โลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ไปๆ-มาๆ...ท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะสายพันธุ์ “เดลตา” หรือสายพันธุ์ “โอมิครอน” ก็แล้วแต่

ท่านชักทำท่าว่า...ยังไงๆ คงหนีไม่พ้นต้อง “อยู่ร่วมโดยสันติ” กับบรรดามวลมนุษย์ทั้งหลายต่อไปอีกตราบนานเท่านาน เรียกว่า...อยู่มาจนเกือบจะครบ 2 ปีเข้าไปแล้ว ท่านก็ยังไม่คิดจะไปไหน

แถมยักเยื้องลีลา ยักย้ายส่ายตะโพก วิวัฒนาการไปสู่ความเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ชนิดเล่นเอาวัคซีนเทพ วัคซีนไม่เทพ แทบจะไล่ตามไม่ทัน เอาเลยถึงขั้นนั้น...

บรรดามวลมนุษย์อย่างเราๆ-ทั่นๆทั้งหลาย...เลยต้องวิวัฒนาการ กลายสภาพเป็น “มนุษย์ต่างดาว” หรือ “มนุษย์อวกาศ” กันไปแทบจะทั้งหมด คือต้อง “สวมหน้ากาก” เวลาออกจากบ้าน ชนิด 2 ชั้น 3 ชั้นเอาเลยก็ไม่แน่ ต้องยืนระยะอยู่กันแบบห่างๆ ไม่ก็ต้องหาอะไรมากั้นกลาง ประเภทกระจกหรือพลาสติกใสๆ อะไรทำนองนี้ ยิ่งถ้าคิดจะท่องเที่ยว-เดินทาง ไปไหน-มาไหนตามแบบฉบับ “ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป-ทุกแคว้นแดนไพร-มิอาจประสบพบสุข” ก็ยิ่งเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เสียเหลือเกิน ต้องหาพาสปอร์ตเพื่อสุขภาพติดตัว ติดกระเป๋า เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ต้องยอมถูกกักตัว ติดแหง็กอยู่ในสนามบิน ในโรงแรม หรือในควอเรนตีนต่างๆ ฯลฯ ก่อนจะได้สูดสายลม แสงแดด ได้สุข-สดชื่น เหมือนยืนอยู่บนเนินเขา ก็คงต้องทรมาน-ทรกรรม กันเป็นจำนวนมิใช่น้อย...

คือพูดง่ายๆ ว่า...ท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่านมีอานุภาพ มีศักยภาพ ในการเปลี่ยนวิถีชีวิตปกติธรรมดาโดยทั่วไป ของผู้คนหรือสังคมทั้งสังคมกันเป็นจำนวนไม่น้อย จากที่เคยมีอุปนิสัย วาสนา สันดาน ลักษณะหนึ่ง ลักษณะใด หนีไม่พ้นต้องปรับ ต้องเปลี่ยนตัวเองมากบ้าง-น้อยบ้างไปตามสภาพ ยิ่งเป็นในระดับสังคมทั้งสังคม หรือประเทศทั้งประเทศด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งต้องพยายามมองหาสิ่งใหม่ๆ หนทางใหม่ๆ หรือทิศทางใหม่ๆ ไม่ว่าสำหรับความเป็นไปทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ไม่อาจยืนทื่อ ยืนบื้อ อยู่กับสิ่งเก่าๆ มาตรฐานเก่าๆ หรือทิศทางเก่าๆ ที่อาจนำไปสู่หุบเหว หรือ “กับดักอันตราย” ได้เสมอๆ...

ยิ่งประเภทที่คิดจะให้สังคมตัวเอง ประเทศตัวเอง เกิดความเจริญเติบโตให้มากๆ เข้าไว้ในทางเศรษฐกิจ แบบชนิดโตโยต้า หรือโตมิโตซัดดะ ฯลฯ อะไรประมาณนี้ อยากเห็น “ตัวเลขจีดีพี” สูงโด่ๆ เด่ๆ หรือสูงแบบชนิดแทบไม่มีหัวตก เอาไป-เอามาแล้วโดยความจริง หรือโดย “ข้อเท็จจริงที่เอ็งมิอาจปฏิเสธได้” นั่นเอง ที่ทำให้โอกาส “เป็ง-ปาย-ล่าย” แทบไม่มี หรือแทบไม่เหลือติดปลายนวมต่อไปอีกแล้ว เผลอๆ...อาจต้องหันกลับไปควานหา “ตัวเลขจีเอ็นเอช” กันแทนที่ เอาเลยก็ไม่แน่!!! หรือต้องหันมาค้นหาตัวเลข “ดัชนีแห่งความสุข” แทนที่ “ดัชนีแห่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ” เพราะโอกาสที่จะโตแล้วโตอีก ไม่เพียงแต่จะเป็นอะไรที่ “ขัดแย้งกับธรรมชาติ” ยิ่งเข้าไปทุกที ยังอาจขัดแย้งกับความจริง ข้อเท็จจริง ที่ท่านเชื้อไวรัสโควิดท่านนำมามอบให้กันถึงที่เอาเลยด้วยซ้ำ...

พูดง่ายๆ ว่า...ความพยายามโตแล้ว โตอีก ด้วยการเร่ง การกระตุ้นและอัดฉีด อะไรต่อมิอะไรเพื่อให้ผู้คนเกิดความอยาก เกิดความปรารถนาและต้องการ ให้มากๆ เข้าไว้ อันล้วนแล้วแต่หนักไปทาง “กิเลส” ไปด้วยกันทั้งสิ้น มาถึง ณ ขณะนี้ มันออกจะเป็นอะไรที่ยากลำบากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุเพราะท่านไวรัสโควิด-19 ท่านได้เปลี่ยนแปลงสภาพต่างๆ จนมีแต่ต้องหันไปควบคุม “กิเลส” ในตัวตนของแต่ละคน ให้ยิ่งลดน้อยลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่ง “อันตราย” น้อยลงไปเท่านั้น ยิ่งไม่คิดจะไปไหน-มาไหน หันมาบำเพ็ญตบะ บารมี เป็น “วานปรัสถ์” เป็น “สันยาสี” กันไปตามแบบฉบับของใคร-ของมัน ยิ่งอาจพอช่วยให้โอกาสติดเชื้อ แพร่เชื้อ ยิ่งน้อยลงไปเท่านั้น...

นั่นยังไม่รวมไปถึง...การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ธรรมชาติ ที่ยังไงๆ คงไม่น่าจะเหมือนเดิมอีกต่อไปเช่นกัน โดยจะ “ร้อน” ขึ้นอีกซักกี่องศาหรือไม่ อย่างไร ก็ตามที แต่ก็น่าที่จะทำให้ทิศทางความเป็นไปของเศรษฐกิจแบบเก่าๆ เดิมๆ ประเภทกินแหลก-ใช้แหลก-แดกด่วน หรืออะไรต่อมิอะไรตามแบบฉบับ “วัตถุนิยม” หรือ “บริโภคนิยม” ทั้งหลาย น่าจะเป็นไปได้ลำบากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มีแต่ต้องหันมาควบคุมตัวเอง ควบคุมสังคม หรือควบคุมประเทศแต่ละประเทศทั่วทั้งโลกเอาเลยนั่นแหละ ประเภทไม่คิดจะปล่อยก๊าซ ปล่อยมลภาวะ ใส่ชั้นบรรยากาศของโลกมากมายจนเกินไป บรรดาสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง เหล่านี้นี่เอง...ที่จะนำมาซึ่งสิ่งใหม่ๆ ทิศทางใหม่ๆ ไม่ว่าเศรษฐกิจแบบใหม่ สังคมแบบใหม่ ไปจน “การเมืองแบบใหม่” แม้ทุกวันนี้อาจยังมองไม่เห็นรูปร่าง หน้าตา ชัดเจนก็ตาม...

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...บรรดา “นักการเมือง” หรือผู้ทำมาหารับประทานกับสิ่งที่เรียกว่า “การเมือง” ทั้งหลาย พึงต้องหัดคิด หัดวิเคราะห์ หัดสังเคราะห์ ฯลฯ เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ว่าอะไรต่อมิอะไรในโลกใบนี้ มันกำลังจะเป็นไปในแบบไหน? ทิศทางไหน? เพราะถ้ายังมัวแต่เอาเวลาไปสร้างมุ้ง สร้างกลุ่ม สร้างก้อน ตั้งกระบอกสูบคอย “ดูด” ใครต่อใครให้เข้ามาในบ่อเกรอะของตัวเอง สุดท้าย...มันก็อาจต้อง “จบ” ลงไปแบบเก่าๆ เดิมๆ หรือต้องย้อนกลับไปสู่ “วงจรอุบาทว์” กันจนได้!!!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะดีจะชั่ว...อยู่ที่ตัวคนเลือก

คนเรานั้น แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ว่าเราจะเกิดที่ไหน เกิดเป็นลูกใคร จะได้เป็นลูกเศรษฐีหรือลูกคนจน แต่เมื่อเราเติบโตรู้ความ ได้รับการอบรมบ่มนิสัย ได้รับการศึกษา

จากสงครามเวียดนามถึงสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ช่วงที่นักศึกษา ปัญญาชน คนหนุ่ม-คนสาวชาวอเมริกัน...เขาลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน คัดค้าน สงครามเวียดนาม ในช่วงระยะนั้น อันตัวข้าพเจ้าเอง ก็กำลังอยู่ในวัยหนุ่ม

ไฟไหม้ปทุมวัน

เล่นเอาเหล่า "สีกากี" ภายใน "กรมปทุมวัน" ตกอกตกใจกันยกใหญ่ หลังมีควันดำๆ พวยพุ่งจากเหตุไฟไหม้ระเบียงชั้น 6 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์