ใครเชื่อก็ควายแล้ว!
ผมหมายถึงที่นายทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าว กรณีเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปทานข้าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า.. “ไม่ใช่เลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย” น่ะ!
หรือว่านายทักษิณมองเห็นคนไทยเป็น “ควาย” โง่ดักดาน จะพูดโกหก ตอแหล ปลิ้นปล้อนแบบไหน-อย่างไรก็ได้รึไง?
แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมเป็นควาย อย่างคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ก็รีบสวนทันควัน.. “คนไทยถูกตบหน้า สังคมถูกท้าทาย เขาไม่แยแส คนไทยถูกทำให้เป็นคนโง่ เป็นตัวตลก
บอกว่ากินมาม่าก็ต้องมาม่า มีอะไรหรือเปล่า ต้องเชื่ออย่างเดียวเท่านั้น”
ส่วนคุณเทพชัย หย่อง สื่ออาวุโส ก็โพสต์ในเรื่องนี้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน...การพูดจาดูถูกสติปัญญาคนไทย”
ครับ..สันดอนน่ะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ “สันดาน” นี่แก้ไม่หายจริงๆ สำหรับคนผู้นี้ มีอำนาจ ได้อิสรภาพเป็นพยัคฆ์ติดปีกขึ้นมาทีไร ก็ต้องทำเป็น “เอิด” พูดจากวนอารมณ์..
เช่นที่ตอบนักข่าวกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกมาแฉและจะเป็นพยานเรื่องชั้น 14 ว่า “อยากทำอะไร ก็ทำเถิด”
หรือเรื่องที่เป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกคุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายทักษิณก็ว่า.. “โอ้ยนี่ เรารู้อยู่ แต่ละคนมีวัตถุประสงค์อะไร ก็เฉยๆ เย็นไว้โยม แก่แล้ว”
ส่วนเรื่องที่จะนำไปสู่การยื่นยุบพรรคเพื่อไทย นายทักษิณส่ายหน้าตอบ.. “ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ประเพณีปฏิบัติ ไม่เห็นต้องสนใจอะไร..”
เมื่อนักข่าวถามว่า มองกระแสที่มีต่อตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างไร หลังถูกกระแสโจมตี
นายทักษิณตอบ..อย่าเรียกว่ากระแสดีกว่า มันเป็นกลุ่มผู้คน ส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำ และมองว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถูกโจมตี ซึ่งนายกฯ เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ..”
นักข่าวถามย้ำ..ตัวนายทักษิณเอง กลายเป็นประเด็นให้นายกฯ ถูกโจมตีด้วย นายทักษิณยิ้ม.. “ไม่เป็นไร แค่โจมตีผมคนเดียวดีกว่า ง่ายดี เพราะผมไม่ได้เป็นอะไร”
เนี่ย..นายทักษิณยักไหล่ไม่แคร์-ไม่สน ยังคงคิดและดูถูกสติปัญญาคนไทยมาตั้งแต่พูดกับคุณเสนาะ เทียนทอง เมื่อครั้งกระโน้น..
“คนตาบอดไม่กลัวเสือหรอก” ในความหมายของนายทักษิณ คนตาบอดคือชาวบ้านที่โง่ ไม่รู้เรื่อง-รู้ความ หลอกอย่างไรก็ได้!
และที่แปลก ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปถึงไหน คนไทยส่วนหนึ่งก็ยังคง (ยอม) เป็น “คนตาบอด” ให้นายทักษิณกลิ้งกลอกหลอกต้มอยู่ได้ด้วยความเต็มใจ
ซ้ำร้าย หลายคนยังได้ช่วยปกป้อง แก้ตัว-แก้ต่าง คอยเอาเรื่องเอาราวเอากับคนที่ไม่ยอมเป็นควายแบบมอบกาย-ถวายหัว!
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครยืนยันว่าเชื่อคำพูดนายทักษิณ.. “ไม่ใช่เลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย” ผมก็เห็นจะต้องขอมอบ “เขา” เป็นรางวัล พร้อมกับ “แว่นดำ” แถมให้อีกอันแล้วล่ะ..
เพื่อ..จะได้ยืนกินหญ้ากลางแดดไม่ต้องแสบตา!
เอาเถอะ นายทักษิณก็อย่าได้ทำเอิดไปให้มากกว่านี้ เพราะคนตาบอดก็เริ่มจะค่อยๆ ตาสว่างกันขึ้นมาบ้างแล้ว สังเกตได้จาก..
รัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ถูกค้าน แก้รัฐธรรมนูญ ก็ถูกค้าน เสนอบุคคลเป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ถูกค้าน
ตั้งบ่อนกาสิโน ทำแลนด์บริดจ์ ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีก็ถูกค้าน จะแบ่งประโยชน์ใต้ท้องทะเลกับกัมพูชาก็ถูกค้าน
ให้สัญชาติไทยกับผู้อพยพ-คนต่างด้าวก็ถูกค้าน กระทั่งจะเพิ่มทุนการบินไทยก็ยังโดนค้าน
นี่..ไม่ใช่แค่ “ขาประจำ” นะ บอกให้ (โว้ย)!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วางใจไม่ลุกไปไหน?
ความจริงก็หาใช่กงการอะไร? แต่เมื่อคุณจักรภพ เพ็ญแข อดีตคนเสื้อแดงแรงฤทธิ์ มีชื่อโผล่อยู่ในผังรายการใหม่ “TOP HEADLINE” ของช่อง “ท็อปนิวส์” ก็ย่อมเป็นธรรมดา..
วอนขอพระคืน
ช่วยเหลือเร็ว-ช้าไม่ว่ากัน แต่..คาใจว่า ฝน-ฟ้าตั้งเค้ามาหลายวันแล้ว กรมอุตุฯ ก็เตือนมาเป็นระยะ เหตุใดรัฐบาลแพทองธารถึงไม่ได้มีการเตรียมแผน-สั่งการรับมือไว้เสียแต่แรก?
เผื่อรัฐบาลยังไม่รู้!
แค่ “ก๊กอนุรักษนิยม” สิ้นคำ-ประโยคนี้ของ “น้องเต้น” คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ก็นึกว่าจะได้ยินเสียงจาก “พี่ชายสุดเลิฟ” คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ตอบรับ!
คิดถึง..'โหมโรง'
คงเดช จาตุรันต์รัศมี.. ผู้อ่านไทยโพสต์อาจไม่ค่อยคุ้นหู เขาคือ “ผู้กำกับภาพยนตร์” และเป็น “ผู้เขียนบท” มือรางวัลที่มีผลงานโดดเด่นท่านหนึ่งในวงการ!
ยังเป็นอุตสาหกรรมไม่ได้?
เศรษฐกิจไม่ดี พายุยังไม่หมุน.. แต่เพื่อนคนหนึ่งเปรยกับผมว่า..ปีนี้เป็นปีที่หนังไทยประสบความสำเร็จในการทำรายได้ระดับหลายร้อยล้านหลายเรื่อง บางเรื่องถึงพันล้าน (นับรวมรายได้จากตลาดนอกบ้าน)
ได้อภิสิทธิ์เหนือคนไทยทั้งมวล?
“ผมพอแล้ว”! คำพูดประโยคนี้ไม่เคยหลุดจากปากนักการเมือง หรือจะหลุดให้ได้ยินบ้าง ก็ประเภทตอแหล ปลิ้นปล้อน กะล่อน อย่างเช่นว่า..