'อุดมคติ'กับ'ความเปลี่ยนแปลง'

ถ้าว่ากันตาม กฎเหล็กธรรมชาติ หรือ กฎเกณฑ์แห่งสรรพสิ่ง...ไม่ว่าอะไรต่อมิอะไรในโลกนี้ ย่อมหนีไม่พ้นต้องมีวัน เปลี่ยนแปลง ไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ความคิด-ความอ่าน หรืออารมณ์-ความรู้สึกใดๆ ก็แล้วแต่ ต่อให้ดูสูงส่ง ดูวิเศษวิเสโส ถึงขั้นต้องใช้คำเรียกขานว่า อุดมการณ์-อุดมคติ เอาเลยก็เถอะ!!! สุดท้าย...ถ้าไม่ตกต่ำ เสื่อมโทรม จนถึงกับต้องสูญสลายไปอีกไม่นาน-ไม่ช้า ก็อาจเปลี่ยนไปในทางยกระดับ พัฒนา สูงยิ่งไปกว่าเท่าที่เคยยึดมั่น ถือมั่น กันเอาไว้...

ส่วนกระบวนการที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นมา...ถ้าว่ากันโดยหลักๆ แล้ว อาจเป็นไปได้ทั้งในแง่ที่เกิดจากการ ชี้แนะ-ชี้นำของผู้หนึ่ง-ผู้ใด ในช่วงจังหวะ เวลาที่เหมาะที่ควร หรืออาจเกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยอาศัยประสบการณ์และสิ่งแวดล้อม 

ที่ย่อมมีผล มีอิทธิพล ต่อความตกต่ำ หรือการยกระดับ พัฒนา ของความคิด อารมณ์-ความรู้สึก แต่ละปัจเจกบุคคลในแต่ละห้วง แต่ละระยะ เผลอๆ...บางช่วง บางจังหวะ อาจถึงกับต้องเก็บอุดมคติ-อุดมการณ์เอาไว้ในลิ้นชักเอาเลยก็ไม่แน่ ไม่ก็อาจก่อให้เกิดแรงผลัก แรงดัน แรงกระตุ้น ให้มุ่งพัฒนาอุดมการณ์-อุดมคตินั้นๆ จนแทบไม่เหลือร่องรอยเดิมๆ อีกต่อไป...

ดังนั้น...แม้ว่าความคิด-ความอ่าน อุดมคติ-อุดมการณ์บางอย่าง บางประการ มันอาจดู อันตราย!!! ในบางช่วง บางขณะแต่ก็ใช่ว่ามันจะสามารถฝังราก หรืออยู่ยงคงทน ไปตลอดชั่วนิรันดร์กาลก็หาไม่ โดยเฉพาะถ้าหากได้รับการชี้แนะ-ชี้นำในทางที่ถูก-ที่ต้อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือถ้าต้องเจอกับประสบการณ์และสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ขณะที่อายุ-อานามล่วงเลยจนพอก่อให้เกิด วุฒิภาวะ หรือเกิดการ เรียนรู้ พอที่จะ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อสิ่งที่ตัวเองเคยปฏิเสธ คัดค้าน ต่อต้านจนสามารถนำมาซึ่งความกลมกลืน ความไม่ขัดแย้ง แปลกแยกใดๆ อีกต่อไป...

แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากผู้ที่เพียรพยายามให้การชี้แนะ-ชี้นำ ไม่ได้มี บารมี มากพอ แบบประเภท พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สามารถอาศัยคำพูด คำตรัส แค่ไม่กี่ประโยค ก็สามารถเปลี่ยนแปลง องคุลิมาล ได้แบบชนิดพลิกหน้ามือ-เป็นหลังมือ โอกาสที่จะช่วยให้บรรดาพวก ตัวอันตราย ทั้งหลาย ลดความน่าเกลียด น่ากลัว น่าอันตราย จนพอ อยู่ร่วมกันได้โดยสันติ ได้ก็อาจลำบากอยู่บ้างเป็นธรรมดา เผลอๆ...อาจกลายเป็นการกระตุ้น ยั่วยุ ให้เกิดการฝังราก ฝังความคิดอุดมการณ์-อุดมคตินั้นๆ ให้ยิ่งซึมลึก ซึมซ่าน ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ยิ่งออกไปทางการตำหนิ ติติง การด่าว่า ด่าทอ สาดเสีย-เทเสีย ที่ไม่ได้ก่อให้เกิด ประโยชน์ ใดๆ ขึ้นมาเอาเลยแม้แต่น้อย...

ไปๆ-มาๆ...อาจต้องหันไปรอคอยวัน-เวลา อายุ-อานาม รอให้ประสบการณ์และสิ่งแวดล้อม ค่อยๆ ช่วยเพิ่มพูน วุฒิภาวะ แต่ละระดับไปตามลำดับ ซึ่งก็แทบกำหนดไม่ได้ว่า...จะยืดเยื้อ-ยาวนานไปถึงขั้นไหน??? แถมถ้าหากความเป็นไป ความเปลี่ยนแปลงของสภาพสิ่งแวดล้อม มันดันไป เข้าทางเท้า-เข้าทางตีน ของผู้ที่มีความคิด-ความอ่าน มีอุดมคติ-อุดมการณ์ออกไปทางอันตรายๆ ทั้งหลาย โอกาสที่จะ เจ๊ง...กับ...เจ๊ง หรือ ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้ผู้ที่มีสถานะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์บ้านเมือง จึงต้องประกอบไปด้วยความสุขุมรอบคอบและละเอียดประณีตเป็นอย่างยิ่ง จะไปอาศัย กรรมวิธี แบบหยาบๆ ง่ายๆ อาศัยบุคคลอันตรายในลักษณะหนึ่ง ไปเล่นงานผู้ที่เป็นอันตรายในอีกลักษณะหนึ่ง หรืออาศัย โจร-ล้าง-โจร ย่อมไม่น่าจะเข้าท่า-เข้าทาง มากมายซักเท่าไหร่...

เพราะไม่ว่าจะฉิบหายมาก-ฉิบหายน้อย สุดท้าย...ย่อมหนีไม่พ้นความฉิบหายเช่นเดียวกันนั่นแหละ มีแต่ต้องหันมายึดมั่นในความถูกต้อง-เป็นธรรม หรือยึดมั่นใน ธรรม ให้มากๆ เข้าไว้ ด้วยเหตุเพราะไม่ว่า ความเปลี่ยนแปลง ใดๆ ย่อมไม่อาจล้างผลาญ-ทำลายผู้ประพฤติธรรม ผู้ยึดมั่นในธรรมได้เลย ดังที่พุทธภาษิตท่านได้ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ไว้ด้วยวาทะที่มีมาแต่โบร่ำ-โบราณนั่นแหละว่า “ธัมโม หะขะเว รักขะติ ธัมมะจารี” หรือ “ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม” นั่นแล...

เหตุที่ต้อง ขึ้นธรรมาสน์ ในช่วงวันอาทิตย์นี้...ก็คงไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกทั่น!!! แต่อาจถือเป็นการร่วมแสดงความยินดีต่อ คุณหลานพิธา ที่ได้รอดปากเหยี่ยว ปากกา รอดพ้นข้อกล่าวหาเรื่อง หุ้นสื่อ อย่างปลอดโปร่งโล่งตลอด โดยได้แต่หวังว่า...ด้วยการผ่านประสบการณ์ทั้งหลาย ทั้งปวง ในเที่ยวนี้ อาจพอช่วยให้เกิดการ เรียนรู้ ในอันที่จะนำมาซึ่งการยกระดับ พัฒนา ความคิด-ความรู้สึกไปในทางที่ดี ที่ไม่ก่อให้เกิด อันตราย ต่อตัวเองและผู้อื่นมากไปกว่าเท่าที่เคยเป็นมา และอาจช่วยให้พรรคก้าวไกล สามารถ อยู่ร่วมกันโดยสันติ กับพรรคการเมืองอื่นๆ หรือกับปวงชนชาวไทยอีกเป็นจำนวนไม่น้อย โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเบียดเบียน บีฑา สร้างเวร-สร้างกรรมกับใครต่อใคร จนอาจหนีไม่พ้นต้องผจญเวร-ผจญกรรม ถึงขั้นอนาคตหมด อนาคตไหม้ โดยใช่เหตุ...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์