แพง! คุมไม่อยู่

ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ปีใหม่ 2565 กลับกลายเป็นความทุกข์ เพราะราคาสินค้า ของกินของใช้กลับแพงหูฉี่ โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูที่พุ่งไม่หยุด จากเดิมราคาหมูเนื้อแดงขายอยู่ที่ 70-180 บาทต่อกิโลกรัม ขณะนี้ปรับเพิ่มขึ้นทะลุ 200 บาทไปแล้ว มาอยู่ที่ 220-230 บาทต่อกิโลกรัม  

แม้ว่าที่ผ่านมานั้น ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดูแลแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูแพงตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทาง ตั้งแต่ภาระเกษตรกรฟาร์มสุกร พ่อค้าคนกลาง ผู้ขายหมูหน้าเขียง ประชาชนผู้บริโภค รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อลดผลกระทบราคาหมูแพงในขณะนี้ โดยไม่ให้เสียกลไกตลาด

ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์เองก็เดินหน้าดำเนินตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ขยายการดำเนินการโครงการพาณิชย์ลดราคา (หมูเนื้อแดง) พร้อมให้พาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์การจำหน่ายอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงเข้มงวดผู้ขายในตลาดปิดป้ายแสดงราคา และขอความร่วมมือทางห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ช่วยตรึงราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดงออกไปอีกระยะหนึ่ง

โดยมอบให้กรมการค้าภายในเข้าไปดูแล ควบคุม และขอความร่วมมือกับร้านค้าโมเดิร์นเทรด หรือห้างสรรพสินค้าให้ตรึงราคาไว้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถควบคุมได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 ราคาหมูในห้างสรรพสินค้าบางแห่งราคาพุ่งไปถึง 230 บาทแล้ว โดยเฉลี่ยจะพบว่าราคาเนื้อหัวไหล่ สะโพก ขายในราคาเฉลี่ย 160 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาตลาดสดปรับสูงไปถึง 180-190 บาทต่อกิโลกรัม, ราคาซี่โครงหมู 160-180 บาทต่อกิโลกรัม หมูสามชั้นมีราคาขยับขึ้นไปสูงถึง  232 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้จำหน่าย 150 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าต้นตอปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น มาจากต้นทุนประกอบการที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ยารักษาโรค และโรคระบาดหมูส่งผลให้หมูในระบบมีปริมาณลดลง ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงมีราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันการที่ภาคบริการ การท่องเที่ยว ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้มากขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคหมูโดยรวมกลับมาเพิ่มมากขึ้น

ซึ่ง พงษ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม เองก็ออกมายอมรับว่าปริมาณสุกรในพื้นที่มีจำนวนลดลงอย่างมาก ทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์มขยับสูง ประกอบกับราคาวัตถุดิบ อาหารสัตว์ ยาสัตว์ราคาแพงขึ้นอีก ทำให้ต้นทุนสูงถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม  ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในให้พาณิชย์จังหวัดหาเนื้อหมูชำแหละป้อนตลาดราคาต่ำ 150 บาทต่อกิโลกรัม วันละ 800 กิโลกรัม เพื่อช่วยผู้บริโภค แต่กลับมีปัญหาว่า จะหาเนื้อหมูมาขายให้ในราคาต่ำกว่า 150/กก.ได้หรือไม่

เช่นเดียวกับที่ สมควร ปิยะพงษ์เดชา ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ระบุว่า จำนวนหมูที่ลดลงมีสาเหตุมาจากหมูติดโรค ทำให้หมูหายไปจากระบบกว่าครึ่ง และปัญหาวัตถุดิบสูง ทำให้ฟาร์มขนาดเล็กหยุดเลี้ยงจำนวนหนึ่ง ปัญหานี้ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจให้ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรปรับระบบการเลี้ยงใหม่ให้เข้ากับระบบการเลี้ยงของปศุสัตว์ และยอมรับความจริง ปัญหาจะได้รับการแก้ไขกลับมาได้เร็ว เพราะการเลี้ยงแบบธรรมชาติเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว

ดังนั้นปัญหาเหล่านี้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการพิกบอร์ด (Pig Board) ต้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้เลี้ยงสุกร ตั้งแต่ต้นทุนการผลิตสุกร สนับสนุนการพัฒนาวัคซีนหมู เพื่อลดอัตราการสูญเสียหมูเลี้ยงจากโรคระบาด รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งปลอดดอกเบี้ยและดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจูงใจให้ผู้เลี้ยงหมูกลับมาเพิ่มปริมาณสุกรกลับเข้ามาสู่ระบบโดยเร็ว เพื่อให้ ประชาชนคนไทยจะได้สามารถบริโภคหมูที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสม

และที่สำคัญต้องเร่งดำเนินการและยอมรับความจริง อย่าปกปิดสาเหตุต้นตอที่แท้จริงว่ามีสาเหตุจากอะไร  อย่าเอาแต่เอาใจนาย ปล่อยให้ประชาชนแบกรับความเดือดร้อนตามยถากรรมจนทนไม่ไหวลุกลามใหญ่โต จากที่พอจะควบคุมแก้ไขปัญหาได้ กลายเป็นควบคุมไม่ได้ ไปมากกว่านี้ สร้างความเสียหายใหญ่มากมายจนแก้ไขไม่ได้.  

บุญช่วย ค้ายาดี 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า