เชื้อชั่วไม่ยอมตาย

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม!

เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..

พวกท่านก็ต้องพร้อมรับ “ผลกรรม” ที่จะตามมา และอย่าได้โทษใครเชียว!

ส่วนเมื่อวาน-9 ธ.ค. ที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้จูงมือคุณปานเทพไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี กรณี MOU44 นั้น

ก็เป็นสิทธิ์ เป็นเรื่องปกติที่ประชาชนสามารถจะทำได้ และถ้าปล่อยให้เป็นธรรมชาติ หมายถึงฝ่ายรัฐบาลปิดปากนิ่งเงียบเสีย ทุกอย่างก็จะจบลงแค่วานนี้

แต่เมื่อคุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ต้องการจะโชว์ผลงาน แกว่งปากกล่าวหาว่า.. “เท่าที่ดูเหมือนจะเหลือคนแค่กลุ่มเดียวที่คลั่งชาติจนขาดสติ แยกผลดีผลเสียไม่ออก

รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่กลุ่มของนายสนธิ ที่คงเหลือเพียงกลุ่มเดียว กลับเอาแต่ชอบเตะตัด สกัดขัดขวาง ทำทุกอย่างเพื่อจับผิด

ด้วยความอคติ จิตใจคับแคบ ค้านตะบัน ไม่เคยมีข้อเสนอหรือแนวทางสร้างสรรค์อะไรเลย ตนอยากรู้ว่าใจทำด้วยอะไร สงสัยอยู่ว่ากำลังทำเพื่อใคร

เท่าที่ตนเห็นก็มีแต่เจตนาที่ไม่ดี หากคล้อยตามคนเหล่านี้บ้านเมืองคงถอยหลังไปไกล แต่โชคดีที่วันนี้คนเขาตื่นรู้หมดแล้ว

อยากฝากไปถึงนายสนธิหากนำม็อบลงถนนจริงแล้วไม่มีคนหรือมีคนน้อย ยังไงก็อย่าอ้างว่าโดนอำนาจรัฐหรือใครสกัดกั้นก็แล้วกัน”

ก็..เหมือนอวดดี-ท้าทาย ซึ่งก็พลอยทำให้คนที่ยังลังเลหรือไม่อยากลงถนนให้เหนื่อยกาย-เหนื่อยแรง ได้เกิดอารมณ์หมั่นไส้ในวาจา

และนี่ หากเกิดม็อบจุดติดพรึบขึ้นมา ก็อย่าได้อ้างว่าเป็น “พวกคลั่งชาติ-ขาดสติ” แต่ควรตำหนิ-เขกกบาลตัวเองนั่นแหละ..

ที่ขาดสติ แกว่งปากไปกล่าวหา-ท้าทายคุณสนธิเข้าอย่างนั้น!

ครับ..ก็รอดู-รอฟัง หลังจากนี้คุณสนธิจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป ส่วนคุณพร้อมพงศ์ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องแสดงให้นายเหนือหัวเห็นผลงาน

ซึ่งก็อยากให้ใช้ปาก-ใช้วาจา (ท้าทาย) แบบนี้ออกมาให้มากๆ ในห้วงนี้ แล้วจะได้รู้กันว่า ประชาชนจะเดินลงถนนหรือจะคอยแบมือรับเงิน (แจก) จากรัฐบาล?

เออ..พูดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ วันก่อนเห็นข่าวว่าสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติได้ลงดาบสั่งแบนหนังของบริษัทผู้สร้างห้ามเอาหนังเข้าฉาย..

เหตุเพราะค้างค่าตัวนักแสดงมา 3-4 เดือนแล้ว!

เฮ้อ..ทำให้นึกถึงหนังฝรั่งเรื่องไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ชื่อไทยกระแทกใจโคตรๆ และจดจำ นั่นคือ “เชื้อชั่วไม่ยอมตาย” ขึ้นมาซะงั้น!

นี่..จะย่างเข้า พ.ศ.2568 แล้ว วงการหนังไทยยังมีเรื่องพรรค์อย่างนี้อยู่อีกหรือ? เรื่องเชื้อชั่วในวงการหนังไทยเนี่ย ไม่มีอะไรชั่วเท่าไม่จ่ายค่าแรงทีมงานอีกแล้วนะจะบอกให้

หนังถ่ายทำเสร็จไม่จ่าย บางนายทุนท้าทายอยากได้ก็ไปฟ้องเอา มาถึงยุคนี้แล้ว การโกงค่าแรงทีมงานนึกว่าได้สูญหกตกหายลงนรกอเวจีกันไปหมดแล้ว..ยังจะมีอีก!

พยายามจะสืบว่าเป็นค่ายไหน ก็ไม่มีใครรู้ คงไม่กล้าบอกกันแหละ อันนี้เป็นจุดที่ทำให้หนังไทยไปสู่ความรุ่งเรืองมั่นคงไม่ได้

ก็อย่างที่คนรู้จักพูดกับผมไปเมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ ว่า หนังไทยไม่มีวันที่จะไปถึงความเป็นอุตสาหกรรมได้ ตราบใดที่ยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานนั่นไง

คือแรงงานไม่มีสหภาพแรงงานคุ้มครองสิทธิแรงงาน มันเป็นอุตสาหกรรมไม่ได้ ทั้งๆ ที่แรงงานเหล่านี้ถูกหักภาษีรายได้ ณ ที่จ่ายกันทุกคน

ความที่มีเชื้อชั่วปะปนเหมือนเป็นปรสิตคนไม่ใช่คนอยู่ วงการมันก็แคระแกร็นอยู่อย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้ น่าเวทนา-หดหู่

ไม่รู้ว่าพวกเชื้อชั่วทำไมมันทนนักหนาก็ไม่รู้ นึกว่าตายหอมตายกระเทียมกันไปหมดแล้วนะเนี่ย?

ทำไป-ทำมา มันดูจะเหมือนๆ กันไปทุกวงการ-ทุกอาชีพ อย่างแถวๆ ทำเนียบฯ นั่นจะเป็นเชื้อเดียวกันกับวงการหนังไทยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ 

แต่ถ้าว่าเป็นชนิด “อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลชั่วไม่ยอมตาย” ล่ะก็..

เชื้อเดียวกันเปี๊ยบเลย!.

 

สันต์ สะตอแมน 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หวังว่าจะเข็ดหลาบ?

เดือนกรกฎา. 2565.. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าว.. “สำหรับนโยบายเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 เริ่มดำเนินการจากที่ได้ไปคุยกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มา

ความยุติธรรมจะให้คำตอบ!

ปัญหาด้านสุขภาพ.. นี่..คือเหตุผลส่วนตัวที่เพจ ช่อง 8 โพสต์แจ้งว่า.. อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ จะยุติบทบาทการทำหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป!

อาการคนสติแตก?

มีคนสงสัย.. ใครนะที่ไปดีล-ตกลงกับนายทักษิณ ชินวัตร ให้กลับเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว!

ระวังเด็กจะย้อนเอา

“ผมเสือกให้ประชาชนใครมีอะไรไหม”? ครับ..นายทักษิณ ชินวัตร ที่ยอมรับตัวเองมีตำแหน่งใหญ่เป็น สทร.-“เสือกทุกเรื่อง” แกว่งปากถาม ส่วนจะมีใครกล้าพอจะมีอะไรด้วยรึไม่นั้น ก็ต้องตามดู-ตามฟังเอา

นายกฯอุ๊งอิ๊งกลัวอะไร?

“กาสิโน คือบ่อนการพนัน.. รัฐบาลเปิดบ่อนกาสิโน ก็เท่ากับว่า รัฐบาลเป็นนักเลงคุมบ่อน...มีสิ่งที่ต้องทำเยอะแยะไปหมด ยังไม่คิดจะทำ

เหตุผลที่ต้องรีบ

ปาราชิก..ขาดจากความเป็นภิกษุ แล้วไง? ที่ถาม เพราะเห็นมาไม่รู้กี่โล้นต่อกี่โล้นที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตรวจสอบพบความจริงว่า “เสพเมถุน” โทษก็คือ “ปาราชิก” ถูกจับเปลื้องสบง-จีวรพ้นจากความเป็นพระ