ความแน่นอนของความไม่แน่นอน

ตลอดไปจนอดีตขุนพลปักษ์ใต้ ปชป.ถูกถีบทิ้ง จนต้องหันไปคบคิดกับสามมิตร ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรทำนองนี้ ไม่ว่าจะหนักไปทางเฟกนิวส์ ฟักนิวส์ หรือแฟกนิวส์หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ มันจึงเป็นสิ่งที่ต้องอุบัติตามมา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ...

-------------------------------------------------   

คล้ายๆ กับอาการของผู้ที่ใกล้ขี้ ขี้ใกล้จะหลุดตูด อะไรทำนองนั้น...แม้ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านจะพยายามขมิบๆ เอาไว้อย่างชนิดหน้าเขียว หน้าเหลือง เพียงใดก็แล้วแต่ แต่สุดท้าย...ก็คง อั้นไม่อยู่ ภายในอีกไม่น่าจะไม่ช้า-ไม่นานนับจากนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังๆ นั้น คงต้องยอมรับว่า หูรูด ของท่านนายกฯ ท่านไม่ค่อยจะดี ไม่ถึงกับมีประสิทธิภาพ ในการรูด การขมิบมากมายซักเท่าไหร่นัก แม้จะถนัดเชี่ยวชาญในการ กินยาถ่าย-แล้ววานให้คนอื่นขี้ มาโดยตลอดก็ตาม ดังนั้น...โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะออกอาการพล่านไป-พล่านมา นับแต่นี้ไปจนอีกกี่เดือน-กี่ปีก็แล้วแต่ จึงมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

----------------------------------------------------

คือพูดง่ายๆ ว่า...โอกาสที่จะเกิดความสงบ เรียบ-นิ่ง หรือแบบที่เรียกๆ กันว่า การเมืองนิ่ง อันจะเป็นตัวเปิดช่อง เปิดทาง เปิดโอกาส ให้กับการ แก้ปัญหา ต่างๆ ได้อย่างปลอดโปร่ง โล่งสบาย น่าจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เย็นแสนเข็ญยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่สิ่งที่ถือเป็น ปัญหา ในช่วงระหว่างนี้ หรือในอนาคตเบื้องหน้าในอีกไม่นาน-ไม่ช้า ล้วนแล้วแต่หนักไปทางปัญหาประเภท ปราบเซียน ไปด้วยกันทั้งสิ้น แค่เฉพาะต้องเจอกับท่านเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เก่า หรือสายพันธุ์ เดลตา ล้วนๆ ก็เล่นเอาแทบไปไม่ออก ไปไม่เป็น หา จุดสมดุล แทบไม่เจอ โดยเฉพาะระหว่างการ อดตาย กับการ ป่วยตาย แต่นี่ยังต้องเตรียมตัวรับมือกับท่านเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ หรือสายพันธุ์ โอไมครอน หรือ โอมีครอน เข้าไปซะอีกต่างหาก โอกาสที่จะ ไทยแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ กอบกู้รายได้ประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ที่หดหายไปก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งลำบากยากเข็ญ ยิ่งขึ้นไปใหญ่...

-----------------------------------------------------

เรียกว่า...ไม่ว่าจะสะสมทองคำ สะสมเงินทุนสำรอง ไปถึงระดับไหนต่อระดับไหนก็ตามที แต่ถ้าลองว่ามีแต่ต้อง จ่าย...กับ...จ่าย แทบมองไม่เห็น รายรับ ใดๆ ซักกี่มาก-น้อย โอกาสที่จะต้องแห้งเหี่ยว หัวโต ไม่มีสิทธิ์ที่จะ ประชานิยม  หรือ ประชารัฐ ใดๆ ต่อไปได้อีกเลย และนั่นอาจส่งผลให้กับ คะแนนนิยม ที่ค่อนข้างจะหดๆ หายๆ ในช่วงหลังๆ อาจมีสิทธิ์ที่จะหด จะเหี่ยว พอๆ กับผู้ชอบรับประทานก๊วยเตี๋ยวญวนเวียดนามเอาเลยก็ไม่แน่ ขณะที่ ฝ่ายตรงข้าม อย่างพรรคเผาไทย ทำท่าว่าชักจะมาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ความ ไม่นิ่ง ของการเมือง จึงย่อมส่งผลเสีย-ผลได้ ต่อผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางการเมือง อย่าง รัฐบาล มากบ้าง-น้อยบ้าง ไปตามสภาพ...

------------------------------------------------------

และถ้าหากดันต้องไปยุบ-ไปเลิก-ไปเลือก...เอาตอนจังหวะที่กำลังใกล้จะ ขึ้นเมรุ พอดิบพอดี หรือถ้าดันเกิดอาการ ขี้ราด ไม่อาจขมิบใดๆ ต่อไปอีกได้ ในจังหวะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังล่มสลาย พังทลาย อันนี้...ก็ยิ่งหนักหนา-สาหัสยิ่งขึ้นไปใหญ่ ไม่ว่าจะเตรียมพรรค เตรียมคน ย้ายพรรค ย้ายคน เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครในลักษณะไหนต่อลักษณะไหนก็แล้วแต่ แต่โอกาสที่จะ ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น นอนพนมมือเอาน้ำมะพร้าวอาบหน้า ฟังเสียงพระสวดกุสลาธัมมา-อกุสลาธัมมาไปเรื่อยๆ หรือไปจนกว่าจะ เผา ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...

---------------------------------------------------

ทำไงได้...ในเมื่อในแง่ของ ความเป็นประชาธิปไตย แล้ว มันก็คงต้องเป็นไปตาม ธรรมชาติทางการเมือง แบบที่อดีตนักปราชญ์ชาวอิตาลี นาย นิโคโล แมคเคียวเวลลี ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละว่า โดยธรรมชาติแล้ว..ประชาชนเปลี่ยนใจง่าย หรือ โดยธรรมชาติแล้ว...ผู้คนทั่วไปล้วนเป็นคนธรรมดา ที่ถูกครอบงำโดยความต้องการปัจจุบัน จนกระทั่งผู้ที่ถนัดในการหลอกลวง สามารถพบคนที่พร้อมให้หลอกลวงได้เสมอๆ การยุบ-การเลิก-และการเลือก ในช่วงจังหวะเวลาที่ยังไม่มีความชัดเจน หรือจำเป็นต้องเลือกในขณะที่ขี้ยังเต็มกุงเกง อันนี้นี่แหละ...ที่มันอาจจะ เสร็จ คุณพี่ โทนี่-โทนาฟ เอาง่ายๆ...

------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่คงต้องพยายามมองหา แปลน-บี เอาไว้ก่อนล่วงหน้า แม้ว่าโลกใบนี้มันจะไม่มี โลก-บี อย่างที่ท่านนายกฯ ท่านได้ไปสปีก-สโปก ณ ที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละ เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า การผูกติดระหว่าง อนาคตบิ๊กตู่ กับ อนาคตชาติบ้านเมือง มันดันถูกผูก ถูกขมวด ชนิดแทบเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ไปจนได้ แม้จะเก่ง จะถนัดเชี่ยวชาญในการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ เพียงใดก็แล้วแต่ แต่สำหรับเรื่องของอนาคตชาติบ้านเมืองนั้น ย่อมมิอาจนำไป เสี่ยง ได้เลยแม้แต่น้อย...

 ---------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Peter F. Drucker” (อีกครั้ง)... “The best way to predict the future is to create it.-วิธีคาดคะเนอนาคตที่ดีที่สุด...ก็คือการสร้างสรรค์มันขึ้นมา...”

-----------------------------------------------