เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา การดำเนินโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ได้เข้าสู่พื้นที่ จังหวัดสุโขทัย เป็นจังหวัดที่ ๓ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่ ๔ เมื่อวันที่ ๕-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนโดยวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน-วัดในสาขาปกครอง และกระทรวงมหาดไทย โดย ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้บรรจุโครงการดังกล่าวเข้าสู่แผนงานในการประชุมใหญ่สามัญ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี ๒๕๖๘ ในนโยบายที่ ๔ ว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาจิตใจ ซึ่งนับเป็นวาระที่น่ายินดียิ่งในวิสัยทัศน์ของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
สำหรับพื้นที่เป้าหมายจังหวัดสุโขทัย ในการดำเนินโครงการฯ นับเป็นเรื่องเป็นมงคลยิ่งที่จัดให้มีการสวดสาธยายคุณพระรัตนตรัยและประกาศราชธรรม.. เพื่อการสืบสานอำนาจแห่งธรรมให้สืบเนื่องต่อไปบนแผ่นดินไทย.. ด้วยจังหวัดสุโขทัยนับเป็นสมัยแรกของความเป็นแผ่นดินไทยของชนชาติไทยในสุวรรณภูมิ ที่ประกาศอิสรภาพปกครองตนเอง โดยตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้น.. เพื่อประกาศความเป็นไทย ที่ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของชนชาติขอมหรือชนชาติใดๆ อีกต่อไป.. โดยมี พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์แรก ของการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นเพื่อปกครอง.. ซึ่งรวมเวลาที่ราชอาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรือง ประมาณ ๑๘๙ ปี (พ.ศ.๑๗๙๒-๑๙๘๑)
เบื้องต้นแห่งประวัติศาสตร์.. กรุงสุโขทัยถูกสถาปนาขึ้นเป็นรัฐหนึ่งในหัวเมืองฝ่ายเหนือ ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ เศษๆ..
ต่อมาในปี พ.ศ.๑๗๙๒ พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง.. ได้ร่วมกันทำการยึดอำนาจจาก ขอมสบาดโขลญลำพง เป็นผลสำเร็จ จึงได้สถาปนากรุงสุโขทัยเป็นอาณาจักรสุโขทัย และมีความเจริญรุ่งเรืองไปตามลำดับ จนถึง สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (พ.ศ.๑๘๒๒-๑๘๔๑) ได้ทรงแผ่อาณาเขตออกไปโดยรอบ มีความเจริญในทุกด้าน ดังปรากฏในศิลาจารึก หลักที่ ๑ ที่ได้บ่งบอกถึงความเจริญในด้านการปกครอง.. พระพุทธศาสนา และได้มีการประดิษฐ์อักษรไทยและอื่นๆ ขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานของความเป็นปฐมราชอาณาจักรของชาวไทยอย่างแท้จริง..
ด้วยพระพุทธศาสนามีหลักธรรมคำสั่งสอนมุ่งเน้นการพัฒนาบุคคลให้มีคุณธรรมความดี ตามฐานะหน้าที่ ทั้งในครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงได้เห็นการมีอิทธิพลและมีบทบาทต่อการพัฒนาวิถีชีวิตและการเมืองการปกครองในสมัยสุโขทัยอย่างยิ่ง ด้วยกษัตริย์หรือผู้ปกครองแผ่นดินในสมัยนั้น ได้ทรงใช้หลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาเป็นแนวนโยบายการปกครองตาม ระบบรัฏฐาภิปาลโนบาย ที่ยก ธรรมาธิปไตย เป็นใหญ่ในรูปแบบ ปิตุลาธรรมาธิปไตย ที่พระราชาทรงปฏิบัติตนเสมอพ่อ ที่มีต่อประชาชนที่เปรียบเสมือนลูก ตามที่เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ระบบพ่อปกครองลูก
ทั้งนี้ กษัตริย์ผู้ปกครองจะต้องมีอุดมการณ์ ธรรมราชา คือ เป็นพระราชาผู้ทรงธรรม ที่จักต้องทรงถือปฏิบัติตาม หลักทศพิธราชธรรม จักกวัตติธรรม อปริหานิยธรรม ๗ ประการ และราชสังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ เป็นต้น
ดังที่ได้เห็นชัดเจนในพระนามของกษัตริย์ที่มักจะมีคำว่า “ธรรม” อยู่ด้วย ซึ่งในยุคสมัยพ่อขุนรามคำแหงและพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลิไท) หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาการเมืองการปกครอง ทั้งภายในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักร เพื่อความสงบสุขของแผ่นดิน สมกับนามราชธานี “กรุงสุโขทัย” ซึ่งมีความหมายว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข” หรือ “การเริ่มต้นแห่งความสุขด้วยอำนาจแห่งธรรม” .. ซึ่งเป็นแนวอุดมการณ์ของพุทธกษัตริย์ในชมพูทวีป (พ.ศ.๒๖๙-๓๑๑) นาม พระเจ้าอโศกมหาราช ที่ทรงให้ประกาศว่า คนทุกคนในแว่นแคว้นการปกครองเป็นลูกของพระองค์
แนวการปกครองแบบ ธรรมราชา ในอาณาจักรสุโขทัย เริ่มมาปรากฏชัดเจนมากที่สุดในสมัย พระมหาธรรมราชา (ลิไท) ที่ทรงกำหนดให้กษัตริย์ต้องปฏิบัติหน้าที่ของ ธรรมราชา อย่างเคร่งครัด ตามหลัก ๔ ประการ ได้แก่
๑.ต้องรู้ธรรม (นักปราชญ์) .. มีธรรม.. เป็นธรรม และสร้างธรรม (สั่งสอนประชาชนให้ประพฤติธรรมได้)
๒.ต้องดำรงอยู่ในฐานะพุทธมามกะ (เอาใจใส่ทำนุบำรุงศาสนา.. ตลอดจนออกบวช)
๓.มีความสามารถในการปกครองแผ่นดินโดยธรรม สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับราชอาณาจักร
๔.สร้างความร่มเย็นเป็นสุขโดยธรรม .. ความอยู่ดีกินดี ให้เกิดขึ้นแก่ราษฎรในแผ่นดิน
กล่าวได้ว่า สมัยอาณาจักรสุโขทัย ปฐมราชธานีแห่งอาณาจักรไทย พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลิไท) เป็นแบบอย่างพระมหากษัตริย์ผู้ประพฤติธรรมที่สมบูรณ์แบบ พระราชาผู้ทรงธรรม ดังปรากฏเป็นหลักฐานแนวความคิดเรื่องธรรมราชาใน ไตรภูมิพระร่วง (เตภูมิกถา) ที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น ขณะทรงครองเมืองศรีสัชนาลัย
สำคัญยิ่ง ในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท ได้ทรงเน้นย้ำแนวคิดทางการเมืองการปกครองตามแบบ พระมหาจักรพรรดิ ที่ต้องประพฤติตามหลัก จักกวัตติธรรม โดยจะต้องยึดมั่นดำรงอยู่ในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ที่สั่งสอนให้ รู้จักให้ทาน รักษาศีล (ทั้งศีล ๕ และศีล ๘) และปฏิบัติธรรม.. เพื่อสร้างบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิให้เกิดขึ้นด้วยการประพฤติตามหลักธรรมอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นที่ยอมรับในหมู่มหาชน.. ทั้งในและนอกราชอาณาจักร อันเป็นเหตุให้หัวเมืองน้อยใหญ่ต่างๆ เลื่อมใสศรัทธาหันมานอบน้อมเป็นเมืองขึ้น และยอมรับฟังคำสั่งสอนของพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม.. ซึ่งแนวความคิดดังกล่าวนั้นได้ถูกส่งสืบทอดมาจนถึง กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ สู่ความเป็นอาณาจักรไทยในปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าจะมีการรับ สมมติเทพ เข้ามาสู่สถาบันกษัตริย์ แต่ก็ยังทรงตั้งอยู่ในความเป็น ธรรมราชา ที่ทรงปฏิบัติตาม ทศพิธราชธรรม .. อันสืบเนื่องมาจากบุรพกษัตริย์ของชาวไทยในอดีต
อนึ่ง ความเป็นกษัตริย์ผู้ทรงธรรม.. เป็นธรรมราชา ในกษัตริย์สุโขทัย จะเห็นได้ชัดว่าทุกพระองค์ล้วนอาศัยพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือในการปกครอง เพื่อเสริมสร้าง เชิดชูฐานะความเป็นกษัตริย์ เพื่อจักได้รับการยอมรับว่า เป็นกษัตริย์ผู้มีคุณธรรม เพื่อให้เหมาะสมกับการได้รับฉันทานุมัติให้ทำหน้าที่ปกครองไพร่ฟ้าประชาชน
ความมีธรรม เป็นธรรม.. ความเคารพในธรรม ด้วยความเชื่อมั่นว่า อำนาจของพระมหากษัตริย์ต้องเป็นอำนาจที่ชอบธรรม ได้มาจากการมีคุณธรรมเหนือบุคคลอื่น หาใช่อำนาจที่เกิดจากกำลัง.. บุญญาบารมี.. หรืออภินิหารใดไม่.. จึงได้เห็น การปกครองแบบพ่อปกครองลูก ขึ้นในสมัยสุโขทัย เพื่อเป็นผู้ปกครองที่ทรงธรรมของพสกนิกร.. อาณาประชาราษฎร์ ดังมีหลักฐานปรากฏในแผ่นศิลาจารึก ที่ระบุไว้ว่า
ศิลาจารึก หลักที่ ๑
ตอนหนึ่งระบุว่า พ่อขุนรามคำแหงให้แขวนกระดิ่งไว้ที่ประตูพระราชวัง ราษฎรที่มีเรื่องทุกข์ร้อน สามารถมาสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ต่อพระองค์ได้ ดังความบนแผ่นศิลา ว่า...
“.. เมื่อชั่วพ่อขุนรามคำแหง.. ในปากประตูมีกระดิ่งอันหนึ่งแขวนไว้หั้น ไพร่ฟ้าหน้าปก กลางบ้านกลางเมือง มีถ้อยความเจ็บท้องข้องใจ มันจักกล่าวถึงเจ้าถึงขุนบ่ไร้ ไปลั่นกระดิ่งอันท่านแขวนไว้ พ่อขุนรามคำแห่งเจ้าเมืองได้ยินเรียก เมื่อถามสวนความแก่มันด้วยซื่อ ไพร่ในเมืองสุโขทัยนี้จึ่งชม..”
ดังนั้น การมาดำเนินงานในโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม .. บนแผ่นดินอาณาจักรสุโขทัยในครั้งนี้ จึงเป็นการสืบสานจิตวิญญาณของบุรพกษัตริย์ที่มีส่วนในการสร้างบ้านแปงเมือง.. ก่อตั้งประเทศขึ้นมาสู่ความเป็นราชอาณาจักรไทย ด้วยการทรงไว้ซึ่ง ราชธรรม .. อันควรแก่การเป็นแบบอย่างแก่นักการเมือง นักปกครอง.. ข้าราชการทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่มีหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชน.. ที่ควรจะได้ถือเป็นแบบอย่าง เพื่อสืบสานแผ่นดินไทยด้วยอำนาจแห่งธรรม เพื่อสืบการปกครองแผ่นดินโดยธรรมตลอดไป....
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมอพรทิพย์ -สืบจากศพ ข้อสงสัย-ปมกังขา สองคดีดัง อดีตผกก.โจ้-แตงโม
ปมการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตในโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งอดีตผกก.โจ้ได้ใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง
เรื่อง..“ผู้กำกับโจ้”.. ปลายคอลัมน์!!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ภายใต้กระแสไอทีที่ร้อนแรง จึงได้เห็นอำนาจวัตถุนิยมทรงพลังที่เข้ามาควบคุมวิถีโลกนี้ให้อนุวัตไปตามกระแสวัตถุ ที่ชักนำสัตว์โลกให้หลงใหลไปตาม โลกยุคสมัยไอที ที่ทรงอิทธิพลต่อจิตวิญญาณชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง
เส้นทางผลักดัน ร่าง กม.กาสิโน เดินหน้าตามรอย สิงคโปร์โมเดล
ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ที่ให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย ฉบับที่ยกร่างโดย "คณะกรรมการกฤษฎีกา" เสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเมื่อ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้กระทรวงการคลังและรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ต้องติดตามว่า กระทรวงการคลังจะเสนอร่างดังกล่าวให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบเป็นครั้งสุดท้ายในวันใด ที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
ดันทุรังเปิดกาสิโน เสี่ยงสร้างนรกบนดิน ตามรอย ประเทศตุรกี
การวาดฝันของนักการเมืองในประเทศที่มีการคอร์รัปชันระดับวิกฤติดังเช่นตุรกี ว่าจะมีกาสิโนเลื่องชื่อระดับโลกเช่น Monte Carlo แต่สุดท้ายกาสิโนถูกกฎหมายทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยว่า ประเทศตนมีนักการเมือง ข้าราชการ และผู้บังคับใช้กฎหมาย ที่ทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่ เพราะในกรณีดังกล่าว การมีกาสิโนถูกกฎหมายก็จะเป็นสวรรค์ของขบวนการมาเฟีย แต่คือนรกบนดินของคนไทยทั้งชาติ
..ถึงเวลาที่ควร .. สังคายนาระเบียบองค์กร!?
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. จากคำกล่าวที่ว่า.. โลกอยู่ในห้วงเวลาแห่งความเสื่อม.. ที่กำลังลงไปสู่ความหายนะ .. นับเป็นเรื่องที่สอดรับกับสภาวธรรมในยามนี้
อ่านเกมสีแดง วางหมาก ทุบ สว.-สลายขั้วน้ำเงิน
ต้องติดตามกันว่าการประชุม "คณะกรรมการคดีพิเศษ" หรือที่เรียกกันว่าบอร์ดดีเอสไอ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มี.ค.นี้ สุดท้ายที่ประชุมจะลงมติรับเรื่อง "การสอบสวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 2567" เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้ดีเอสไอ สอบสวนการเลือก สว.หรือไม่