ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจสังคมเป็นต้นเหตุสำคัญของอาหรับสปริงซีเรีย รัฐบาลต่างชาติที่หวังล้มอัสซาดพยายามอยู่นานหลายปี รอจนวาระและโอกาสเป็นใจ
การโค่นระบอบอัสซาดที่นำโดยฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hay’et Tahrir al-Shams: HTS) ไม่ใช่เรื่องใหม่ กลุ่มนี้เข้ารบหวังล้มรัฐบาลอัสซาดตั้งแต่เริ่มอาหรับสปริงซีเรียครั้งเมื่อปี 2011 และชนะในปลายปี 2024 นี้
ภาพ: ผู้นำ HTS กับกลุ่มต่างๆ หารือการร่วมจัดตั้งรัฐบาล
เครดิตภาพ: https://www.rudaw.net/english/middleeast/syria/241220244
เป็นที่รับรู้ทั่วไปว่า HTS เป็นสายหนึ่งของอัลกออิดะห์ (al-Qaida) ทำนองเดียวกับผู้ก่อการร้ายไอซิสหรือ IS (Islamic State-รัฐอิสลาม) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Al-Nusra Front/Jabhat al-Nusra และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS)
อาหรับสปริงซีเรียมีนาคม 2011:
มีนาคม 2011 การชุมนุมประท้วงเริ่มต้น กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูป ปลดปล่อยนักโทษการเมือง จัดเลือกตั้งโดยเสรี จัดตั้งรัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชน เนื่องจากทุจริตคอร์รัปชันสูง ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องนับทศวรรษ ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายรัฐบาลอัสซาดปฏิรูปบางอย่าง พยายามเจรจากับฝ่ายต่อต้านสายกลาง แต่ประธานาธิบดีอัสซาดเห็นว่าหากซีเรียปกครองด้วยประชาธิปไตยแบบตะวันตกจะยิ่งทำให้ประเทศอ่อนแอ จึงปฏิเสธข้อเรียกร้อง เกิดการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาฝ่ายต่อต้านเปลี่ยนเป้าหมายเป็นล้มรัฐบาล
ประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลนั้นมีอยู่จริง ส่วนมากเริ่มจากการชุมนุมของกลุ่มเล็กๆ ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง และขยายวงกว้างขึ้น กล้าแสดงออกตามท้องถนน พวกเขาเห็นว่าประเทศต้องปฏิรูป สังคมต้องเปลี่ยนแปลง แม้ยังขาดคำตอบชัดว่าจะไปทิศทางใด รายละเอียดแผนเป็นอย่างไร มีแค่เป้าหมายว่าขจัดเผด็จการ ประชาชนมีเสรีภาพมากขึ้น มีความเท่าเทียม ทุกคนอยู่ดีกินดี
การชุมนุมที่เริ่มโดยสงบกลายเป็นการชุมนุมที่ใช้อาวุธมากขึ้น บางกรณีเป็นการปะทะระหว่างคนที่สนับสนุนรัฐบาลกับคนที่ต่อต้านด้วยอาวุธที่หาได้ทั่วไป เช่น ไม้ มีด ในเวลาไม่ถึงสองเดือนสหประชาชาติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 9 พันคน
ต้นเหตุอาหรับสปริงซีเรียมีผู้วิเคราะห์มากมาย สามารถสรุปย่อดังนี้
อำนาจที่ไร้การตรวจสอบ:
การปกครองของระบอบอัสซาดคือการอำนาจนิยมเข้มข้น ใช้แต่คนใกล้ชิดด้วยหวังว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้ หวังให้ระบอบมั่นคง ในแง่หนึ่งน่าเห็นใจว่าการเมืองซีเรียมีแต่ปรปักษ์รอบข้าง อัสซาดผู้พ่อก็แย่งอำนาจนี้มาจากคนอื่น การบริหารแบบรวบอำนาจจึงจำเป็น แต่นานวันเข้าอำนาจนิยมกลายเป็นการใช้อำนาจโดยไร้การตรวจสอบ แม้รัฐบาลมีเจ้าหน้าที่มีตำรวจลับ แต่คนเหล่านี้ร่วมมือกับผู้กุมอำนาจในแต่ละท้องถิ่น เกิดการ “รวบอำนาจ” ในแต่ละท้องถิ่น โดยที่รัฐบาลกลางแก้ไม่ได้ คนเหล่านี้ร่วมกันทุจริตคอร์รัปชัน ฉวยโอกาสจากนโยบายรัฐ งบประมาณส่วนกลางที่กระจายสู่ท้องถิ่น
คนที่ใกล้ชิดกับพรรคบาธ คนของรัฐบาลเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ ประชาชนจำนวนมากที่เหลือกลายเป็นคนที่ถูกรัฐบาลทอดทิ้ง ได้รับความช่วยเหลือแต่น้อย
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจสังคมเป็นต้นเหตุสำคัญของอาหรับสปริงซีเรีย
ภาพที่ปรากฏคืออำนาจนิยมทำให้ดูเหมือนว่าระบอบอัสซาดอยู่อย่างมั่นคง แต่ในระยะยาวหนีไม่พ้นที่ประเทศถดถอยเสื่อมโทรม ประชาชนทุกข์ยากมากขึ้นจนถึงจุดหนึ่งมีผู้จุดประกายหรือมีเหตุจุดชนวน ประชาชนผู้ไม่พอใจจึงพร้อมใจลุกฮือเกิดอาหรับสปริงซีเรีย
ต่างชาติแทรกแซง:
ทุกประเทศมีผู้ไม่พอใจรัฐบาล การชุมนุมประท้วงเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย การชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเป็นข่าวที่เห็นได้อยู่เสมอ รัฐบาลเก่าไปรัฐบาลใหม่มา แต่กรณีซีเรียไม่เป็นเช่นนั้น
ทศวรรษ 1990 รัฐบาลอัสซาด (บิดา) เปิดทางให้มุสลิมต่างชาติเข้ามามากขึ้น คิดว่าจะสามารถควบคุมให้อยู่ในร่องในรอย กลุ่มหนึ่งที่เข้ามาคือพวกนิกายวาห์ฮะบี (Wahhabism) จากซาอุฯ เริ่มเผยแผ่ศาสนาตามแนวทางของตนเอง มีอิทธิพลต่อพวกซุนนีดั้งเดิม มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล การเข้ามาของกลุ่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเข้ามาของกองกำลังมุสลิมต่างชาติ พวกญิฮาดจากนานาประเทศ กลุ่มเหล่านี้ผนวกกับคนท้องถิ่นกลายเป็นกองกำลังที่เข้าควบคุมบางพื้นที่ นับวันกองกำลังญิฮาดขยายตัว
เมื่อประธานาธิบดีบุชส่งกองทัพโค่นล้มระบอบซัดดัมในอิรัก พวกญิฮาดจากทั่วโลกพากันหลั่งไหลเข้าอิรักเพื่อต้านกองทัพอเมริกัน ส่วนหนึ่งผ่านทางซีเรีย ประเทศซีเรียกลายเป็นจุดที่พวกญิฮาดทั่วโลกรวมตัว เตรียมตัวก่อนเข้าอิรัก ในช่วงนั้นเกิดกลุ่มญิฮาดมากมาย รวมทั้งกลุ่ม JTWJ ที่ต่อมากลายเป็นอัลกออิดะห์สาขาอิรัก และกลายเป็นไอซิสในที่สุด
สิงหาคม 2011 สมาชิกสันนิบาตอาหรับ (Arab League) หลายประเทศเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านรัฐบาลอัสซาด
ต้องล้มระบอบอัสซาดเท่านั้น:
พฤศจิกายน 2011 สันนิบาตอาหรับระงับความเป็นสมาชิกของซีเรียและคว่ำบาตรเศรษฐกิจ มกราคม 2012 สันนิบาตอาหรับเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้ประธานาธิบดีอัสซาดก้าวลงจากอำนาจ และขอให้คณะมนตรีสหประชาชาติมีมติสนับสนุน
การระงับสมาชิกภาพของซีเรียคือความพ่ายแพ้ทางการเมืองระหว่างประเทศครั้งใหญ่ของรัฐบาลอัสซาด ทำให้ถูกโดดเดี่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน นำมาซึ่งการถูกโดดเดี่ยวจากอีกหลายประเทศ และเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกมาก เป้าหมายสุดท้ายคือล้มรัฐบาลอัสซาด
ต้นปี 2012 ต่างชาติเริ่มส่งมอบอาวุธแก่ประชาชนฝ่ายต่อต้าน และเกิดการรวมกลุ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องการอำนาจการเมืองหลังสิ้นรัฐบาลอัสซาด
สอดคล้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อพฤศจิกายน 2019 ว่า เหตุที่มาของการชุมนุมประท้วงส่วนหนึ่งมาจากเงินต่างชาติ มาจากประเทศกาตาร์ อุดหนุนให้คนประท้วงต่อต้านรัฐบาล และความรุนแรงที่เกิดตั้งแต่ต้นมาจากผู้ประท้วงบางคน จากนั้นไม่นานกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนทุกกลุ่ม รวมทั้งพวกสุดโต่งอย่าง al-Nusra Front (ที่ตอนนี้คือ Hay’et Tahrir al-Shams: HTS) กับไอซิส (ISIS) ด้านรัฐบาลโอบามาขอให้อัสซาดลงจากอำนาจ สนับสนุนกลุ่มที่เรียกว่าเป็นสายกลาง ฝึกกองกำลังติดอาวุธในจอร์แดน
พวกสุดโต่งอย่าง al-Nusra Front กับไอซิสแม้มีจุดยืนร่วมว่าต้องการโค่นล้มระบอบอัสซาด แต่ต่างตรงที่ต้องการให้รัฐบาลในอนาคตปกครองตามแนวทางของอิสลามเต็มขนาด ตามการตีความของพวกตน (ซึ่งแตกต่างจากมุสลิมกระแสหลัก)
แต่มาบัดนี้ HTS ในปี 2024 ส่อว่าไม่คิดจะปกครองซีเรียแบบรัฐอิสลาม ให้สิทธิเสรีภาพแก่ทุกกลุ่มทุกนิกายศาสนา น่าติดตามว่าท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
นโยบายโค่นล้มระบอบอัสซาดมีมานานแล้ว ถ้ายึดอาหรับสปริงซีเรียคือเริ่มตั้งแต่ปี 2011 สำเร็จในปี 2024 ตัวละครแม้ล้มหายตายจากไปบ้าง (หรือไม่ใช่ตัวสำคัญ) แต่แรกที่ชาติอาหรับเป็นผู้สนับสนุนหลัก มารอบ 2024 นี้ดูเหมือนว่าบทบาทอาหรับลดลง ที่เพิ่มขึ้นคือตุรกี และบางคนชี้ว่าคืออิสราเอล ส่วนสหรัฐมีบทบาทสำคัญตั้งแต่ต้น คือตั้งแต่สมัยบารัค โอบามา ที่พูดชัดต้องการให้อัสซาดลงจากอำนาจ
หลักการยังคงเดิมคือรัฐบาลต่างชาติสนับสนุนคนซีเรียที่ไม่พอใจระบอบอัสซาด ผสมโรงด้วยกองกำลังต่างชาติ ที่จำต้องมีต้องใช้เพราะคือการล้มด้วยกองกำลังติดอาวุธ (โดยพวกญิฮาดหรือผู้ก่อการร้ายหรือชื่ออื่นๆ แล้วแต่ว่าใครตีตราอย่างไร) ในที่สุดระบอบอัสซาดก็สิ้นแม้รัฐบาลรัสเซียกับอิหร่านและพวกพยายามปกป้อง
จะเห็นว่าพวกที่หวังล้มอัสซาดพยายามอยู่นานหลายปีและไม่ทิ้งความตั้งใจนี้ รอจนวาระและโอกาสเป็นใจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สิ่งแอบแฝงที่มากับภาษีทรัมป์2.0 (1)
ลัทธิล่าอาณานิคมยุคใหม่ (neocolonialism) ชาติมหาอำนาจจะต่อต้านโลกหลายขั้ว ต่อต้านการแข่งขันเสรี และจะบีบให้ประเทศอื่นๆ ยอมรับข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์แก่ตน
แผน100วันล้มระบอบอิหร่าน2025
มาจากแผนระยะยาวที่ตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้ รัฐบาลทรัมป์มาแล้วก็ไปแต่ความตั้งใจล้มอิหร่านจะอยู่ต่อไป
โครงการนิวเคลียร์อิหร่านกับสหรัฐ2025 (2)
จุดยืนร่วมจีน รัสเซีย และอิหร่าน 2025 บ่งบอกว่าจีนกับรัสเซียทนไม่ได้ที่รัฐบาลสหรัฐเล่นงานอิหร่านด้วยโครงการนิวเคลียร์อีกแล้ว
โครงการนิวเคลียร์อิหร่านกับสหรัฐ 2025 (1)
การเจรจารอบปี 2025 คือการเริ่มเล่นงานอิหร่านอีกครั้ง อาจต่างกันที่รายละเอียดวิธีการตามบริบทล่าสุด เป้าหมายสุดท้ายคือล้มระบอบอิหร่าน
แนวคิดนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย 2023 (3)
รัสเซียหวังระบบโลกหลายแกนนำที่มีความเท่าเทียมมากขึ้น อันจะส่งเสริมความมั่นคงของตน แต่เท่ากับขัดขวางฝ่ายตรงข้าม
เจ้าพ่อทรัมป์ (Trump the Godfather)
ทรัมป์ไม่ได้ทำงานคนเดียว ต้องรวมสมาชิกรัฐสภารีพับลิกัน รวมทั้งคนอเมริกันหลายล้านคนที่สนับสนุนอย่างแข็งขัน เป็นพวกอำนาจนิยม