รมว.อว.'เอนก'ปลดล็อก! แต่มหา'ลัยยังติดกับดักโลกเก่า...ทำไงดี?

โลกวันนี้สร้างริ้วคลื่นการเปลี่ยนแปลงระลอกแล้วระลอกเล่า ส่งผ่านนวัตกรรม การแข่งขัน เทคโนโลยี และฐานความรู้ยุคใหม่ ฯลฯ ซึ่งกระแสคลื่นความเปลี่ยนแปลงแต่ละระลอกนั้นทรงพลัง และก่อรูปความเคลื่อนไหวใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม จนถึงการดำเนินชีวิตแบบที่ไม่มีใครหยุดได้! การปรับตัวตามไม่ทันโลกที่เปลี่ยนไปก็จะทำให้มวลสารนั้นๆ เผชิญวิกฤตและถูกเบียดขับกลบกลืนหายไป ไม่มีทางเลือกให้มากนัก นอกจากการรู้เท่าทันและปรับตัวให้ได้!

โลกแบบอนาล็อกวันนี้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว แปลกแยก กลายเป็นอื่น วังเวงอยู่ลำพัง! โลกดิจิทัลเคลื่อนกลืนกลบเข้าแทนโลกเดิม! ปฏิสัมพันธ์-การสื่อสารระหว่างคนกับโลกแวดล้อมเปลี่ยน! ความเคลื่อนไหวในโลกดิจิทัลก่อรูประบบนิเวศใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม สัมพันธภาพ การเรียนรู้ คุณภาพชีวิต การงาน และความเคลื่อนไหวในวิถีชีวิตประจำวัน ฯลฯ ซึ่งแตกต่างเปลี่ยนจากเดิมมากขึ้นทุกขณะ!

ผู้คน การเรียนรู้ คุณภาพการดำรงชีวิต และการก่อร่างสร้างตัววันนี้ จึงไม่ใช่แบบแผนของระบบนิเวศในโลกใบเดิมอีกต่อไป การเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของคนรุ่นใหม่ในการเป็นพลเมืองยุคดิจิทัล ที่ชีวิตผสมกลมกลืนกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จากพลังสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงของการสื่อสารยุคใหม่ ได้สร้างความงอกเงยทางเศรษฐกิจ-สังคมขึ้นอย่างมหาศาลน่าอัศจรรย์! ส่งผลให้ความรู้ ความคิด ทักษะ การงาน ปฏิสัมพันธ์กับโลกแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างเกือบจะสิ้นเชิง!

วันนี้ ความคิด ทักษะแบบเดิมๆ รวมทั้งความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญการแบบที่ถ่ายทอดมาจากโลกใบเก่ากลายเป็นสิ่งแปลกแยกของยุคสมัย มันแปลกปลอม ต่อไม่ติด เชื่อมไม่เข้ากันกับความคิด ความรู้ ทักษะของโลกใบใหม่ นี่คือความจริงที่สัมผัสจับต้องได้ในเกือบทุกกลุ่มความรู้และการงาน! 

การพัฒนาคน การสร้างทุนมนุษย์ และการศึกษา หรือกิจกรรมสัมพันธ์การเรียนรู้ทั้งหลายทั้งปวง จึงต้องปรับความคิด ปรับการทำงาน วิธีการ และปรับระบบระเบียบให้พ้นออกจากโลกใบเก่า ขจัดระบบนิเวศของโลกเก่าที่ครอบงำกำกับอยู่ให้พ้นไปจากความคิดที่เวียนว่ายอยู่! เพื่อจัดปรับสร้างการเรียนรู้ ความคิด ทักษะและสมรรถนะในแบบของโลกใบใหม่ขึ้นแทน!

ฐานปฏิบัติการยุคอนาล็อกในโลกเก่าที่ชี้นำ มากด้วยระบบระเบียบของรัฐราชการ บนวิธีคิดที่ยึดหลัก “เกิดก่อนรู้ดีกว่า” กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ถูกตั้งคำถาม และกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่สร้างสรรค์ ปิดกั้นการเรียนรู้ ความก้าวหน้า การประดิษฐ์คิดสร้างยุคใหม่ ของผู้คนพลเมืองดิจิทัลไปอย่างมีนัยสำคัญ!

การสร้างธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่สร้างความเติบโตต่อปีได้นับพันๆ เท่าในรุ่นคน! ขณะที่ความมั่งคั่ง ประสบการณ์ที่เท่าๆ กันโดยเปรียบเทียบนั้น คนรุ่นก่อนต้องสะสมความมั่งคั่ง ประสบการณ์ยาวนานถึงสองสามชั่วอายุคน! และมิติของความรู้ สร้างประสบการณ์ความชำนาญในยุคก่อนที่ต้องใช้เวลานับรุ่นคน ขณะที่การเข้าถึงความรู้ในโลกแวดล้อมจากการสื่อสารใหม่นั้นแตกต่างไป มันเปิดกว้างไร้พรมแดน ข้ามรัฐชาติ กาลเวลา ข้ามอคติแบบโลกใบเก่า และนำมาต่อยอดได้อย่างเสรี หากความรู้ ทักษะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์เพียงพอ! พลังขับเคลื่อนใหม่นี้เปลี่ยนระบบนิเวศของความคิด การเรียนรู้ และการสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด! จนวันนี้...ไม่มีใครยอมจำนนถูกโลกเก่ากักขังอีกต่อไป!!!

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ที่ รมว.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กำกับดูแลอยู่ ได้เห็นทะลุถึงสภาวะกดทับและโลกแวดล้อมที่ปิดกั้นการศึกษาทั้งโครงสร้างอยู่ โดยเฉพาะอุดมศึกษาที่กำลังลำบากจากปัจจัยแวดล้อมหลายมิติ ทั้งในแง่การถูกดิสรัปชันจากความก้าวหน้าใหม่ คุณภาพหลักสูตร คุณภาพครู ระบบระเบียบที่เป็นระบบนิเวศที่รกรุงรังปิดกั้นไม่สร้างสรรค์ ตลอดจนถึงการปรับตัวไม่ทันของการศึกษาที่มหาวิทยาลัยผลิตคนสู่สังคมอย่างสูญเปล่า ขาดความรับผิดชอบ!!!

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ จึงออกระเบียบปลดล็อก เปิดทางสร้างการเรียนรู้ใหม่ ให้มหาวิทยาลัยมีช่องทางสร้างระบบนิเวศและการจัดการใหม่ ใช้กระบวนการ sandbox สร้างระบบการเรียนการสอน การจัดการ ตลอดจนถึงพัฒนาหลักสูตรและระบบนิเวศการศึกษาขึ้นใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อปรับตัวเข้ากับโลกแวดล้อมใหม่ ส่งเสริมการสร้างหลักสูตรแบบโมดูล ขจัดความเทอะทะเลอะเทอะที่กัดกินออกไป พร้อมกับปั้นสร้างระบบเครดิต แบงก์ หยุดการรีไทร์ ไล่คนออกจากระบบการศึกษา ส่งเสริมให้ผู้คนสร้างจิกซอว์ต่อยอดการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ ประสานสร้างความก้าวหน้าในวิชาชีพ อาชีพตามความถนัด มุ่งเปิดการศึกษาให้กว้างออก ให้ผู้คนเข้าถึงได้อย่างไม่จำกัดการเวลา ไม่ถูกกดทับด้วยกฎกติกา ระบบระเบียบแบบเดิมๆ ฯลฯ เรียกว่าการอุดมศึกษาไทยยุค ดร.เอนก วันนี้ปรับตัวก้าวตามพลวัตความก้าวหน้าในโลกแวดล้อมใหม่ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

จากนโยบายสู่ภาคปฏิบัติคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามผลจากความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยทั้งหลายว่า รหัสนัยที่กระทรวงการอุดมฯ ปลดเปลื้อง หยิบยื่นให้นั้น จะช่วยให้การศึกษาของมหาวิทยาลัยปรับสร้างตัวตนให้ทันโลกใบใหม่ได้แค่ไหน? ท่ามกลางสภาพที่กำลังวนเวียนอยู่ในหมู่ฝูงระบบบริหารแบบเก่าๆ กลุ่มคนเดิมๆ ที่เวียนว่ายเป็นสภามหาวิทยาลัย สลับกันไปมา ที่ส่วนมากมักเก่งกฎระเบียบและกรอบคอกเดิมๆ รวมทั้งทีมบริหารของมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อยที่ยังปิดความคิด ปิดตัวอยู่ในกับดักภาคปฏิบัติของโลกใบเก่าและวาทกรรมบทเดิมๆ กับความเนียนโดยไม่ค่อยมีมรรคผลความก้าวหน้าและการปรับตัวจริงๆ จังๆ ที่สัมผัสจับต้องได้!

...วันนี้ถ้ามหาวิทยาลัยยังถอดรหัสไม่ออก คิดใหม่ไม่ได้ ขาดเป้าหมาย ค้นไม่พบความคิด การปฏิบัติใหม่ จัดปรับตัวเอง สร้างระบบนิเวศใหม่ไม่ได้ ก็ยากที่จะอยู่รอดและไปต่อได้! เป้าหมายปลายทางคงไม่พ้นแค่ผลาญเงินหลวงไปเรื่อยๆ รอคอยความตายในกาลเวลาเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็ว! งานนี้คงต้องติดตามดูกันต่อไป...!!!!.

โลกใบใหม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า.. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะที่เข้าสู่วิกฤตการณ์โลกร้อน.. ด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติปกติ (Climate Change) อันเป็นผลจากการกระทำของมนุษยชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม จึงได้ถือโอกาสคิดทำโครงการนำพระคืนสู่ป่า.. เพื่อศึกษาวงจรธรรมชาติของชีวิตที่เนื่องกับสิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความสมดุล (Nature Cycle in Balance)

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ

บูชาพระโอวาทปาติโมกข์ .. ณ เวฬุวันมหาวิหาร ปี พ.ศ.๒๕๖๗

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. กลับมาจาก งานมาฆบูชาโลก ที่เวฬุวันมหาวิหาร พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ พร้อมกับติดเชื้อเป็นของแถม ด้วยมีไวรัสแพร่ระบาดในหมู่คณะที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสติดตามไปร่วมร้อยชีวิต