เศรษฐกิจไม่เหมือนธุรกิจนะ...ขอบอก

ลุงตู่ที่มีคนเขาดูแคลนว่าเป็น รปภ.ขับเครื่องบิน ได้กล่าวสุดยอดวาทกรรมในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "เศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง" เป็นวาทกรรมที่เป็นจริงตรงตามตำราเศรษฐศาสตร์และตำราบริหารธุรกิจ ดังนั้นเราจงอย่าคิดว่าคนที่บริหารธุรกิจของครอบครัวได้ประสบความสำเร็จจะเป็นคนบริหารเศรษฐกิจประเทศได้ดีเสมอไป การบริหารธุรกิจเป็นเรื่องจุลภาค (การมองในมุมที่เล็กกว่าเศรษฐกิจของประเทศ) ไม่ใช่เป็นเรื่องมหภาค (การมองในมุมที่กว้างกว่า หลากหลายมิติกว่า และต้องมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีปัจจัยที่ต้องมองมากกว่าการบริหารธุรกิจ) การบริหารเศรษฐกิจของประเทศเป็นการบริหารแบบมหภาคที่ต้องมองปัจจัยแวดล้อมที่กว้างขวางกว่าการทำให้ธุรกิจเติบโต

  • สภาพเศรษฐกิจของโลกเป็นอย่างไร เราอยู่ตรงไหนของสนามแข่งขันระดับโลกาภิวัตน์
  • ระบบภาษีเราดีพอแล้วหรือยัง การขึ้นภาษีหรือลดภาษีจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นอย่างไร เราจะให้ค่าเงินบาทแข็งหรืออ่อน ถ้าหากเงินบาทแข็งจะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมใดอย่างไร และถ้าหากเงินบาทอ่อนจะมีผลกระทบอะไรอย่างไรกับอุตสาหกรรมไหน
  • อัตราการจ้างงานเป็นอย่างไร จะเพิ่มอัตราการจ้างงานได้อย่างไร
  • จะรักษาระดับเงินเฟ้อได้อย่างไร
  • จะมีนโยบายในการดึงการลงทุนจากต่างประเทศได้อย่างไร
  • การแข่งขันในเวทีโลก เราจะแข่งขันด้วยอุตสาหกรรมใดที่ทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขัน
  • จะบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างไรที่จะทำให้เราได้เปรียบด้านโครงสร้างต้นทุน
  • จะบริหารห่วงโซ่แห่งคุณค่าอย่างไรให้เราได้เปรียบในการแข่งขัน
  • จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านใด เพื่อให้ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
  • จะเสริมสร้างความรู้และทักษะทรัพยากรมนุษย์อย่างไร จึงจะทำให้พวกเขาเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ที่ทำให้เราได้เปรียบในเชิง Economy of Scale และ Economy of Knowledge
  • ค่าแรงขั้นต่ำควรจะเป็นเท่าใดจึงจะทำให้เราได้เปรียบด้านต้นทุน และสามารถรักษาระดับเงินเฟ้อได้เหมาะสม ตลอดจนกระทั่งสามารถสร้างความได้เปรียบทางด้านราคา
  • จะบริหารเงินทุนสำรองของประเทศอย่างไรให้ต่างชาติมั่นใจและเต็มใจที่จะค้าขายกับเรา
  • ราคาของสินค้าทุน เช่น พลังงานควรจะอยู่ในระดับใดที่จะทำให้โครงสร้างของต้นทุนอยู่ในระดับที่เหมาะสม
  • เราจะดูแลพืชเศรษฐกิจและสินค้าส่งออกที่เป็นหลักของประเทศอย่างไร เพื่อดำรงศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยให้มีความยั่งยืน
  • เราจะวางนโยบายการค้าระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร จึงจะทำให้เราสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศชาติให้เข้มแข็งได้ในยุคโลกาภิวัตน์
  • ฯลฯ และเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่คนเก่งการบริหารธุรกิจครอบครัวอาจจะไม่มีความรู้ หรืออาจจะไม่ให้ความสำคัญ เพราะเขาไม่ได้คิดถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ เขามองแต่ยอดขาย กำไร และการเติบโตของธุรกิจเท่านั้น ส่วนธุรกิจในภาคส่วนอื่นๆ ที่เขาไม่ได้ทำ หรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของครอบครัว เขาจะไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ ไม่คิดที่จะพัฒนา

เราก็เคยเจอมาแล้ว บางคนเก่งงานด้านประชาสัมพันธ์ที่เป็นงานการสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้กับธุรกิจ เป็นเหมือนการแต่งหน้าทาปากให้ธุรกิจ (Cosmetics of business) ก็ยังมาอ้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่งานที่เขาทำได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นก็เหมือนคนตัดม่านประดับบ้าน จัดแจกันประดับบ้านให้สวยงามได้ แต่กลับมาอ้างว่าตัวเองสร้างบ้านได้ทั้งหลัง มันใช่ไหมนะ เพราะการจะสร้างบ้านได้มันต้องการความรู้และทักษะอีกหลายอย่างที่เหนือกว่าการตัดม่านและการจัดแจกัน

ในขณะเดียวกัน คนที่มีความรู้และทักษะสร้างบ้านได้จะอ้างว่าตัวเองจัดสวนได้ก็ไม่ใช่นะ การสร้างบ้านและการจัดสวนมันคนละศาสตร์กันนะ จะอ้างว่ามีความสามารถตัดถนน สร้างถนน วางท่อประปา วางเสาไฟฟ้าได้ก็คงไม่ใช่อีกนั่นแหละ การสร้างบ้านและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมันเป็นคนละศาสตร์คนละศิลป์กันแน่นอน ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดกันว่าคนเก่งการบริหารธุรกิจที่เป็นเรื่องจุลภาคจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ทุกคนไป บางคนอาจจะใช่คนที่เก่งทั้งจุลภาคและมหภาค ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นมันต้องมีผลงานให้เราเห็น ทั้งการกระทำหรือการวิเคราะห์ที่เป็นเหตุเป็นผล มีตรรกะที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ การบริหารเศรษฐกิจของประเทศกับการบริหารธุรกิจของครอบครัวมันต่างกันมากนะ โปรดเข้าใจด้วย อย่าให้ใครเขาหลอกเอานะ ยุคนี้คนที่เขาคิดว่าประชาชนโง่หลอกง่ายมีเยอะนะ เรากินข้าว อย่าให้คนคิดว่าเรากินหญ้า

บางคนโผล่มาด้วยตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนพรรคการเมืองใดๆ ก็พูดจาด้วยวาทกรรมบิดเบือนเรื่องผลงานของลุงตู่ เหมือนจะทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ บอกประเทศย่ำแย่ จะล่มจม จะลงเหว เศรษฐกิจถดถอย สวนทางกับความจริงเชิงประจักษ์ทั้งระดับประเทศและธุรกิจของตัวเอง ทำไมไม่มีความละอายบ้าง พูดจาโกหกชัดเจน ทำธุรกิจเก่ง ประสบความสำเร็จสูงขนาดนี้ ต้องเป็นคนเก่ง ต้องมองเห็นความจริงเชิงประจักษ์ว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ทั้งเงินทุนสำรอง การส่งออก การท่องเที่ยว และธุรกิจหลายอย่างในประเทศ เพราะนโยบายและโครงการต่างๆ ของลุงตู่ ทำไมจึงกล้าพูดจาบิดเบือนความจริงเพื่อหลอกลวงประชาชนได้ขนาดนี้ เก่งแล้ว จะเป็นคนดีด้วยไม่ได้หรือไร น่าเสียดายถ้าเราจะมีคนเก่งแต่ชั่ว ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะไม่หาข้อมูลจึงไม่รู้ หรือจริงๆ แล้วรู้แต่จงใจที่จะบิดเบือนความจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง คนเราถ้าหากไม่มีศีลธรรม จริยธรรม ไม่รู้หลักธรรมาภิบาล ก็อย่าคิดอ่านมาบริหารประเทศเลย มันไม่น่าไว้วางใจนะ...ขอบอก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท

สูตรแต่งตั้งตำรวจ

กว่าจะเคาะ กว่าจะคลอด ก็นั่งนับนิ้วกันแทบหงิก เพราะ 180 วัน ตามเงื่อนไขการบังคับใช้กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567

'ดร.เสรี' ข้องใจ 'นักโทษทิพย์' หายป่วยทิพย์กระทันหัน หรือต้องการเย้ยไยไพ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้คนจำนวนมากสงสัยอาการป่วยไข้ การได้อยู่ห้อง VV

ดร.เสรี สงสัยผู้ใหญ่วัยเกิน 35 ทำไมเป็น 3 กีบ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โฟซบุ๊กว่า เด็กๆเป็น 3 กีบพอเข้าใจได้ว่าเขาความรู้น้อย ประสบการณ์น้อย วุฒิภาวะยังไม่ดีพอ ข้อมูลน้อย จึงถูกครอบงำด้วยความเท็จง่าย