คุณภาพอย่างที่เป็นอยู่...ลุงตู่คงอยู่ยาว

แม้ว่ารัฐบาลของลุงตู่จะไม่ใช่รัฐบาลที่มีความสมบูรณ์ในการทำหน้าที่บริหารประเทศ มีบางอย่างก็ถูกใจเรา และมีบางอย่างที่อาจจะไม่ถูกใจเรา

สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่ของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเรื่องราวของรัฐบาล ชมบ้าง ติบ้าง แตะเบาๆ บ้าง ด่าแรงๆ บ้าง จริงบ้าง เท็จบ้าง ตรงไปตรงมาบ้าง บิดเบี้ยวบิดเบือนบ้าง ประชาชนโดยทั่วไปก็มี Social media เป็นช่องทางในการพูดถึงรัฐบาล

ซึ่งก็มีหลายกลุ่มหลายพวกแตกต่างกันไป แล้วแต่จุดยืน ที่เชียร์รัฐบาลสุดลิ่มทิ่มประตูก็มี ชมรัฐบาลเมื่อควรชม และตำหนิรัฐบาลเมื่อควรตำหนิก็มี ที่ตำหนิแบบติเพื่อก่อก็มี ที่ดำหนิด้วยการด่าที่รุนแรงก็มี ทั้งๆ ที่เชียร์ลุงตู่อยู่

แต่บางเรื่องก็เกิดอาการโกรธ ผิดหวัง ไม่คิดว่ารัฐบาลลุงตู่จะทำเช่นนั้น ดังนั้นกลุ่มนี้ก็จะเป็นพวกรักแรง ด่าแรงเมื่อผิดหวัง ในขณะเดียวกันก็จะมีคนที่ไม่ชอบลุงตู่ (ด้วยจุดยืนของตนเอง) ก็จะด่าการทำงานของรัฐบาลทุกเรื่อง และก็ยังมีคนที่ไม่ชอบลุงตู่ (เพราะถูกครอบงำโดยกลุ่มคนที่ผิดหวัง และโกรธแค้นลุงตู่) คนพวกนี้จะด่าทุกเรื่องที่ลุงตู่ทำ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ผิดหมด ไม่มีดีสักอย่างเดียว และเป็นการด่าที่รุนแรง ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย ที่ทำให้การด่าของเขาไม่น่าเชื่อถือ

คนที่ด่าลุงตู่หรือตำหนิการทำงานของรัฐบาลทุกเรื่อง ไม่ว่าจะใช้ถ้อยคำสุภาพ ถ้อยคำกลางๆ หรือถ้อยคำที่หยาบคาย หมิ่นประณาม ด้อยค่าลุงตู่จนเหมือนลุงตู่ไม่ใช่คน หรือถ้าเป็นคนก็เป็นคนที่เลวทราม ชั่วช้า งี่เง่า จนคนที่มีสติปัญญา มีเหตุมีผลไม่อาจจะรับได้ และคนพวกนั้นก็กลายเป็นคนที่ทำลายความน่าเชื่อถือของตนเอง เพราะการด่าทุกเรื่องด้วยอคติ ไม่มองโลกแห่งความเป็นจริง พูดจาย้อนแย้งกับความเป็นจริงเชิงประจักษ์ที่คนทั่วๆ เห็นกันอยู่ แล้วจะให้คนเขาเชื่อหรือคล้อยตามได้อย่างไร คนพวกนี้ทำให้ลุงตู่กลายเป็นกระท้อน คือยิ่งทุบยิ่งหวาน เมื่อคนพวกนี้ด่าลุงตู่อย่างไม่น่าเชื่อถือ ใช้ข้อความเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง ตรรกะวิบัติ คนที่ค้นหาความจริง ก็จะพบว่าคนพวกนี้หาเรื่องด่าเพื่อด้อยค่าลุงตู่ คนก็จะเห็นใจลุงตู่ และเอาใจช่วยลุงตู่มากขึ้น ทำให้ลุงตู่เป็นกระท้อนที่ยิ่งทุบก็ยิ่งหวาน เมื่อเป็นเช่นนี้เห็นทีลุงตู่คงจะอยู่นาน เพราะคนที่ไปค้นหาความจริงก็จะพบว่าลุงตู่ทำผลงานในการพัฒนาประเทศชาติและการแก้ปัญหาที่หมักหมมของประเทศไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ประชาชนทั่วไปที่ด่าลุงตู่ด้วยอคติ เราก็ยังพอจะรับได้ ไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรบ้าง ถือว่าเป็นเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก แต่ที่น่าผิดหวังก็คือการทำงานของฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่ผลงานของฝ่ายค้านที่ผ่านมานั้น ต้องบอกตรงๆ ว่าสอบตก ทั้งนี้เพราะจะมีฝ่ายค้านบางคน (หลายคนด้วย) ที่มักจะออกมาคัดค้านการทำงานของรัฐบาลทุกเรื่อง ไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็ตาม พวกเขาจะมองว่าเป็นการกระทำที่ผิดไปหมด แล้วก็ด่าลุงตู่แรงๆ ถ้าหากใครเชื่อคำคุณศัพท์ที่คนพวกนี้ใช้ในการด่าลุงตู่ ก็คงจะต้องสงสัยว่าลุงตู่เรียนหนังสือเก่งได้คะแนนดีได้อย่างไร ลุงตู่รับราชการทหารแล้วเติบโตในหน้าที่การงานจนได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกได้อย่างไร ถ้าหากลุงตู่แย่อย่างที่พวกเขาด่าทั้งโง่ทั้งชั่ว แต่ก็ยังเติบโตในหน้าที่การงานได้ ก็แสดงว่ามาตรการในการประเมินและการชี้วัดความเก่งของคนไทยที่ใช้อยู่น่าจะต้องมีปัญหา ผิดพลาดอย่างใช้ไม่ได้จริงๆ ใครที่ติดตามการจ้องด่าลุงตู่ของคนในซีกฝ่ายค้านบางคน ก็จะมองว่าฝ่ายค้านวิจารณ์ลุงตู่แบบมีอคติ ทำตัวเป็นฝ่ายแค้นมากกว่าเป็นฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่เราได้เห็นมาโดยตลอดก็คือการแซะ แขวะ ตำหนิลุงตู่ทุกเรื่อง แต่ละเรื่องที่แซะนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการตั้งใจที่จะด้อยค่าลุงตู่ให้ประชาชนเห็นว่าลุงตู่ควรจะไปได้แล้ว

ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ก็มีการประเมินการทำงานของลุงตู่ และได้ผลสรุปออกมาหลายข้อ แต่ละข้อนั้นดูเลื่อนลอย หาความจริงเชิงประจักษ์สนับสนุนการวิพากษ์วิจารณ์ลุงตู่ไม่ได้

ลุงตู่เสพติดอำนาจ อยากจะถามว่า “ตรงไหน” ในตอนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ สามารถใช้มาตรา 44 ได้ ก็ไม่เห็นว่าจะใช้ฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด จะใช้เฉพาะในกรณีเร่งด่วน หรือกรณีที่คนบางคนทำผิด ดื้อรั้น ให้พิจารณาตนเองก็ไม่พิจารณา จึงต้องสั่งปลดหรือสั่งย้าย ส่วนกรณีจัดการกับผู้ชุมนุมนั้น ก็เป็นเพราะว่าคนพวกนั้นทำผิดกฎหมายหลายมาตรา ก็ต้องมีการจับกุมกันตามกฎหมาย ส่วนจะมีการฟ้องหรือไม่ก็เป็นเรื่องของอัยการ และจะมีการได้ประกันตัวหรือไม่ก็เป็นเรื่องของศาล จะตัดสินว่าใครผิดหรือไม่ จะถูกลงโทษหนักเบาแค่ไหนก็เป็นเรื่องของศาล ลุงตู่ไม่เคยก้าวก่ายหรือเข้าไปสั่งการใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายตุลาการ เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารไม่ควรจะก้าวก่าย เช่นเดียวกับการออกกฎหมาย การแก้กฎหมาย ก็เป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติ ลุงตู่ก็ไม่ได้ไปสั่งการว่าต้องการออกกฎหมายให้เป็นเช่นไร

ลุงตู่ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ เศรษฐกิจเป็นปัญหาไปทั่วโลกตั้งแต่ก่อนที่จะมีโควิด ปัญหาความชัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนก็มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย แล้วเศรษฐกิจของทุกประเทศก็ถูกกระหน่ำด้วยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ลุงตู่ต้องบริหารประเทศด้วยการรักษาชีวิตของประชาชนไว้ก่อน จึงจำเป็นต้องปิดกิจการไว้ก่อน จนถึงเวลาที่สามารถบริหารจัดการเรื่องของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้แล้วจึงมีการผ่อนคลายให้กิจการต่างๆ ทยอยเปิดได้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเวลานี้ก็เดินหน้าได้ดี เป็นที่พอใจของประชาชนจำนวนมาก มีการใช้งบประมาณไปในด้านการสาธารณสุข การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และการมีงบประมาณส่งเสริมธุรกิจต่างๆ รวมทั้งมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ประชาชนพอใจ

ลุงตู่ใช้งบประมาณไปในการซื้ออาวุธ แทนที่จะใช้ในการสาธารณสุข การซื้ออาวุธเป็นงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ตั้งมาในงบประมาณประจำปีที่ได้รับอนุมัติจากสภามาแล้ว ไม่ได้ใช้งบปกติของสาธารณสุขไปซื้อ และงบประมาณที่มาจากการกู้ยืมนั้นถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข หรือด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังนั้นไม่ควรเอาเรื่องงบประมาณในการซื้ออาวุธกับการบริหารงานสาธารณสุขมาปนกัน เพื่อกล่าวหาว่าลุงตู่สนใจแต่การสร้างแสนยานุภาพของกองทัพ ไม่สนใจเรื่องสาธารณสุข ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด และผลลัพธ์ด้านสาธารณสุขที่มองเห็นเชิงประจักษ์นั้นต้องยอมรับว่าลุงตู่สามารถจัดการกับการแพร่ระบาดและการรักษาคนที่ป่วยจาก COVID-19 ได้ดีในระดับที่ชาวโลกยอมรับ และมองว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวและการทำงานนอกสำนักงาน (Workation)

ถ้าฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ลุงตู่ได้แค่นี้ เห็นทีลุงตู่จะอยู่นาน ถ้าหากไม่มีอันต้องเป็นไปกับเรื่องอายุความ 8 ปีที่ตอนนี้ยังไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท

สูตรแต่งตั้งตำรวจ

กว่าจะเคาะ กว่าจะคลอด ก็นั่งนับนิ้วกันแทบหงิก เพราะ 180 วัน ตามเงื่อนไขการบังคับใช้กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567

'ดร.เสรี' ข้องใจ 'นักโทษทิพย์' หายป่วยทิพย์กระทันหัน หรือต้องการเย้ยไยไพ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้คนจำนวนมากสงสัยอาการป่วยไข้ การได้อยู่ห้อง VV

ดร.เสรี สงสัยผู้ใหญ่วัยเกิน 35 ทำไมเป็น 3 กีบ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โฟซบุ๊กว่า เด็กๆเป็น 3 กีบพอเข้าใจได้ว่าเขาความรู้น้อย ประสบการณ์น้อย วุฒิภาวะยังไม่ดีพอ ข้อมูลน้อย จึงถูกครอบงำด้วยความเท็จง่าย