เข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ "สีกากี" หลายโรงพัก หลายกองบังคับการ หลายกองบัญชาการ จัดพิธีและงานเลี้ยงอำลาตำรวจวัยเกษียณในสังกัดกันไปบ้างแล้ว ตอนนี้เป็นคิวระดับ ตร. ภายใต้ชื่อ โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจที่มีประสบการณ์สูงด้านต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงงานบริหารงานบุคคลของ ตร. พ.ศ. 2567 และพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแด่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ และงานเลี้ยงรับรอง โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย. 2567 ซึ่งปีนี้ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. นำขบวนเกษียณอายุราชการ โดยไฮไลต์งานนี้อยู่ในวันที่ 24 ก.ย. ช่วงสายๆ มีการอภิปรายให้ความรู้เรื่อง “อาชญากรรมออนไลน์” จากตำรวจ สอท. และช่วงบ่ายเดินทาง
ไปร่วมพิธีที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน ซึ่งจะมีการมอบประกาศเกียรติคุณพร้อมทั้งของที่ระลึกแด่ผู้เกษียณ ร่วมพิธีสวนสนามและพิธีเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา รวมทั้งผู้เกษียณอายุราชการและคู่สมรสเดินลอดซุ้มกระบี่ เพื่อเป็นเกียรติในลำดับสุดท้าย ๐
ไม่มีตั๋วการเมืองแต่งตั้ง "ตำรวจ" เสียงยืนยันฟังชัดจาก บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง ที่เหล่า "สีกากี" ต่างก็อมยิ้มเมื่อได้ยิน ได้ฟัง และรอชมโฉมทัพสีกากี ยุครัฐบาล นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ที่แม้ตอนนี้ตำแหน่ง "ผบ.ตร." คนใหม่ คนที่ 15 ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และยังไม่รู้ว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุมถกวาระแต่งตั้ง "ผบ.ตร." วันไหน แต่หากพลิกกฎ กติกา การแต่งตั้ง "ผบ.ตร." ก็ไม่น่าจะหนี 3 แคนดิเดต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. นรต.41 เกษียณอายุราชการปี 2569 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.39 เกษียณอายุราชการปี 2568 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 เกษีณอายุราชการปี 2569 ยิ่งฝ่ายการเมืองการันตีไม่มีตั๋วการเมืองแต่งตั้งตำรวจ ก็ไม่น่าจะมี "ศรีธนญชัย" โผล่มาป่วน ทำให้คนสีกากีเสียกำลังใจในการทุ่มเททำงาน ซ้ำรอย "ยุคเทพ" ที่ทำหลายคนท้อ ๐
โถ...ก็นึกว่า "สีกากี" ใกล้ถึงวันเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. "นกอินทรี" รูปปั้นนกอินทรี ขนาดความกว้างของปีกทั้ง 2 ข้างยาวประมาณ 1 เมตร ลำตัวสูงไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร มีขนสีเทาสลับสีขาว กางปีกหันหน้าตระหง่านไปทางวัดปทุมวนาราม ซึ่งนำมาติดตั้งไว้บริเวณเทอร์เรซชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 ที่หลายคนมองว่าเป็นการติดตั้งตามหลัก "ฮวงจุ้ย" จะมีอันต้องเก็บข้าวเก็บของบินออกจากรั้ว "ปทุมวัน" ไปเสียแล้ว จนหลายคนบ่นหา สุดท้ายคงทนความคิดถึง คงทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว เพราะผ่านไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ดี "อินทรี" ตัวเก่า ก็บินกลับมาตั้งที่จุดเดิม ตรงเทอร์เรซชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ เพื่อให้ทุกอย่างเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จะอยู่นานแค่ไหน จะบินออกไปอีกหรือไม่ คงต้องรอฟัง "คนใหม่" ตัดสินใจอีกที จะปล่อยให้โบยบินตามเจ้าของเดิม หรือจะเก็บเอาไว้เช่นเดิม ๐
ก่อนที่ “โผ ผบ.ทร.” จะลงตัว สถานการณ์ฝุ่นตลบที่ “วังเดิม" ก็เล่นเอาเหล่าทัพข้างเคียงหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ ต่างก็ปิดซองบัญชีรายชื่อ ตัดจบภารกิจเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่อดีตรัฐมนตรี “สุทิน คลังแสง" อยู่ในตำแหน่งวันสุดท้าย เพราะหวั่นว่าโผเหล่าทัพตัวเองจะโดนหางเลขไปด้วย แต่เมื่อกรอบเวลาขีดเส้นไว้ว่า “ยังไงก็ต้องจบ" จึงถึงเวลาที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ทุบโต๊ะว่าจะเอาตามชื่อที่ บิ๊กดุง-พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือเสนอ หรือจะฟังกระแสเสียงสังคมลูกประดู่ที่ต้องการให้เลือกคนในไลน์ 5 เสือ ทร. แต่ในวันที่ อ้วน ภูมิธรรม เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ มีสัญญาณที่ดีบ่งชี้ว่าจะจบศึกของทัพน้ำแบบไม่เผชิญหน้ากัน เพราะในวันนั้นหลังพิธีการเสร็จสิ้นแล้ว ทาง “บิ๊กดุง” ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ปลีกตัวมาเดี่ยวๆ มอบดอกไม้แสดงความยินดีที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่แบบชื่นมื่น ๐
พูดถึง "บิ๊กดุง" ที่กำลังเกษียณอายุราชการในปีนี้ ถือเป็นธรรมเนียมที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หรือ นย. จะจัดพิธีอำลาชีวิตการรับราชการ และพิธีย่ำพระสุริย์ศรี ในปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่มีความพิเศษตรงที่มีการนำรถเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกล้อยาง 8 ล้อ AWAV (Armored Wheel Amphibious Vehicle) 8x8 ที่บริษัทชัยเสรี ผลิตและส่งมอบรถทั้ง 7 คันให้แก่กองทัพเรือเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเดือนสิงหาคม มาร่วมแสดงในพิธีย่ำสุริย์ศรีด้วย ทั้งนี้รถเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นดังกล่าว จะถูกนำเข้าประจำการในกองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก กองพลนาวิกโยธิน (พัน รนบ.) เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับรถสายพาน AAVP-7A1 ซึ่งนับเป็นยุทธยานยนต์แบบล่าสุดที่ออกแบบและผลิตในประเทศ ที่ได้เข้าประจำการในกองทัพไทย ๐
ทำงานครบ 12 เดือน บรรจบครบรอบปีงบประมาณ บิ๊กออฟ-พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงจัดเสวนาแถลงผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการกองทัพไทย ให้กำลังพลร่วมถกแถลง สะท้อนมุมมอง และนำเสนอความคิดในการร่วมกันพัฒนาการปฏิบัติงานของกองบัญชาการกองทัพไทย “บิ๊กออฟ” ระบุว่า “ตั้งใจให้กำลังพลทุกนายมีความเป็นทหารอาชีพ ร่วมกันทำหน้าที่ตนเอง ลดช่องว่างระหว่างชั้นยศ เพราะกำลังพลทุกคนคือทหารที่มีคุณค่าและมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งได้ให้ความสำคัญในด้านสวัสดิการ ความเป็นอยู่ และสภาพจิตใจของกำลังพล ซึ่งหากกำลังพลมีขวัญกำลังใจที่ดี ย่อมจะสามารถพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้อยากให้กำลังพลทุกนาย ซึ่งมาจากสถาบันการศึกษาที่แตกต่างกันได้ร่วมกันเป็น ดอกไม้หลากสี ซึ่งแม้จะมีความหลากหลายแต่สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นมืออาชีพในการทำหน้าที่" ๐
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง
ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44
จาก...'ต้มยำกุ้ง' ถึง 'ต้มยำกบ'
ด้วยเหตุเพราะ ความคิดถึง อย่างสุดซึ้งถึงเพื่อนเก่า เพื่อนแก่ อย่าง เพื่อนแป๊ะ (โดย แป๊ะ รายที่ว่านี้ออกไปทาง เทพบุตร หรือคนละคนกับ แป๊ะ ปิศาจ) ที่ห่างหายไม่ได้เจอะหน้า เจอะตา