ส่งออกเตรียมรับมือ“ตลาดจีน”แผ่ว

สถานการณ์ใน “ภาคส่งออก” ของไทยยังถือว่าอยู่ในจุดที่ชะลอตัว โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์พบว่า การส่งออกไทยในเดือน พ.ค.2566 ยังติดลบที่ 4.6% ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสินค้าเกษตรหดตัวสูงถึง 27% เช่น ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมก็ยังหดตัวที่ 0.6% เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ยังมองว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยเสริม จากความพยายามในการเจาะตลาดใหม่ๆ และรักษาฐานตลาดเดิมเอาไว้ รวมถึงการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจช่วยลดแรงกดดันต่อการบริโภคและการลงทุน อีกประเด็นคือภัยแล้ง ที่อาจจะกลายเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตร โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยัน เป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้จะยังเติบโตได้ที่ระดับ 1-2%

แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเผชิญ ทั้งจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าที่ลุกลามทำให้เศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะตลาดในยุโรป และยังมีปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ที่อาจส่งผลต่อปริมาณสินค้าเกษตรที่ผลิตได้ในปีนี้อีกด้วย ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันเรื่องอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ตลอดจนภาคการผลิตสินค้า รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะนโยบายการพึ่งพาตนเองของจีน

สำหรับกรณีจีนนั้น ที่ผ่านมาถือเป็นตลาดหลักๆ ของไทย ทั้งการส่งออกและท่องเที่ยว จะเห็นได้จากทันทีที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศ ภาคการท่องเที่ยวของไทยก็ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ในส่วนของการส่งออกอาจจะต้องจับตาดูเป็นพิเศษ โดย KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรได้ออกมาประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจีนในปีนี้และในระยะต่อไปกำลังเผชิญความท้าทายอย่างมาก และการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะไม่ได้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเหมือนทศวรรษที่ผ่านมา โดยเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจรายเดือนในแต่ละด้านของจีนสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวของจีนยังซบเซา และกระจุกอยู่เฉพาะการบริโภคในภาคบริการเท่านั้น แม้ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกและตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ทิศทางของการฟื้นตัวเริ่มมีทิศทางที่ชะลอลงต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น ดัชนีการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจจีน โดยมีสัดส่วนต่อเศรษฐกิจกว่า 30% ของจีดีพีกำลังหดตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยตัวเลขการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือน พ.ค.หดตัวกว่า 21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่มีเพียงเครื่องชี้วัดภาคการบริการที่แนวโน้มขยายตัวสวนทางกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ของจีน

สำหรับ ผลกระทบที่เลี่ยงไม่ได้จากการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยนั้นมีค่อนข้างมาก จากการที่เศรษฐกิจไทยพึ่งพาจีนในสัดส่วนที่สูง โดยในระยะสั้นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปีคือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนจะทยอยกลับเข้ามาแต่ยังฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด และยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงปี 2562 ค่อนข้างมาก KKP Research ยังประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนจะยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่หากสถานการณ์ภายในเศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 5 ล้านคน

ขณะที่่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้เหลือ 0.5% จากคาดการณ์เดิมที่ 1.2% จากแรงหนุนตลาดส่งออกจีนที่แผ่วกว่าคาด สะท้อนจากการนำเข้าสินค้าไทยของจีนในเดือน พ.ค. กลับมาหดตัวแรงอีกครั้งที่ -11.2% หลังขยายตัวได้ครั้งแรกในรอบ 10 เดือนที่ 8.2% ในเดือน เม.ย. สอดคล้องกับภาพรวมการนำเข้าของจีนที่ส่วนใหญ่ยังหดตัว และภาพรวมการส่งออกของจีนที่หดตัวแรง -8% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนตามอุปสงค์โลกที่ยังอ่อนแอ และอาจเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำของเศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงสงครามภายในรัสเซียอาจนำไปสู่การเร่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเงินเฟ้อโลกได้ เป็นต้น.

 

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปั้น‘โปรตีนทางเลือก’เชิงพาณิชย์

ปัจจุบัน อาหารแพลนต์เบสในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้น เทรนด์ของคนที่หันกลับมากินอาหารเพื่อสุขภาพก็มีเพิ่มขึ้น จึงทำให้เป็นการผลักดันภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพื่อสุขภาพ

อุบัติเหตุหรือละเลย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, ชลบุรี ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหา แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น

ลุ้นแจ้งเกิดให้บริการซีเพลน

จากนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ผลักดันการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล หรือ Seaplane Operations เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

แนะSME“ปรับเปลี่ยน”เพื่อ“ไปต่อ”

สถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดย แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขณะนี้ยังน่ากังวล เพราะยังคงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

ดีมานด์ทองคำยังแกร่งแม้ราคาพุ่ง

จากรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ หรือ Gold Demand Trends จากสภาทองคำโลก (World Gold Council) สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ระบุว่า ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำสำหรับการลงทุนของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 10%

ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติมีแต่เสียกับเสีย

ปมความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐาเข้ามาบริหารประเทศ โดยจุดเริ่มต้นต้องเรียกว่าชนวนเหตุนั้น มาจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต