ได้เวลาตัดสินใจเสียที

การควบรวมกิจการของธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยที่ไม่ได้ทำให้กลายเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทำกันมานานแล้ว และผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่จะได้รับบริการที่ดีขึ้น ได้มีนวัตกรรมต่างๆ ที่พัฒนาคุณภาพชีวิต และหลายๆ ครั้งก็จะได้ราคาที่ถูกลงเพราะการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้ประโยชน์จากการ “แบ่งปัน” ทั้งข้อมูล ภูมิปัญญา ความสามารถ ทรัพยากร ที่จะทำให้มีศักยภาพการแข่งขันที่ดีขึ้น เรื่องการควบรวมที่หลายคนติดตามในช่วงเวลานี้

คือการควบรวมระหว่าง True กับ DTAC ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม เรื่องนี้ยืดเยื้อมานานแล้ว ทางคณะกรรมการ กสทช.ทำประชาพิจารณ์ไปหลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์เห็นด้วยกับการควบรวม เพราะมองเห็นประโยชน์มากกว่าโทษ มีเพียงนักวิชาการบางคนเท่านั้นที่คิดไปเองแบบตีตนไปก่อนไข้ว่าจะเป็นการ “ผูกขาด” และจะทำให้ “ราคาแพงขึ้น”

“ผูกขาด” นั้นไม่ใช่แน่ เพราะยังมีผู้ให้บริการรายอื่นอยู่ ทั้ง AIS และ NT และ AIS ก็เป็นผู้ที่มีส่วนครองตลาดสูงสุดในเวลานี้ หลังจากการควบรวมของ True และ DTAC แล้ว บริษัทหลังการควบรวมจะไม่ใช่ผู้มีอำนาจเหนือตลาด แต่จะมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ผลักดันให้ AIS ต้องปรับปรุงการให้บริการเพื่อปกป้องส่วนครองตลาดของตน และผู้ให้บริการทุกคนต้องเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้วยการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคมานำเสนอ เพื่อช่วงชิงส่วนครองตลาด

“ราคาแพงขึ้น” ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น ในเมื่อยังมีการแข่งขันที่ไม่ใช่การผูกขาด และหากยังไม่มีเทคโนโลยี การบริการที่ดีกว่า ผู้ประกอบการรายใดขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลให้ผู้บริโภคยินดีจ่ายราคาที่เพิ่มขึ้น ก็เท่ากับฆ่าตัวตาย ไม่มีใครเขาทำกัน แต่ก็มีคนมโนไปเองแบบไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ในการแข่งขันที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ถ้าหากมองฉากทัศน์ตามความเป็นจริง เราเชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาจะเข้มข้นขึ้น เพราะเวลานี้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างด้านเทคโนโลยี ด้านนวัตกรรม และด้านบริการได้ ดังนั้นการแข่งขันด้านราคาและการใช้การส่งเสริมการขาย (Sakes Promotion) ในรูปแบบของสิ่งล่อใจทางการเงิน (Financial Incentives) ที่เป็นการลด แลก แจก แถมนั้น น่าจะเข้มข้นมากขึ้น

การพูดว่าการควบรวมของ True และ DTAC เป็นการผู้ขาดจึงเป็นการมโนไปเอง เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่มีความจริงเชิงประจักษ์ใดๆ สนับสนุนการมโนดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนบางกลุ่มแสดงความคิดเห็นคัดค้านการควบรวมดังกล่าว คณะกรรมการ กสทช.จึงขอความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กสทช.จะต้องพิจารณาอนุมัติการควบรวมหรือไม่ บัดนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งหนังสือตอบกลับ กสทช.ตามที่ได้ขอให้ศึกษาประเด็นการควบรวมกิจการของ True และ DTAC คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับกรณีการรวมธุรกิจ ต้องดำเนินการตามประกาศฉบับปี 2561 ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน มีการกำหนดให้การรวมธุรกิจกระทำได้ โดยผู้ควบรวมจะต้องจัดทำรายงานส่งให้ กสทช. ทั้งนี้สามารถทำได้ทั้งล่วงหน้าและหลังการควบรวม ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาสอดคล้องและตรงกับผลการศึกษาของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยที่ กสทช.มอบหมายให้ทำการศึกษาประเด็นการควบรวมกิจการของ True และ DTAC เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การควบรวมระหว่าง True และ DTAC ที่ยืดเยื้อมานานจะได้มีทางออกเสียที เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาได้กรุณาพิจารณาชี้แนะทางออกตามที่ กสทช.ร้องขอ ก็ควรถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจให้ตรงตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา

การควบรวมครั้งนี้มีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคที่จะได้รับบริการที่ดีขึ้น และจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันด้านราคาที่มีแนวโน้มว่าจะเข้มข้นขึ้น ผู้ประกอบการก็จะมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลกาภิวัตน์ที่ดีขึ้น เพราะเป็นการควบรวมระหว่างบริษัทไทยและบริษัทของยุโรป ทำให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล แบ่งปันความรู้ และภูมิปัญญา ใช้เทคโนโลยีร่วมกัน สามารถลดต้นทุนในการแสวงหานวัตกรรมเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าให้แก่ผู้บริโภค เป็นการเพิ่มศักยภาพให้แก่บริษัทที่มีคนไทยเป็นเจ้าของในเวทีโลก

คนที่ห่วงเรื่องราคาแพงขึ้นนั้น ถ้าหากเข้าใจกลไกการแข่งขันทางการตลาดจะไม่คิดเช่นนั้นแน่นอน ในขณะเดียวกัน กสทช.ก็มีอำนาจตามประกาศฉบับปี 2561 ในการออกมาตรการหรือเงื่อนไขเพื่อป้องกันการกระทำใดๆ ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติและผู้บริโภค รวมทั้งการกำหนดเพดานของราคาค่าบริการตามหลักการของการแข่งขัน ถ้าหากผู้ให้บริการรายใดไม่สามารถสร้างความแตกต่างด้านเทคโนโลยีและการบริการได้ การขึ้นราคาคงไม่ใช่ยุทธศาสตร์การตลาดที่ดี การที่ผู้บริการรายใดจะคิดราคาแพงกว่าผู้บริการรายอื่นนั้น เขาจะต้องสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนจนทำให้ผู้บริโภคมองเห็นความคุ้มค่าที่จะยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น ถ้าเทคโนโลยีไม่มีความแตกต่างกันก็ต้องสู้ด้วยราคา ถ้าหากบริการไม่แตกต่างกันก็ต้องสู้ด้วยราคา เวลานี้ธุรกิจโทรคมนาคมยังมีเทคโนโลยีและการบริการที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ให้บริการคงไม่คิดจะทำลายธุรกิจของตัวเองด้วยการขึ้นราคา โดยไม่มีเหตุผลให้ผู้บริโภคพิจารณาว่าสมควรจะจ่ายในราคาที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการยุค 4.0 ตระหนักดีว่าจะต้องดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ในยุคนี้ขบวนการพิทักษ์สิทธิ์ของผู้บริโภค (Consumerism) มีความเข้มแข็งมาก ผู้บริโภคจะสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีธรรมาภิบาลเท่านั้น ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่สนับสนุนผู้ประกอบการที่ไม่มีธรรมาภิบาลเท่านั้น พวกเขายังพร้อมที่จะพากันประณามผู้ประกอบการรายนั้นบนพื้นที่ Social Media ในลักษณะที่เราเรียกกันว่า Drama ถึงเวลานั้น ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของผู้ประกอบการจะเสียหาย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว กสทช.ต้องตัดสินใจตามคำชี้แนะของกฤษฎีกา อย่าให้มีการยืดเยื้อต่อไปอีกเลย เพราะความล่าช้าในการตัดสินใจจะไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และประเทศชาติที่จะต้องแข่งขันในเวทีโลกาภิวัตน์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

สุขสันต์วันเกิดเมืองยาวหนึ่งปี

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ถือกำเนิดจากพิธีวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัช

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท