

แม้บทความนี้จะผ่านการปรึกษาหารือกับโหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติเพื่อความรอบคอบแล้ว แต่ต้องขอบอกก่อนว่า แม้จะอ้างหลักโหร แต่การทำนายจะเต็มไปด้วยความคาดหวังในทางดีจึงอาจดีความพลาดด้วยเข้าข้างความต้องการหรืออคติของตัวเอง ฉะนั้นควรฟังหูไว้หลายๆหูแล้วควรรอแถลงการณ์ฯจากสำนักพระราชวังเป็นดีที่สุด
ส่วนหากจะเป็นจริงดังคำทำนายให้ถือว่าเป็นเรื่องฟลุ๊คเพราะดวงดาวเป็นเพียงสิ่งบ่งบอก แต่การกระทำ-รักษาเป็นของมนุษย์คือคณะแพทย์ที่ถวายการรักษาอยู่ แต่ถ้าพลาดประการใดผู้เขียนขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
ขอย้อนกลับคำทำนายเดิมที่ว่าแม้คำทำนายดวงชะตาเมืองปี 2565 และของผู้เขียนที่สรุปง่ายๆว่าภายในมีนาคม 2566 ดารา-คนเด่นดัง-นักร้อง-ตลก-เซเลป-หญิงงามโดดเด่นระดับนางพญายังจะเข้าเคราะห์ไม่เลิก แถมด้วยคำทำนายที่ว่าระหว่างประมาณกลางเดือนธันวาคม 2565-15 มกราคม 2566 จะมีนักการเมืองคนสำคัญจากไป
แต่ใครจะนึก-จะคิด-จะคาดว่าทำนายแล้วผลจะออกให้ช็อคตัวเย็นตั้งแต่หัวถึงเท้าว่าเจ้านาย-เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงคือพระองค์ภาฯของพวกเราหรือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาจะทรงพระประชวร
โดยเหตุการณ์คล้ายกันนี้เคยเกิดกับโหรแฉล้ม เลี่ยมเพชรรัตน์ครูโหรผู้ล่วงลับมาแล้ว วันหน้าจะนำมาเล่าให้ฟัง
ในเมื่อเหตุการณ์เกิดแล้วขอย้อนไปตรวจสอบลางจากดวงเมืองรัตนโกสินทร์ตามภาพที่1คือ
ก.1หลักใหญ่คือพระเสาร์จร(7)เทพเจ้าแห่งความระทม-จอมโทษทุกข์ที่เดินในราศีมังกรทำมุมฤทธิโยคถึงพระศุกร์ดวงเดิม(๖)ที่สถิตอยู่ราศีมีนเป็นคู่ศัตรูใหญ่เจ็บไข้ได้ป่วย-พลัดพราก-สูญเสีย-อกหัก-รักคุด-โจรกรรม-ทรยศหักหลัง รอมาตั้งแต่1มีนาคม 2563 แล้ว
ก.2ครั้นวันร้ายคืนร้ายวันเกิดเหตุที่14ธันวาคม 2565พระศุกร์จร(6)เดินเข้าราศีธนูทับพระเสาร์ดวงเดิม(๗)คู่ศัตรูซ้ำเข้าไปอีกหนึ่งคู่ เรียกได้ว่าดาวคู่ศัตรูใหญ่ตรึงกันหรือสมาสัปต์ บ่งบอกว่าเรื่องร้ายเกิดแน่ เพียงแต่จะกับใครที่ชะตาตกเท่านั้น และปรากฎการณ์นี้ตำราเรียกอุบาทว์พระยม
ข.ก่อนหน้านี้มฤตยูจร(0)เจ้าของภัยอาเพศ-เหตุร้ายไม่คาดฝันที่เดินจากราศีเมษเข้าราศีพฤษภไปแล้วตั้งแต่ต้นกรกฎาคม 2565 วันเกิดเหตุถอยหลังกลับเข้าราศีเมษมาเฉียดใกล้พระอาทิตย์ดวงเดิม(๑)ตัวแทนคนมียศ-ศักดิ์-ลูกหลาน-วัยรุ่นและจิตใจของคนส่วนใหญ่ของเมืองที่ตั้งอยู่ในราศีมษให้อกสั่นขวัญหายอีก
ค.วันเกิด-เวลาเหตุพระอาทิตย์ศรีจร(1)ตัวแทนคนมียศ-ศักดิ์-ลูกหลาน-วัยรุ่นของเมืองที่เดินอยู่ในราศีพิจิก ภพที่แปดมรณะดวงเมืองมานานแล้วตั้งแต่กลางพฤศจิกายน 2565 ย่างเข้าเขตนวางค์ขาด-ดินแดนอัตรายพอดีจึงเกิดเหตุร้ายขึ้น
พระอาทิตย์(1)เล็งใส่พระอังคารดวงเดิม(๓)ที่สถิตพฤษภเป็นคู่ศัตรูคู่ที่สาม
ง.พระเสาร์จร(7)เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม(๒)ตัวแทนผลต่อประชาชนวิตกจริต-ตื่นตระหนกตกใจออกมาทำบุญ-สวดมนต์-บวชถวายพระองค์เป็นจำนวนมากซึ่งถูกโฉลกตามตำราจักรทีปนีจรที่บอกให้…ขอคุณพระรักษา ชนม์ชีพจะยืนนาน…
เอาละขณะนี้พระองค์ภาฯทรงอยู่ในมือคณะแพทย์ที่ถวายการดูแลที่เก่งที่สุดในประเทศแล้ว ส่วนโหรก็ขอส่องเข้า(ข้างความต้องการของตัวเอง)ต่อไปคือ
A แม้ความเจ็บไข้ได้ป่วยจะยังอยู่ให้สู้ทั้งคณะแพทย์และพระผู้ทรงประชวรคือยังมีปรากฎการณ์ก.1 แต่ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่1มกราคม 2566เป็นต้นมา เริ่มหยุดปรากฎการณ์ร้าย คือพระเสาร์ตรึงกับพระศุกร์ในดวงเมืองและอุบาทว์พระยมสำหรับรอบนี้แล้ว
B ปรากฎการณ์เด่นชัดอีกอย่างคือเริ่ม15มกราคม 2566เป็นต้นไป เป็นปรากฎการณ์ที่พระอาทิตย์จร(1)ตัวแทนตัวแทนคนมียศ-ศักดิ์-ลูกหลาน-วัยรุ่นของเมืองและหัวใจของเมืองจะเข้าไปเดินในราศีมังกร
---ที่ราศีมังกรเป็นบ้านเดิมของพระเสาร์ที่ใหญ่มากและมีอำนาจเต็ม แถมพระเสาร์จร(7)กำลังเดินอยู่ที่นี่ด้วยมาตรฐานเกษตราธิบดีคือใหญ่-ร้ายคับบ้าน-เมือง
--พระอาทิตย์(1)เมื่อไปเดินอยู่ในบ้านพระเสาร์ทำท่าจะเสียเปรียบแต่พระอาทิตย์(1)กำลังเป็นศรีจร เดินไปที่ไหนให้คุณที่นั่น
--พระอาทิตย์เดินอยู่ในราศีมังกรภพที่สิบดวงเมือง ทางโหรเรียกได้ปัศวะเกณฑ์เข้มแข็งแบบสุริเยนทร์ทรงยศ
--พระอาทิตย์เดินอยู่ในภพที่สิบ-ภพกัมมะดวงเมือง ให้คุณตำราบอก….จะได้ลาภโดยสุภาพดุจใจหมาย…ตีความแบบกำปั้นทุบดินคือจะค่อยๆดีขึ้นแบบสุภาพ
จึงเชื่อว่าตั้งแต่15มกราคม 2566-13กุมภาพันธ์ 2566 ระยะเวลาหนึ่งเดือนความฟื้นกับความเจ็บไข้ได้ป่วยกับพระผู้ทรงประชวรคงพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่เสียเปรียบเท่าช่วงที่ผ่านมาจึงต้องอาศัย
Cคณะแพทย์ผู้รักษาดูแลประคับประคองให้ทรงเข้มแข็งขึ้น มีอะไรก้าว-ล้ำหน้าให้จัดการเลย(พฤหัสบดีจร5ตัวแทนคณะแพทย์-ผู้ถวายการดูแลเดินอยู่ในราศีมีนโยคหน้าพระอาทิตย์จร1เป็นคู่มิตรและโยคหน้าทำให้พระอาทิตย์เข้มแข็ง)
Dบวกกับระยะพระอาทิตย์ที่กำลังเดินในราศีมังกรนี้ไม่ได้ทำมุมร้ายกับพระอังคารดวงเดิม(๓)อีกแล้ว แต่อยู่ในลักษณะร่วมธาตุซึ่งถือเป็นมุมดีเอื้อประโยชน์บ้าง ไม่ปะทะหรือเดินยุทธใส่กัน แม้จะเป็นคู่ศัตรูกันก็เถอะ
สรุปแม้จะสู้หนักก็น่าจะมีแววดีบ้าง
และฝากบอกประชาชนทั้งประเทศที่จงรักภักดีว่า ขอให้เชื่อในการ-บวชสวดมนต์ถวายพระพรพระองค์ท่านเพราะตำราบอกชัดเจนว่าพระเสาร์จร7ที่เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม(๒)ที่จะเป็นไปถึงวันที่1มีนาคม 2566นั้นการสวดมนต์จะมีพลังมากตามโฉลก…เสาร์(จร7)ทับ(หรือเล็ง-ที่ร้ายกว่าทับ)พระเคราะห์จันทร์(๒) นระนั้นบ่มิสบาย ทรัพย์สินจะสูญหาย อุปสรรคจะมีมา ข้าคนและลูกเมีย ก็จะเสียและโศกา ขอคุณพระรักษา ชนม์ชีพจะยืนนาน
เพราะหากผ่าน 13 กุมภาพันธ์ 2566 ไปแล้วจะได้ลุ้นพระอาทิตย์ศรีจรเข้มแข็ง-พลิกร้ายเป็นดีไปอีกสองเดือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องด้อยค่าลุงตู่
ตลอด 8 ปีที่ลุงตู่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายตรงกันข้ามลุงตู่ก็สร้างวาทกรรมด้อยค่าลุงตู่มาตลอด
'โผผู้การ' ร้อน 'บิ๊กบี้' เอาจริง
รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม การแต่งตั้ง นายพัน นอกวาระประจำปี ตำแหน่ง สารวัตร (สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)
ผู้ที่เหลือรอดจากการ'แพ้-ชนะ'ของแต่ละฝ่าย
ไม่ว่าใครต่อใคร? ฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน? ประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย? ก็เถอะ!!!...โอกาสที่จะอยู่ในฐานะ ผู้ที่เหลือรอด ภายในโลกยุคนี้ หรือในอนาคตอันใกล้ น่าจะไม่ถึงกับ ง่าย มากมายซักเท่าไหร่นัก
ผลของพฤหัสบดีจรย้ายจากมีนเข้าเดินในเมษต่อคนทุกลัคนาราศี(ตอนที่1)
พฤหัสบดีทางโหราศาสตร์ใช้ ๕ เป็นสัญลักษณ์(ดาวในดวงกำเนิดใช้เลขไทย) เป็นหัวหน้าดาวดี หรือศุภเคราะห์ดวงใหญ่ที่สุด มีคุณูประการมากคอยคุ้มครองทุกดวงชะตา
'มาตรฐาน'ที่ควรยึดมั่น!!!
ถ้าหากยังไม่ได้ถึงขั้น พระอรหันต์ ...ไม่ว่าใครๆ ก็เถอะ!!! ย่อมมิอาจเพอร์เฟกต์สเปกชั่นนิสต์ หรือย่อมมิอาจ สมบูรณ์แบบ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ย่อมหลุดบ้าง เลอะบ้าง เข้ารก-เข้าพง ออกอ่าว-ออกทะเล ไปตามมี-ตามเกิด หรือตาม ธรรมชาติ
ยอมรับความจริง...พูดความจริงเป็นกันไหม
เวลานี้พรรคการเมืองต่างๆ ออกมาพูดจาปราศรัยหาเสียงกันครึกโครม มีทั้งพูดความจริง มีทั้งสร้างวาทกรรมบิดเบือนความจริง กล่าวคำเท็จ และขายฝันแตกต่างกันไป