บันทึกหน้า 4

Www.thaipost.net ไทยโพสต์ ขับเคลื่อน "อิสรภาพแห่งความคิด" @ ประชาชื่น 46 ติดตามข้อมูลข่าวสารได้เพิ่มเติม Facebook : https://www.facebook.com/thaipost, Twitter : https://twitter.com/thaipost, Instagram : https://www.instagram.com/thaipost_ig/ และ Youtube : https://www.youtube.com/c/ThaipostTV

๐ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงิน 10,000 บาท ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อใช้ในการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันของพรรคเพื่อไทย โดย “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก เป็นประชานิยมสุดโต่ง สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือไม่ 

มีการตั้งข้อสังเกตคือ เข้าข่ายเป็นสินบน หรือสัญญาว่าจะให้หรือไม่ หรือเป็นนโยบายที่ใช้หาเสียง เพราะการให้ทั่วไปทุกคนก็เป็นสินบนได้, การเอาเงินของใครมาแจก จากตนเองหรือจากงบแผ่นดิน ก็เป็นสินบนได้ และปัญหานี้เมื่อถูกทำเป็นปัญหากฎหมาย ก็จะถูกขมวดอยู่ตรงที่ “เจตนา” ว่ามุ่งจะใช้เป็นนโยบายหรือสินบนกันแน่    

จึงต้องพิสูจน์ ที่ว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นนั้นเป็นอย่างไร อะไรคือสภาพปัจจุบัน แล้วเงินที่เหวี่ยงไปนี้ จะเกิดอะไรขึ้น และพรรคเพื่อไทยอธิบายหน่อยว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคจะใช้เงินเท่าไร แล้วเงินดิจิทัลนี่เท่าใด สรุปแล้วเงินพอไหม ต้องหักค่าใช้จ่ายประจำก่อนด้วยประมาณรายรับของงบประมาณไว้เท่าใด หรือต้องกู้กันแน่ ทั้งที่ขณะนี้จะเกินวงเงินหนี้สาธารณะแล้ว 

๐ นอกจากนี้นักการเมืองทางฝั่งนักวิชาการและผู้ติดตามการเมืองก็ออกมาตั้งข้อสังเกตนโยบายนี้ไล่เรียงจาก ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง ให้ความเห็นว่า “ประกาศว่าจะแจกเงินให้เปล่า 10,000 บาทต่อคน ดีสำหรับคะแนนเสียงนะครับ แต่ไม่ดีต่อประเทศเลยแม้แต่น้อย นี่เรากำลังบริหารประเทศหรือเล่นเกมอยู่ครับ”             

ต่อด้วย รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร นิด้า กล่าวว่า “เพื่อไทยกำลังทำอะไร ถ้าต้องจ่ายคนละ 10,000 บาท เท่ากับต้องใช้เงินมากกว่า 5.4 แสนล้าน เป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้ว แต่สร้างปัญหาเงินเฟ้อและหนี้สาธารณะ”

รศ.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ บอกว่า “นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท หากได้ทำจริง ข้อดีคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ข้อเสียคือเพิ่มภาระงบประมาณ ซ้ำเติมหนี้สิน นโยบายนี้เป็นเรื่องหาเสียงมากกว่า” ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ กกต.ผู้คุมกติกา ควรเรียกเพื่อไทยมาชี้แจง ก่อนบ้านเมืองจะล้มละลาย

๐ จากนโยบายสู่เรื่องเป้าจริงเป้าหลอกว่าใครจะเป็นนายกฯ เบอร์หนึ่งพรรคตระกูลชินฯ หลังโพลต่างๆ เชียร์ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่ก็ถูกมองว่าอาจเป็นตัวหลอกเรียกคะแนน เพราะท้ายสุดก็มอบให้พ่อค้าขายบ้านอย่างเศรษฐา ตอกย้ำ โดย “เสี่ยโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ   บอกว่า นายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ออกข่าวว่าโอนหุ้นแสนสิริให้คนอื่นหมดแล้ว ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดในแสนสิริ เขาเตรียมตัวพร้อมจะเป็นนายกฯ แล้ว แสดงว่าเขาคุยกันแล้วว่าจะเป็นนายกฯ ของเพื่อไทย 

"ผมก็ไปดูอุ๊งอิ๊งโอนหุ้นออกไปหรือยัง ทำเหมือนเศรษฐาหรือเปล่า เตรียมตัวเป็นนายกฯ หรือเปล่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสทฯ 1,200 ล้านหุ้น 28.54% คือยังถือหุ้นอยู่ ยังไม่โอนหุ้นออกไป แปลว่าถ้าเทียบสองคนนี้แล้ว นายเศรษฐาเตรียมตัวเป็นนายกฯ แล้ว อุ๊งอิ๊งยังไม่ได้เตรียมตัว ยังไม่ได้โอนหุ้น ฟันธง เลือกพรรคเพื่อไทย ได้เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ แน่นอน"   

สิ่งที่ฝากเตือนในอดีตมีประวัติมาแล้ว ถ้าเป็นนายกฯ ต้องทำงานตามที่นายใหญ่ หรือเจ้าของพรรคสั่ง ถ้าไม่ทำตามก็จะขัดใจนายใหญ่ ก็จะอยู่ไม่ได้   

ยกตัวอย่างบทเรียนในอดีต ปี 50 พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง รวบรวมเสียงข้างมากได้ ให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ได้ระยะหนึ่งมีปัญหา ต้องมาโหวตเลือกนายกฯ กันใหม่ ตอนแรกก็จะโหวตให้นายสมัครเป็นนายกฯ ต่อ แต่นายใหญ่ไม่เอา ไม่ทำตามใจ อยู่ไม่ได้ โหวตกันใหม่ ได้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ แทน ทำไมเป็นนายสมชาย นายสมชายคือน้องเขยนายใหญ่ 

 “ฉะนั้น ก็เตือนไปถึงนายเศรษฐา ถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกฯ ก็มี 2 ทางเลือก ทำตามนายใหญ่ ไม่อยากใช้คำว่านอมินี ถ้าทำตามไม่ได้ ก็ไปเป็นน้องเขย ไปเป็นคนในครอบครัว จะได้ทำงานได้อย่างมั่นคง" รมต.ชัยวุฒิจาก พปชร.ฝากไว้.

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองเชียร์ไม่เยอะ

กระแสข่าวเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เล่นเอารัฐมนตรีว้าวุ่นแล้ว ไม่พอยังลามไปถึงการยกเครื่อง การทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย

บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ฝุ่นยังตลบอยู่ทุกวันสำหรับโผ ครม. โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า

รมต.สมัย16?

แม้ในวันที่ 17 เมย. "นายกฯนิด" เศรษฐา ทวีสิน บอกว่ายังไปไม่ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ไม่ใช่ว่าหลังจากนั้นจะไม่ปรับ

บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" แม้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จะไม่กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แต่หันไปใช้แนวทางใหม่คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ปี 67 จำนวน 175,000 ล้านบาท และงบปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท และงบจาก ธ.ก.ส. จำนวน 172,300 ล้านบาท

“นาย...”

หากคิดถึง “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1 ) และอดีตรองโฆษกรัฐบาล นอกจากเป็นนักการเมืองดาวรุ่งแห่งบ้านใหญ่ของแท้แห่งเมืองศรีสะเกษ

บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" จับตาผลงานชิ้นโบดำอีกชิ้นของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 9 เม.ย.