ฟังดูมีเหตุผล "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุถึงไทม์ไลน์ยุบสภาของนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 แล้ว จะยังไม่ยุบสภาทันที เหตุผลคือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมายไม่ตกไป นายกรัฐมนตรีต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อลงพระปรมาภิไธยเสียก่อน ในขณะที่ยังไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย จะยุบสภาเลยก็กระไรอยู่ ความเห็นผมคือมิบังควร
ร่างกฎหมายจะอยู่ในระหว่างพระราชวินิจฉัย 90 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 146 ถ้ามิได้พระราชทานกลับคืนมา รัฐสภาต้องพิจารณาว่าจะยืนยันกฎหมายนั้น หรือจะทำอย่างไรต่อไป ฉะนั้นทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อไหร่ นั่นแหละคือเวลาที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร การยุบสภาก็มีเหตุผลและเวลา ด้วยประการฉะนี้ ...๐
คนที่ลุ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมากที่สุด คงหนีไม่พ้น "นพ.ระวี มาศฉมาดล" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะแกนนำสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. ที่ให้ใช้ระบบหาร 100 เพราะระบบนี้มีผลต่อการสูญพันธุ์ของพรรคเล็กโดยตรง แต่พรรคการเมืองอื่นใช่ว่าจะรอดปลอดภัย "นพ.ระวี มาศฉมาดล" ฟันธงว่า "...หาก 3 ป.แตกคอกัน 3 ป.สูญพันธุ์ เพราะโอกาสที่พรรคขั้วรัฐบาลตอนนี้จะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งอีกครั้ง จะเหลือแค่ 40% โดยฝ่ายเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาล 60% โดยหากเป็นแบบนี้ อนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไปรวมไทยสร้างชาติ อาจจะเป็นฝ่ายค้าน แล้วตัว พล.อ.ประวิตรจะมั่นใจได้อย่างไรว่าถึงเวลาจริงๆ เพื่อไทยจะยอมให้บิ๊กป้อมเป็นนายกฯ ..."๐
ช่วงนี้มีข่าวคราว "มือตบ" โผล่มาให้เห็นบ่อยครั้ง ไม่ใช่มือตบวอลเลย์บอลสาวไทย แต่เป็นตบหัว ตบหน้า ข่าวยังรอการพิสูจน์ แต่โซเชียลไปไกลกว่า อย่างกรณีนักแสดงอาวุโสตบนักแสดงรุ่นน้องที่เกาหลีใต้ โซเชียลขยี้กันแหลก ปัจจัยหลักเพราะอยู่คนละขั้วการเมือง กรณี "ม้า" นักตบอาวุโส โดนหนัก เพราะเคยเป่านกหวีดมาก่อน ก็ไม่แปลกโซเชียลสามนิ้วลาก "ม้า" ไปตบแบบออนไลน์
แต่ก็ขำไม่ออก หัวข่าวบอกว่า "มดดำ คชาภา” ฟาด 'ม้า' ปัญญาอ่อน ถ้าตบดารารุ่นน้อง เพราะไม่กินปู เผยข้อมูลเพื่อนสนิท แค่ข้ามคืนมีข่าวมือตบรายใหม่โผล่ "ส.จ.เปี๊ยก-วรรณา รอดพิทักษ์" รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา บอกว่าจะไปแจ้งความ เพราะถูก "พ่อมดดำ-สุชาติ ตันเจริญ" ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ตบหัว พร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างพบกันในงานศพที่วัดทุ่งส่อหงษา หมู่ 11 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ...๐
ข้อเท็จจริงคงต้องพิสูจน์ในศาล แต่เพื่อความเป็นธรรม ฟังความข้าง "พ่อมดดำ" ก็ได้ความว่า... "ส.จ.เปี๊ยก" เคยเป็นลูกน้องคนสนิท เคยมาหาแสดงความเคารพกราบตัก เพราะว่าเคยช่วยชีวิตไว้เมื่อครั้งถูกยิงเกือบถึงชีวิต และยังดูแลครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก ที่มีหลายบ้านเป็นอย่างดี เมื่อพบหน้าครั้งล่าสุดตนเองก็ทักทาย ใช้มือเคาะไปที่หัวในลักษณะที่ไม่ได้รุนแรง เป็นการสัพยอกไปว่า ได้ยินว่า ส.จ.เปี๊ยกชอบพูดจาว่าร้าย ก็เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่...ความสองข้างยังต่างกันอยู่ แต่บรรยากาศก่อนการเลือกตั้งอะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นประชาชนคงต้องฟังเยอะๆ ฟังรอบด้าน แล้วค่อยตัดสินใจ ...๐
วันหยุดไม่ได้หยุด วันอาทิตย์ที่ผ่านมา "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำทัพใหญ่ลุยจังหวัดอุดรธานี พบปะผู้สนับสนุนพรรคและหารือร่วมกับผู้แสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ ไฮไลต์ของงานอยู่ที่การเผยเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่าง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" กับ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" "พล.อ.ประยุทธ์ให้มาเป็นที่ปรึกษาช่วยทำงาน ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยรู้จัก พล.อ.ประยุทธ์มาก่อน แต่ท่านให้ผมช่วยทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จึงตัดสินใจมาทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผมทำงานการเมืองมา 30 ปี ไม่เคยเจอใครที่เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นคนคิดและทำงานเพื่อประชาชนอยู่ตลอดเวลา อาจเห็นท่านเป็นคนโผงผางแต่ในใจคิดถึงประเทศชาติมากที่สุด ซึ่งผมก็คิดเหมือนกัน เวลานั่งคุยก็คุยถึงเรื่องชาวบ้านจะแก้ปัญหาอะไร พอคุยแล้วนายกฯจึงตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จึงคิดว่าจะทำพรรคการเมืองที่อยากทำลองดูสักตั้งหนึ่ง..."
การเดินทางไปอุดรธานีและขอนแก่นของ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ถือเป็นการลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งแรกของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้สนับสนุนพรรคประมาณ 400 คนที่ได้มาพบปะ ล้วนเป็นอดีตกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่ม นปช.อุดรฯ เก่า นำโดย "รัตนาวรรณ สุขศาลา" หรือ "ครูนาง" โดย "ครูนาง" ยืนยันว่า เป็นคนละกลุ่มกับ "ขวัญชัย ไพรพนา" แกนนำกลุ่มคนรักอุดร ตอนนี้ไม่มีสีแล้ว และมารวมกันเพื่อรวมไทยสร้างชาติ รวมกันให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ...๐
เกษมราษฎร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


