.. คุณพ่อแม่.. คุณครูบาอาจารย์.. อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธที่เป็นผู้ประพฤติธรรม.. ผู้เคารพธรรม.. ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ที่แสดงออกด้วย ปัญจเคารพ ตามวิถีพุทธที่น่าอนุโมทนายิ่ง

รวมเวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง.. ในการประกอบศาสนกิจครั้งสำคัญ เนื่องในงานทอดผ้ากฐินประวัติศาสตร์กลางทะเลอันดามัน.. จึงมีคุณค่าเกินกว่าจะพรรณนาที่ประทับอยู่ในจิตใจของศาสนิกชนทุกคนที่มีโอกาสเข้าร่วมและได้ติดตามทาง Live เป็นบุญ” ที่ถ่ายทอดภาพ-เสียงไปได้พอสมควร.. แม้จะต้องยุติในช่วงเวลาการประกอบสังฆกรรมบน เรืออพัทธสีมา ด้วยความขัดข้องทางเทคนิคในการสื่อสาร...

นับเป็น มงคลอย่างยิ่ง ต่อการเปิดเกาะภูเก็ตสู่.. ฤดูกาลท่องเที่ยวในเทศกาลนี้ที่ จ.ภูเก็ต ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไข่มุกอันดามันเม็ดนี้ได้ แม้จะอยู่ในวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-๑๙ ทั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ของรัฐบาลลุงตู่.. และด้วยฝีมือการบริหารจัดการของลุงรงค์ พ่อเมืองภูเก็ต ที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้ดี จนต้องอยู่บริหารจัดการที่เกาะภูเก็ตต่อไปจนกว่าจะเกษียณ...

จึงขอแสดงความยินดีแทนสาธุชนชาวภูเก็ตที่มีพ่อเมืองมีคุณภาพ.. มีคุณธรรมความดี.. มีความซื่อสัตย์ ที่สำคัญคือ กล้าหาญในการทำงานอย่างมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ.. ถ้าทุกจังหวัดในประเทศของเรามีผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีคุณภาพเช่นนี้.. ประเทศไทยคงจะเจริญเติบโตก้าวหน้าสถาพร น่ายินดียิ่ง.. สืบตลอดไป...!!

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าใหญ่เกินธรรมชาติ .. พ่อมหาจำเริญ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. ภาวะโลกร้อน (Global warming) .. อันเกิดเนื่องเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังอยู่ใต้ห้วงวิกฤตการณ์อันเนื่องจากการกระทำของคนเรา

“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า.. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะที่เข้าสู่วิกฤตการณ์โลกร้อน.. ด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติปกติ (Climate Change) อันเป็นผลจากการกระทำของมนุษยชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม จึงได้ถือโอกาสคิดทำโครงการนำพระคืนสู่ป่า.. เพื่อศึกษาวงจรธรรมชาติของชีวิตที่เนื่องกับสิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความสมดุล (Nature Cycle in Balance)

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ