เก้าอี้ 'ผบช.น.'

ได้ฤกษ์งามยามดี 27 ก.ย. เวลา 13.30 น. วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี นายกฯ นิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง นั่งเป็นประธาน ก.ตร.ครั้งแรก วาระสำคัญถูกโฟกัสไปที่การแต่งตั้งตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." แทน บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 2566 ที่ ณ ตอนนี้มีแคนดิเดตอยู่ 4 ราย ประกอบด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ส่วนใครจะเข้าวินต้องรอลุ้นในมือ "นายกฯ นิด" จะกำชื่อใครเข้าวงประชุม ก.ตร.ให้ยกมือโหวตเลือก เพราะแว่วๆ บางคนยังไม่ยอม ยังฮึดสู้ ยังขอลุ้น ก็ต้องว่ากันไป ตราบใดที่ ก.ตร.ยังไม่มีการลงตราประทับ ทุกคนมีสิทธิ์เหมือนกันหมด ขึ้นอยู่กับว่าใครดิ้นมากก็เจ็บมาก ใครปลงได้ก็สบายใจ ไม่ต้องทุกข์ร้อน ทุกอย่างอยู่ที่บุญทำกรรมแต่ง

เอ๊ะ! หรือเสียงลือจะเป็นจริง เก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ "ผบช.น." ที่ตามโผเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา สมัย "ลุงตู่" นั่งหัวโต๊ะ ไม่มีชื่อ "บิ๊กจ้าว" พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จะขยับไปไหน ยังรักษาเก้าอี้เอาไว้แน่น แต่พอมาเข้ายุค "เสี่ยนิด" มีข่าวลือกันหนาหูในการประชุม ก.ตร. 27 ก.ย.พิจารณาวาระแต่งตั้ง "นายพล" ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปถึง ผบก.ทั่วประเทศ ชื่อ "บิ๊กจ้าว" ไปโผล่อยู่ที่เก้าอี้ "หัวหน้าจเรตำรวจ" และมีชื่อ "บิ๊กเปีย" พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 มาแรงในระยะหลังว่าจะมานั่งคุมเมืองหลวงแทนที่ เท็จจริงอย่างไรคงต้องรอดูกันตอนประชุม ก.ตร. แต่ที่แน่ๆ ตำรวจแถวท่าแร้ง แอบเห็นสีกากีหน้าคล้ายๆ ลูกน้องบิ๊กจ้าวไปป้วนเปี้ยนดูห้อง ดูหับ ดูสำนักงานแถวๆ นั้น ไม่รู้ไปดูเผื่อใครกันแน่

คดี "สารวัตรแบงก์" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงภายในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ต่อหน้าต่อตาตำรวจกว่า 20-30 นาย พื้นที่เมืองนครปฐม ก็กำลังเข้มข้น ตำรวจที่เกี่ยวข้องกำลังไล่หาข้อมูลความบกพร่องของสีกากีที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าใครผิด ใครบกพร่องบ้าง แต่ในการบริหารงานตำรวจทางหลวงก็ต้องดำเนินการต่อ พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ก. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงลงนามคำสั่ง บช.ก.ที่ 246/2566 ให้ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.กลุ่มงานถวายความปลอดภัย บก.ทล. รักษาราชการแทน ผกก.2 บก.ทล. ควบคู่อีกตำแหน่ง เช่นเดียวกับให้ พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.6 บก.ปปป. รักษาราชการแทน รอง ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สว.กก.5 บก.ปคม. รักษาราชการแทนตำแหน่ง สว.กก.2 บก.ทล. อีกตำแหน่ง รวมทั้งมีคำสั่งให้ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.กก.2 บก.ปอท. ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

มีแต่เรื่องเสียๆ หายๆ ของตำรวจมาตลอดสัปดาห์ พอได้ยินเรื่อง "ตำรวจ" ทำดี ก็ต้องรีบชื่นชม ต้องรีบปรบมือให้ ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ ส.ต.ต.พลกฤต ยลอนันต์, ส.ต.ท.ไกรสีห์ ทรัพย์สามารถ, ส.ต.ท.วราวุฒิ ภูผิวเมด และ ส.ต.ต.ดุลยวัต ชมชื่น ผบ.หมู่ (ป.) สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งมีชายวัย 51 ปี เกิดอาการชักเกร็งหมดสติบริเวณตึกแถวหลังแฟลตตำรวจ ซอยจุฬาฯ 34 กรุงเทพฯ ช่วงเวลา  03.40 น. จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้แจ้งเป็นภรรยาที่สามีชักเกร็งหมดสติ จึงสลับกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปั๊มหัวใจด้วยการทำซีพีอาร์ ซึ่งตำรวจอีก 1 สายคือ ส.ต.ท.วราวุฒิ และ ส.ต.ต.ดุลยวัต กลับไปเอาเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED ที่ สน.ปทุมวัน มาช่วยเหลือกู้ชีวิตผู้ป่วย กระทั่งเกือบ 20 นาทีสัญญาณชีพชายคนดังกล่าวได้กลับมา จากนั้นรีบนำส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ "ส.ต.ต.พลกฤต" เล่าว่า ช่วงที่ช่วยเหลือนึกในใจ "ต้องทำเต็มที่ให้ชีพจรกลับมา ครอบครัวเขารออยู่ พี่เขาต้องรอดให้ได้"...ปรบมือๆ

เย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาประกาศการรับโอน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกไปเป็น นายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ) ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ประกาศ ณ วันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2566 ดูจากช่วงเวลาดังกล่าวอาจตอบคำถามได้ว่าเหตุใดวันที่ 13 ก.ย. ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม เข้ากระทรวงกลาโหม จึงมีการส่งให้ พล.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นตัวแทนกองทัพบกไปร่วมต้อนรับ และประชุมเพื่อรับฟังบรรยายสรุปที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยวอำนาจการปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก ระหว่าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ซึ่งจะทำการแทนไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

เข้ากระทรวงมาวันแรกเครื่องร้อน “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม รับฟังบรรยายสรุปจบลงมาให้สัมภาษณ์ 9 เรื่อง 9 ประเด็น และหนึ่งในนั้นเป็นประเด็นขายของพรรคการเมือง คือการ “ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร” ที่เจ้าตัวตอบได้คล่องแคล่ว ที่เปลี่ยนสถานะจากเดิมเป็นฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ มาเป็นฝ่ายปฏิบัติเห็นตัวเลขและข้อมูลละเอียดขึ้น แถมมีนโยบายที่ให้กองทัพไปปรับคือ ลดยอดความต้องการทหารเกณฑ์ลงประมาณ 1 หมื่นนาย แล้วนำงบฯ ส่วนนี้ไปเพิ่มเรื่องสวัสดิการ ไม่ต้องหักเงินประกอบเลี้ยง จูงใจชายไทยให้มาสมัครมากขึ้น พร้อมชี้เปรี้ยงว่าภายใน 4 ปีของรัฐบาลนี้ จะทำให้เกิดการสมัครใจเข้าเป็นทหารกองประจำการได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ทีมงานรอบตัว "สุทิน คลังแสง" ดูแล้วมาจากหลายสาย จับต้นชนปลายได้ว่ามาทั้งจาก “สายพรรค” และ “สายลุง" โดยเฉพาะสายลุงก็มี “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “บิ๊กอั๋น” พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประสานกับทีมข้าราชการประจำอย่าง “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหมมาเป็นทีมทำงานหลัก ตามมาด้วยชื่อของ “หม่อมเป๊ป” พล.อ. ม.ล.สุปรีดี ประวิตร มาดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำหรับ พล.อ. ม.ล.สุปรีดี จบจากโรงเรียนนายร้อยต่างประเทศ เข้ารับการอบรมหลักสูตรชั้นนายร้อยเหล่าทหารม้า พร้อมกับ ตท.20 เคยเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า  เป็นนายทหารนักประสานงาน

ใกล้ถึงช่วงครบวาระเกษียณอายุราชการ หลายหน่วยงานจัดงานอำลากันคึกคัก รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชการอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ พล.อ.อุกฤษฎ์  บุญตานนท์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ได้เป็นประธานในพิธีเกษียณอายุราชการให้แก่ข้าราชการ กำลังพล และลูกจ้างชั่วคราว กอ.รมน. ที่เกษียณอายุราชการประจำปี 89 คน ว่ากันว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและในช่วงการประชุม นขต.ยังฝากให้ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และกำลังพลทุกระดับชั้น ร่วมกันเป็นเสาหลักเดินหน้าการทำงานของ กอ.รมน. ในการเสริมสร้างความรักความเข้าใจ ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อส่งเสริมให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

ทิ้งท้ายปีงบประมาณ 2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ/ประธานคณะกรรมการบริหาร ศรชล. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหาร ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ สรุปผลการทำงานในรอบปี ที่น่าสนใจคือ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 เห็นชอบให้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง ศรชล.กับหน่วยยามฝั่งเวียดนาม ในความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล โดยมอบอำนาจให้ รอง ผอ.ศรชล.เป็นผู้แทนฝ่ายไทย  และ ผบ.หน่วยยามฝั่งเวียดนามเป็นผู้แทนฝ่ายเวียดนาม การยกระดับการปฏิบัติในด้านการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (SAR) การจัดทำ (ร่าง) ระเบียบปฏิบัติงาน (SOP) เรื่องแนวทางประสานงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล เพื่อพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล การเตรียมความพร้อมวางแผนรองรับการขจัดคราบน้ำมันและมลพิษทางน้ำด้วย.