'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ

นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

กลับมาก็วนอยู่กับสันดานเดิมๆ

เหมือนประเทศนี้มีคนอยู่ไม่กี่คนจริงๆ ครับ

คือมี "นักโทษชายทักษิณ" กับบรรดาลิ่วล้อและคนใกล้ชิดเท่านั้น

ที่เหลือเหมือนไม่มีตัวตน

ที่เคยบอกว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลาน โกหกชัดๆ 

ที่ถวายฎีกาไปว่าสำนึกในความผิดที่กระทำแล้ว ก็โกหก

เพราะวันนี้ทำตัวเป็นเจ้าของรัฐบาลมากขึ้นทุกที

วานนี้ (๒๕ เมษายน) "เสี่ยอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย" หอบนายกฯ เศรษฐา ไปโรงแรมโรสวูด ถนนสุขุมวิท ไม่ได้ไปจองห้องครับ แต่ไปกินข้าวเที่ยงกับนักโทษชาย ที่อยู่ระหว่างการพักโทษ

ทำไมต้องไปเวลานี้

และทำไมต้องหนีบ "เสี่ยอ้วน" ไปด้วย

ให้ตรวจการบ้านหรืออย่างไร

สถานการณ์แบบนี้หนีไม่พ้นหรอกครับ ที่จะถูกวิจารณ์ว่าไปเคลียร์โผปรับ ครม.รอบสุดท้าย

แม้ความจริงอาจจะคุยกันเรื่อง วิธีเลี้ยงหลาน แต่ไม่มีใครเชื่อ เพราะโดยสถานการณ์มันไม่ใช่

ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า "เสี่ยอ้วน" คือตัวแทนของ "นักโทษชายทักษิณ" ในรัฐบาล

นายกฯ เศรษฐา คือหุ่นเชิดเท่านั้น!

การพบกันของ ๓ คนนี้ จะแปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอกครับ

มันเกี่ยวกับโผ ครม.ล้วนๆ

ประเทศไทยกำลังอยู่ภายใต้การบริหารของ "นักโทษชาย" คดีคอร์รัปชัน!

ไม่ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ได้เห็นได้ยินเรื่องนักโทษตรวจการบ้านรัฐบาลแล้ว ยังอยู่สุขสบายกันดีหรือไม่

แต่อย่าไปคาดหวังอะไรครับ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่อยู่ในอำนาจจะกระโดดออกมาโดยไม่เสียดายอำนาจที่มีอยู่

เขาก็มีข้ออ้างของเขา เช่น จะอยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือประชาชน อยู่ต่อเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ว่ากันไป เพราะมีให้อ้างร้อยแปดพันเก้า

แต่ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งองคาพยพของระบอบทักษิณได้ร่วมกันทำอะไรเอาไว้บ้าง

ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคําดังต่อไปนี้

 “ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” 

ถามจริงเถอะครับ จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณได้สักกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะตัวนายกรัฐมนตรีเองยังเอาตัวไปพัวพันกับนักโทษคดีคอร์รัปชันแบบไม่ละอายต่อประชาชน

และหากเอาโผ ครม.ชุดใหม่ ไปให้นักโทษคดีคอร์รัปชันอนุมัติด้วยแล้ว จะคาดหวังอะไรจากรัฐบาลนี้ได้อีก

ย้อนกลับไปดู ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๖ จะเห็นถึงความชัดเจนว่า ไร้สัตย์อย่างสิ้นเชิง

"...ตามที่นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน ๓ คดี

คดีที่ ๑ คดีหมายเลขแดง ที่ อม.๔/๒๕๕๑ ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก ๓ ปี

คดีที่ ๒ คดีหมายเลขแดง ที่ อม.๑๐/๒๕๕๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก ๒ ปี ซึ่งคดีที่ ๑ กับคดีที่ ๒ นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก ๓ ปี

และคดีที่ ๓ คดีหมายเลขแดง ที่ อม.๕/๒๕๕๑ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม กำหนดโทษจำคุก ๕ ปี

รวมกำหนดโทษจำคุก ๘ ปี รับโทษมาแล้ว ๑๐ วัน เหลือโทษจำคุก ๗ ปี ๑๑ เดือน ๒๐ วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ความว่าเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นั้น

ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก ๑ ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน สืบไป..."

ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ที่จะช่วยทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน ที่ "นักโทษชายทักษิณ" ควรทำนั้นคืออะไร?

ครอบงำรัฐบาลอย่างนั้นหรือ?

"นักโทษชายทักษิณ" มีความสำนึกที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษบ้างหรือไม่

 จริงอยู่ครับ มีความรู้ ความสามารถจริง แต่ใช้ถูกทางหรือไม่

เริ่มต้นตั้งแต่เดินทางกลับไทย "นักโทษชายทักษิณ" ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม

ผลที่ออกมาจึงไม่ต้องติดคุกแม้วันเดียว

ตามมาด้วยข้อกังขาถึงความไม่โปร่งใสมากมาย

และวันนี้ เอาตัวไปพัวพันกับรัฐบาล ในวันที่ นายกฯ เศรษฐา กำลังจะปรับ ครม.

ไม่รู้จักรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม

กลับมีพฤติกรรมเป็นผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา โดยไม่แคร์สายตาใครทั้งนั้น

ไม่มีเค้าของคนยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด

พอๆ กับไม่มีเค้า ผู้ป่วยหนักมีความเสี่ยงเป็นตายเท่ากันแม้แต่น้อย

เมื่อ "นักโทษชายทักษิณ" จงใจที่จะแสดงให้เห็นถึงอำนาจ นับจากนี้ไปจึงเป็นการนับถอยหลัง ทั้งของ "นักโทษชายทักษิณ" และรัฐบาล

เพราะการใช้อำนาจโดยทุจริตคือสารตั้งต้นสู่หายนะ

จะกลายเป็นคนแดนไกลอีกคำรบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีเอ็นเอ 'คอ นก รีต'

นึกว่ารัฐบาลเพิ่งเข้าทำหน้าที่ วานนี้ (๓ พฤษภาคม) พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรม "๑๐ เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม ๑๐" เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ในนามพรรค

ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์?

เป็นวันสำคัญครับ... วันนี้ (๓ พฤษภาคม) เวลา ๑๕.๔๕ น. นายกฯ เศรษฐานำ รัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน

เรื่อง 'ถุงขนม ๒ ล้าน'

ว่าไปก็น่าประหลาดใจ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ได้รับเสียงสรรเสริญว่ามาจากการเลือกตั้ง มีความเป็นประชาธิปไตย มักมีหน้าตาสู้รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ถูกสาปแช่งว่าเป็นเผด็จการกดหัวประชาชนไม่ได้

ทันเหลี่ยม 'ธนาธร'!

คงจะห้ามไม่อยู่ กกต.เตือนว่าห้าม จัดแคมเปญ จูงใจ ชี้ชวน รวบรวมบุคคลจากหลากหลายอาชีพ รวม ๒๐ กลุ่ม ให้เป็นผู้เสนอตัวสมัครเข้ารับการเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ

ยิ่งปรับยิ่งชินวัตร

ยังเป็นที่คาใจกันอยู่ การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ของ "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" เพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้น เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

'ครม.ทักษิณาฐา'

ส่องกันอยู่ร่วมเดือน รัฐมนตรี ว่าที่รัฐมนตรี ลุ้นกันชนิดกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับกันหลายวัน เพราะคนที่อยู่ไม่รู้ว่าจะหลุดหรือไม่ ส่วนคนมาใหม่ไม่รู้จะได้เสียบหรือเปล่า