
ปัจจุบันเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกภาคส่วน ทั้งการดำเนินชีวิต ภาคการผลิตและอุตสาหกรรม รวมไปถึงทางด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและความผันผวนทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยที่ท้าทายผู้ให้บริการทางสาธารณสุขทั่วโลกในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และคิดค้นรูปแบบการดูแลรักษาผู้ป่วยใหม่ๆ
ในขณะที่วงการเฮลท์แคร์ยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น จึงหันมาให้ความสำคัญกับการยกระดับความเท่าเทียมด้านการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ตลอดจนความจำเป็นในการลดก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมเพื่อการรักษาสุขภาพของโลกเช่นกัน
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความท้าทายข้างต้น ฟิลิปส์จึงได้รวบรวม 10 เทรนด์เทคโนโลยีเฮลท์แคร์ที่คาดจะมาแรงในปี ค.ศ.2023 นี้ 1.การนำเทคโนโลยีด้านระบบการทำงานอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้วย รายงานจาก Philips Future Health Index 2022 report พบว่า ปัญหาด้านบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ดังนั้นการได้นำ AI เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์
2.การนำ AI มาใช้กับการพัฒนาและเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลผ่านการฝึกอบรมและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ยังจำเป็นต้องได้รับความรู้และการฝึกอบรมที่เหมาะสมเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ในอนาคตจะเห็นความต้องการบริการด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3.ใช้ AI ในการปฏิบัติงานทางไกล หรือผ่านการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยหนึ่งในวงการเฮลท์แคร์ 4.โซลูชันด้านสารสนเทศ เพื่อเป็นสื่อกลางและทำให้สามารถทำงานร่วมกับหลากหลายเครื่องมือหรือหลายระบบ
5.เฮลท์แคร์กำลังย้ายไปอยู่บนคลาวด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญในการเชื่อมต่อและบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้านเฮลท์แคร์ โดยการประยุกต์ใช้คลาวด์ในวงการเฮลท์แคร์เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งน่าจะได้เห็นการนำคลาวด์ไปใช้ทั่วทุกมุมโลกในปี 2023 นี้ และน่าจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของโซลูชัน software-as-a-service (SaaS) ที่ส่งผ่านระบบคลาวด์ตามมา
6.การติดตามอาการผู้ป่วยอย่างไร้รอยต่อทั้งในและนอกโรงพยาบาล สร้างรากฐานของระบบสาธารณสุขที่สามารถเชื่อมต่อจากโรงพยาบาลไปสู่บ้านผู้ป่วยและชุมชน จากรายงาน Philips Future Health Index 2022 report ระบุว่า ในวงการเฮลท์แคร์เล็งเห็นว่า การดูแลรักษาผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ต้องหันมาให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ รองจากความพึงพอใจและการรักษาบุคลากรทางการแพทย์ในองค์กร การให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้องในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับผู้ป่วยได้
7.มุ่งเน้นการส่งมอบบริการทางสาธารณสุขที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 เร่งให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้านเฮลท์แคร์เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มการเข้าถึงด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและพื้นที่ชนบท 8.การหมุนเวียน ในเทคโนโลยีเฮลท์แคร์นั้น 'การหมุนเวียน' เกี่ยวข้องกับกระบวนการใช้เครื่องมือแพทย์ การนำสมาร์ทดิจิทัลมาใช้ยังช่วยให้ระบบดูแลสุขภาพสามารถลดการใช้ทรัพยากรการผลิต
9.ลดคาร์บอนในวงการเฮลท์แคร์ให้สอดคล้องกับการตั้งเป้าตามหลัก Science-based ซึ่งผู้ประกอบการในวงการเฮลท์แคร์ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก และพยายามลงมือทำบางอย่างเพื่อรับผิดชอบต่อปัญหาดังกล่าว โดยบริษัทเครื่องมือแพทย์และบริษัทเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์มีการตั้งเป้ากำหนดเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนตามหลัก Science-based และ 10.สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีต่อสุขภาพของประชากร.
บุญช่วย ค้ายาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด
เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP
อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ
ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

