การมองโลกในแง่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของเรามีความสุข การคิดบวกเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเราเป็นบวกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และการทำงาน วันนี้มีคนส่งนิทานเรื่องหนึ่งมาให้อ่าน ท่ามกลางความกังวลของคนมากมายเกี่ยวกับปัญหาการบ้านการเมือง
มนุษย์ป้าคิดว่าเหมาะเจาะ สอดคล้องกับอารมณ์ของใครหลายๆ คนในยามนี้ จึงต้องนำมาขยายต่อ..ลองอ่านดูนะจ๊ะ..
กาลครั้งหนึ่ง มีนครอยู่นครหนึ่ง และมีกษัตริย์ครองนคร กษัตริย์ทรงโปรดปรานการท่องป่าล่าสัตว์เป็นอันมาก กษัตริย์ทรงมีมหาดเล็กคู่ใจเป็นที่ปรึกษาอยู่คนหนึ่ง ...วันหนึ่งได้เกิดกบฏขึ้นภายในพระนคร มีคนลุกฮือขึ้นจะโค่นอำนาจกษัตริย์ ซึ่งก็มีแววจะชนะซะด้วย เมื่อกองทัพกบฏประชิดเมืองกษัตริย์ก็ได้ปรึกษากับคนสนิทเป็นการใหญ่ซึ่งรวมไปถึงมหาดเล็กคู่ใจของเขาด้วย กษัตริย์ถามว่า
"เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง”
สถานการณ์เวลานี้แม้จะดูไม่สู้ดีนัก แต่อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าใครบ้างที่จะจงรักภักดีกับเรา ใครที่คิดจะแปรพักตร์ไปด้านโน้น ซึ่งหากเราปราบกบฏครานี้ลงได้ ท่านก็จะเหลือแต่ลูกน้องที่จงรักภักดีกับท่าน ทำให้ไม่ต้องกังวลพระทัยอีกต่อไปพะยะค่ะ”
“อืม นั่นสินะ” หลังจากนั้นกษัตริย์ก็มีกำลังใจเป็นอันมาก และปราบกบฏลงสำเร็จ หลังจากนั้นไม่นานพอย่างเข้าหน้าฝน ฝนก็ตกหนักจนท่วมลามเข้าในพระนครทำให้การคมนาคมติดขัด ไม่สามารถเดินทางออกนอกพระนครได้ กษัตริย์ที่ปกติจะออกป่าล่าสัตว์ก็เกิดอาการหงุดหงิดกษัตริย์ก็ปรึกษามหาดเล็กอีกครั้ง
“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง”
“ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ ก็ไม่เป็นไรพะยะค่ะ เนื่องจากตอนนี้เป็นหน้าฝน อย่างไรเสียการเสด็จออกป่าก็คงไม่สนุกเป็นแน่แท้ และเป็นการดีเสียอีกที่พอน้ำลดเกษตรกรเราก็จะได้ทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตงอกงาม และสามารถกักตุนเสบียงได้ในยามจำเป็นพะยะค่ะ”
“อืม นั่นสินะ” พอเสร็จสิ้นหน้าฝนและน้ำลดแล้ว กษัตริย์ก็ทรงออกป่าล่าสัตว์ตามที่พระองค์ชอบเหมือนเดิม ซึ่งมหาดเล็กคนเดิมก็ติดตามไปด้วย แต่แล้วขณะที่พระองค์ทรงอยู่บนหลังม้าปลอกพระขันธ์หรือมีดพกที่เหน็บเอวได้รั่วทำให้มีดหล่น เฉือนนิ้วก้อยของกษัตริย์ขาดไปต่อหน้าต่อตากลายเป็นคนนิ้วด้วน กษัตริย์จึงถามมหาดเล็กเช่นเดิม
“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง หา (ใส่อารมณ์โกรธสุดๆ)”
“ยังไงก็ดีกว่าตายพะยะค่ะ”
กษัตริย์โกรธเลือดขึ้นหน้ามาก สั่งทหารนำมหาดเล็กคนนั้นไปขังลืมในคุกขี้ไก่... และแล้ว 10 ปีผ่านไป กษัตริย์ได้ออกล่าสัตว์เหมือนเดิมขณะที่มหาดเล็กก็ยังถูกลืมอยู่ในคุกขี้ไก่เหมือนเดิม ครานี้เป็นโชคร้ายของกษัตริย์ เมื่อเข้าป่าไปเจอกับเผ่ากินคนซึ่งมีจำนวนมากกว่าจำนวนทหารที่ติดตามไปด้วยมาก ทหารทั้งหมดจึงถูกจับและถูกต้มกินเป็นๆ หมดเกลี้ยงจนเหลือแต่กษัตริย์คนเดียว
เมื่อเผ่ากินคนเตรียมจะเชือดกษัตริย์ลงหม้อได้สังเกตเห็นว่ากษัตริย์ไม่มีนิ้วก้อยเท้า ซึ่งทางเผ่ากินคนได้มีความเชื่อถือว่าเป็นตัวกาลกิณี กินเข้าไปแล้วจะเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงแก่เผ่า จึงสั่งปล่อยตัวกษัตริย์ไปซะ กษัตริย์ดีใจมาก เมื่อกษัตริย์ดีใจที่รอดตายกลับเมืองได้ จึงนึกถึงคำเมื่อ 10 ปีก่อนของมหาดเล็กคู่ใจ จึงลงไปที่คุกขี้ไก่และสั่งปล่อยตัวมหาดเล็กคู่ใจทันที และทรงเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาด้วยความดีใจที่รอดชีวิตมาได้
“อืม คำเจ้าเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นจริงยังไง นิ้วก้อยด้วนก็ยังดีกว่าตายจริงๆ”
“พะยะค่ะ”
กษัตริย์จึงถามต่อ “แล้วอยู่ในคุกขี้ไก่เป็นไงบ้างล่ะหือ”
“ดีพะยะค่ะ”
กษัตริย์ทำหน้างง “ดียังไง”
“ถ้ากระหม่อมไม่อยู่ในคุก ก็ทรงเสด็จตามท่านไปในวันนั้นด้วย และคงจะโดนเผ่ากินคนกินไปแล้วพะยะค่ะ”.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
เงิน..ก้อนสุดท้าย!!
สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย
คิดถึงพ่อ ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต
ทุกวันที่ 5 ธันวาคม นอกจากเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว พวกเราพสกนิกรชาวไทยระลึกอยู่เสมอว่าเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทำตัวเป็นแสงสว่าง
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบค่ะ ..จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านบ้าง.. มีตรอกอยู่ตรอกหนึ่ง ที่ทั้งมืดและทั้งแคบ คืนหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าว เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม
ความหนาแน่นของกระดูก
จดหมายจากอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้สูงอายุถึง เพื่อนเก่า…