บันทึกหน้า 4

บรรยากาศเดิมๆกลับมาที่แยกราชประสงค์ หลังคณะหลอมรวมประชาชน นำโดย "จตุพร พรหมพันธุ์" และ "ทนายนกเขา-นิติธร ล้ำเหลือ" จัดกิจกรรมกลางเมือง “หยุดอำนาจ 3 ป.เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย” แต่ดูเหมือนกลายเป็นภาระให้ผู้ประกอบการย่านดังกล่าว ที่ต้องส่งคนดูความเรียบร้อย ก็อย่างว่าในอดีต ห้างเคยถูกทุบ ทรัพย์สินเคยหาย คราวนี้่จึงต้องล้อมคอกไว้ก่อน  ด้วยการนำแผงเหล็กมากั้นกำหนดพื้นที่ที่สามารถใช้ได้ โดยไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมลุกล้ำเข้าพื้นที่ห้างสรรพสินค้า...๐

"จตุพร" ให้เหตุผลชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เพราะสถานที่แห่งนี้คือสัญลักษณ์ทางการเมือง และพี่น้องชาวเสื้อแดงไม่ได้มีปัญหากับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะศาลได้มีการตัดสินแล้วว่าพี่น้องเสื้อแดงไม่ได้เผาห้างตามที่ถูกกล่าวอ้าง ฟังแล้วก็ขำกันไป เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันมีคำพิพากษาศาลฎีกา  ในคดีที่โจทก์ 4 ราย เป็นบุคคล 3 ราย และบริษัท 1 ราย ฟ้องเรียกค่าเสียหายรวมประมาณ 385 ล้านบาท

เนื่องจากทรัพย์สินของโจทก์บนถนนราชปรารภถูกเผาระหว่างการชุมนุมของ นปช. ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาให้ "จตุพร พรหมพันธุ์" "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และ "อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง" ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 19 ล้านบาทเศษ เพราะตามพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุให้เชื่อได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่อาคารและทรัพย์สินที่ถูกผู้ชุมนุมในกลุ่ม นปช.วางเพลิงเผาทำลายนั้น เป็นผลที่เกิดขึ้นจากคำกล่าวปราศรัยของทั้ง 3 คน....๐

หันไปมองสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง เชื่อมั่นศาล บ้านเมืองสงบสุข กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาปมนายกฯ 8 ปี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.9 ระบุ ไม่ต้องการเห็นการเมืองพาคนลงถนน ชุมนุมใหญ่ เผชิญหน้า ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย เสียภาพลักษณ์ กระทบการประชุมเอเปค การลงทุน ท่องเที่ยว เสียหายต่อเศรษฐกิจและบ้านเมือง รองลงมาคือ ร้อยละ 89.7 ระบุ เบื่อหน่ายการเมือง แก่งแย่งผลประโยชน์ ร้อยละ 88.4 หยุดนักการเมืองเคลื่อนไหวชี้นำ แทรกแซง กระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 87.9 เป็นห่วง การเมืองขัดแย้ง ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาเดือดร้อน ปากท้องของประชาชน ร้อยละ 87.3 ไม่ต้องการรัฐประหาร วงจรอุบาทว์ สั่นคลอนบ้านเมือง ต่างชาติไม่ยอมรับ

ซูเปอร์โพล ให้เหตุผลประกอบว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการตกอยู่วงจรอุบาทว์ ซ้ำเติมความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน ไม่ต้องการเห็นการเมืองยั่วยุ ปลุกปั่น พาคนลงถนน ชุมนุมใหญ่ เผชิญหน้า ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย เสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กระทบต่อการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค ทั้งด้านการลงทุน การท่องเที่ยว และจะเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศและวิกฤตปัญหาปากท้องของประชาชน...๐

 เกาะติดความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผ่านเฟซบุ๊ก”พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี General Prawit Wongsuwon” พบว่ามีการวางกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดทุกวันจันทร์ตลอดทั้งเดือน ก.ย. 2565

โดยในวันที่ 5 ก.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่จ.กระบี่ วันที่ 12 ก.ย.ลงพื้นที่จ.ตาก และวันที่ 19 ก.ย.ลงพื้นที่จ.นราธิวาส ซึ่งการลงพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในฐานะรองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปด้วย ทั้งในส่วนงานที่รับผิดชอบเรื่องปัญหาแรงงาน, ปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน, การแก้ปัญหาด้านที่ดินทำกินให้เกษตรกรและคนยากจน การคืนโฉนดอนุญาตทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 เป็นต้น  แต่สงสัยนิดเดียว วางคิวยาวแบบนี้แสดงว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัยกรณีนายกฯ 8 ปี ใช่หรือเปล่า...๐

รองโฆษกรัฐบาลคนขยัน "ทิพานัน ศิริชนะ"  ทำงานหนักไม่เว้นวันหยุด เพราะช่วงนี้ คนดังในพรรคเพื่อไทยกลืนแสงกันแทบทุกวัน จนพระอาทิตย์ใกล้ดับเต็มทน ผีเจาะปากพูดไปเรื่อย เรื่องนายกฯ 8 ปีควรจะรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และจบที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ในพรรคเพื่อไทยมีคนเก่งกว่าศาลรัฐธรรมนูญเพียบ พูดกันดันกันรายวัน บางเรื่องที่ไม่ควรมาแก้ข่าว กลับต้องเสียเวลามาทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะกูรูในพรรคเพื่อไทยพาเข้ารกเข้าพง อย่างเช่นบอกว่าทีมกฎหมายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งเอกสารฟอกขาวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าใช้ตรรกะแบบนี้ ที่"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ส่งทนายไปสู้คดีในศาลก็ถือว่าฟอกขาวกันหมด หรือทุกคดีในประเทศไทยที่ขึ้นศาล แล้วมีทนายไปว่าความ ก็ฟอกขาวกันหมด น่าขำ กลุ่มนักการเมืองที่เคยฉาวโฉ่เรื่อง ถุงขนม 2 ล้าน วันนี้เที่ยวชี้หน้าด่าพรรคการเมืองอื่นว่า การต่อสู่คดีตามกระบวรนการปกติ คือการฟอกขาว...๐

เกษมราษฎร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.