
“ภาคการท่องเที่ยว” ยังถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย โดยหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคการท่องเที่ยวและบริการของไทยที่ซบเซาก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง และสำหรับในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางเป้าหมายว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศกว่า 3.5 ล้านล้านบาท ผ่าน 7 นโยบายหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากเชิงปริมาณสู่โหมดคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ 2.ใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 3.ทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย”
4.ทำให้การท่องเที่ยวยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น 5.การใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6.มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน 7.เตรียมความพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ
ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลายลงไปก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นกลุ่มหลักอย่าง “จีน” ที่แม้ว่าหลายฝ่ายจะประเมินว่าด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศของจีนและปัจจัยกดดันหลายอย่าง จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยตามที่คาดการณ์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า “จีน” ยังเป็นตลาดหลักของไทยอยู่เช่นเดิม เอาเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าการเดินทางท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 34,390 ล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยถึง 6,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงถึง 366% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยราว 177,000 คน
ขณะที่ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ได้ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในช่วงวันที่ 1-14 ม.ค.2567 โดยมีจำนวน 186,424 คน ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านฤดูกาลที่ชาวจีนมักเดินทางท่องเที่ยวช่วยปลายปีต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ก.พ. และผลบวกจากมาตรการวีซ่าฟรีช่วงวันที่ 25 ก.ย.2566-วันที่ 29 ก.พ.2567 ที่เอื้อให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ขณะที่ในช่วงวันที่ 1-14 ม.ค.2566 นั้นทางการจีนเพิ่งเริ่มเปิดประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เที่ยวไทยจึงมีน้อย
ส่วนในระยะถัดไป “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” มองว่า ระยะเฉพาะหน้าต้องติดตามใน 3 ประเด็น คือ 1.ช่วงก่อนและหลังตรุษจีน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเร่งตัวมากน้อยเพียงใดจากครึ่งเดือนแรกของเดือน ม.ค. 2.ข้อสรุปเรื่องมาตรการวีซ่าถาวรจากทางการทั้ง 2 ประเทศ จะมาทันหลังมาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวหมดในสิ้นเดือน ก.พ.นี้หรือไม่ และ 3.บรรยากาศและประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวจีนในไทย ซึ่งหากทุกฝ่ายสามารถรักษาและกระตุ้นการทำการตลาดได้ตรงจุด ก็น่าจะเป็นผลบวกต่อโมเมนตัมการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนได้
โดยในปีนี้ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะสามารถจบปีที่อันดับ 1 ได้ โดยอาจมีจำนวนราว 5.2 ล้านคน (คาดการณ์ ณ 12 ธ.ค.2566) เพิ่มขึ้นจากในปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 3.5 ล้านคน เนื่องจากจังหวะการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะมีศักยภาพที่จะเร่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่องถ้าเทียบกับก่อนโควิด-19 ที่มีจำนวนราว 11 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนสู่ระดับก่อนโควิด-19 นั้น “คงต้องใช้เวลา” เพราะยังมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจจีนที่อาจกระทบต่อความต้องการเดินทางระหว่างประเทศ ในจังหวะที่ค่าเดินทางท่องเที่ยวยังสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเปราะบางด้านรายได้และเงินออม สะท้อนจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวในเอเชีย ส่วนใหญ่ยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 และต่อไปข้างหน้าการแข่งขันกับจุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่ก็พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนก็จะมีผลต่อเส้นทางการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยด้วยเช่นกัน.
ครองขวัญ รอดหมวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด
เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP
อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ
ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า


