
นายกฯ "คุณหนู" ของเรา น่าเอ็นดูนะ
เสื้อผ้า-หน้าผม-รองเท้า "หรูหรา ราคาแพง" เสริมคนแต่งให้ดู "แพง" ตามไปด้วย!
ก็เป็นข่าวโลกเลยละ
"นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร" พบกับ "ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง" และท่านประธานาธิบดี ขอบคุณ-ชื่นชม "ผู้นำไทย"
ที่เอาจริงเอาจังต่อต้านศูนย์ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ในพม่าที่พุ่งเป้าหมายชาวจีนเป็นเหยื่อ
และยังได้เข้าปรึกษาหารือกับ "นายหลี่ เฉียง" นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย
นายกฯ ของเราบอกกับนายกฯ จีนด้วยว่า ไทย-จีนต้องประสานความร่วมมือกันใกล้ชิด ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ในอนาคต
โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มุ่งมองไปข้างหน้า และจะต้องทำให้ "ประชาชนมีกิน มีใช้"
ไม่ได้บอกต่อว่า "มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี" ด้วยหรือเปล่า แต่ก็เอาเถอะ แค่นี้นายกฯ ลูกสาวทักษิณ ก็ทำให้ประเทศมีหน้า-มีตา ที่ "ชุดสวย-รวยเงิน"!
"ไทย-จีน" เปิดสัมพันธไมตรี ดูเหมือนแป๊บๆ แต่ความจริงมิตรภาพยั่งยืน-ยาวนาน มา ๕๐ ปีแล้ว
ประวัติศาสตร์ชาติไทย ถ้าศึกษา จะพบว่าจีนมีบทบาทแทรกอยู่แทบแต่ละบรรทัด
ชาติไทยรอดจากภัยคุกคาม ก็ได้จีนนี่แหละช่วยให้รอด
ราชวงศ์ไทยกับรัฐบาลจีน ผูกพันหยั่งรากลึกซึ้งไพศาลยาวนานกว่าคำว่า "เปิดสัมพันธ์" เมื่อปี ๒๕๑๘ ซึ่งนั่น แค่ฉากทางการเมือง
ปีนี้ ปี ๒๕๖๘ ครบ "ครึ่งศตวรรษ" ที่เปิดสัมพันธ์คบหาทางการเมือง
เชื่อว่า ปีนี้ น่าจะมี "ข่าวมงคล" ให้มิตรทั้งหลาย-สหายทั้งหลาย ได้ตื่นตา-ตื่นใจกัน เสริมสร้างและพันผูกด้านมิตรภาพสัมพันธ์ยากแยกระหว่าง "ไทย-จีน"
ตอนนี้ นายกฯ ไทยและคณะอยู่ที่จีน
ในเมืองไทย มีคนสำคัญที่รัฐบาลจีนส่งมา จะใช้คำว่าส่งมา "ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลไทย" หรือส่งมา "สั่งรัฐบาลไทย" ก็สุดแต่ใครจะมอง?
แม้ขณะนี้ ก็ยังอยู่ในไทย ท่ามกลางความแข็งขันออกกวาดล้าง-จับกุม "แก๊งจีนเทา" จากทางฝ่ายไทย!
"นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีน คือบุคคลที่ผมพูดถึง
พลันมาถึงไทย....
"ลาน" รัฐบาลไทย, ลาน สมช.ไทย, ลานเจ้าหน้าที่ไทย รวมทั้ง ลานตำรวจ-ทหารไทย
เหมือนถูกไข....
จาก "ไม่รู้-ไม่เห็น" อะไร เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ พลันรู้-พลันเห็น ว่ามันเป็นใคร อยู่ที่ไหน ออกกวาดล้าง-ลากคอ เหมือนมีเรดาร์จับ!
ฉะนั้น วันนี้ มาทำความรู้จัก "นายหลิว จงอี้" กันซักหน่อย จะได้ดู "หนังไทย" เข้าใจง่ายกันขึ้น
"Kornkit Disthan" นักเขียน-นักค้นคว้าประวัติศาสตร์ตะวันออก ที่ผมเป็นแฟนงานเขียนเขา ได้เขียนเกี่ยวกับนายหลิว จงอี้ ไว้ในเพจ
ด้วยเคารพ ขออนุญาตยกมาให้อ่านในทางวิทยาทาน มิใช่เพื่อการพาณิชย์ ดังนี้
................................
Kornkit Disthan
ช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ทางการจีนส่งตัว หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีน มาดูสภาพการณ์ที่ อ.แม่สอด
พร้อมกับหารือเรื่องต่างๆ กับฝ่ายไทยให้ดำเนินการพวกกำจัดพวกสีเทา
ผมได้ยินมาว่ามีการปล่อยข้อมูลเรื่องที่ "หลิว จงอี้" ตำหนิเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยว่า "ไม่สนใจดูแลบ้านเมืองตัวเอง"
ได้ยินครั้งแรก ผมก็ไม่เชื่อแล้วว่าจริง
เพราะไม่มีอย่างที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของชาติหนึ่งจะมาหักหน้าเจ้าบ้านแบบนี้
ปรากฏว่า มีการยืนยันจากสื่อไทย ที่ไปสอบถามยังล่ามสถานทูตที่ทำหน้าที่ในวันนั้นแล้วว่า "ไม่เป็นความจริง"
หลิว จงอี้ (刘忠义) คนนี้ไม่ธรรมดานะครับ
เพราะเป็นถึงมือปราบเบอร์ต้นๆ ของจีน ไม่ใช่นักการเมืองมาทำงานในกระทรวง
คนคนนี้ เป็นผู้ไขคดีสำคัญๆ มาหลายคดีแล้ว โดยเฉพาะคดีแก๊งอาชญากรต่างๆ จนได้ชื่อว่า "ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนอาชญากรรมแห่งชาติ" (国家级刑侦专家)
ผลงานหลักๆ ของหลิว จงอี้ คือ ปราบแก๊งอาชญากรทั้งหลาย และคลี่คลายคดีที่สะสางไม่ได้
สำนักข่าว "หนานฟางตูซื่อเป้า" (南方都市报) รายงานวีรกรรมของ หลิว จงอี้ เอาไว้ว่า
"ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่งที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ในปี 2014
หลิว จงอี้ ได้จัดการปราบปรามการระเบิดครั้งใหญ่ที่บ่อนการพนันในข่ายลี่ มณฑลกุ้ยโจว
และในปี 2016 สำนักงานสอบสวนอาชญากรรมของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ได้ประกาศปราบปรามคดีฆาตกรรมที่ยังคลี่คลายไม่ได้
โดยให้หลิว จงอี้ เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานและจัดการสืบสวนคดีเหล่านี้โดยตรง"
"คดีส่วนใหญ่เหล่านี้ถูกเรียกว่า "คดีที่ยังไม่คลี่คลายแห่งศตวรรษ" โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว และคดีที่ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นๆ เช่น หลักฐานทางกายภาพไม่ครบถ้วน สูญเสียสถานที่เกิดเหตุ และขาดความเชื่อมั่นในตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะคลี่คลายได้
บางคนกล่าวว่า "คดีเหล่านี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมเราต้องหยิบยกคดีเก่าขึ้นมาอีก"
แต่หลิว จงอี้ กล่าวว่า นักสืบรุ่นใหม่ ต้องกล้ารับผิดชอบและทำงานหนักเพื่อคลี่คลายคดีฆาตกรรม และชี้แจงให้ประชาชนทราบ"
หลังจากนั้น คดีที่คลี่คลายไม่ได้หลายคดี ก็ถูกสะสางภายใต้การบัญชาการของหลิว จงอี้
จนกระทั่งกลายเป็นต้นแบบให้ตัวละครในซีรีส์สอบสวนอิงเรื่องจริง เรื่อง 我是刑警 เมื่อปี 2024
นอกจากจะเก่งกาจในเรื่องไขคดีแล้ว เขายังเชี่ยวชาญในการปราบแก๊งอาชญากรรมไอทีด้วย
โดยในเดือนธันวาคม 2020 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมีแคมเปญพิเศษทั่วประเทศ เพื่อต่อสู้และปราบอาชญากรรมที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มอาชญากรและกองกำลังชั่วร้ายโดยใช้เครือข่ายข้อมูลข่าวสาร
โดยหลิว จงอี้ เข้าร่วมงานแถลงข่าวในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านกลุ่มอาชญากรและผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนคดีอาญาของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ
โปรดทราบว่า ตอนนั้น จีนเริ่มประสานงานมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อปราบจีนเทา-สแกมเมอร์กันแล้ว
หลิว จงอี้ มีโปรไฟล์ชั้นเลิศในวงการตำรวจ
เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีเมื่อเดือนเมษายน 2024 พร้อมกับ หู ปินเชิน (胡彬郴) ซึ่งเคยเป็นแคนดิเดตผู้อำนวยการอินเตอร์โพล
คนหลังนี้ มีความสามารถในการประสานงานกับตำรวจนานาชาติ
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีน ตั้งสองคนนี้มาดำรงตำแหน่งผู้ "ช่วยรัฐมนตรี" ที่ว่างมานานถึง 3 ปี
นัยว่า เพื่อเอามาช่วยงาน "กวาดล้างแก๊งข้ามชาติ" หลังจากที่ทางกระทรวงเริ่มปฏิบัติการแรกในการกวาดล้าง "จีนเทา" ในแถบเมียนมา ตอนนี้
ปฏิบัตินี้ จบไปแล้ว ล่าสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะประกาศว่า
แก๊งสแกมเมอร์ในเมียนมาตอนเหนือ "ถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว"
สำนักข่าวไฉซิน (财新) รายงานว่า "กระทรวงความมั่นคงสาธารณะระบุว่า ภายใต้การปราบปรามและป้องปรามที่เข้มงวด
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ยังคงเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงภัยของเมียนมา เช่น ว่านไห่, ตางหยาง (เขตของพวกว้า) และเมียวดี
เพื่อรับสมัครและล่อลวงผู้คนในประเทศให้หลบหนีออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย เพื่อร่วมก่ออาชญากรรมฉ้อโกงทางโทรคมนาคม
และก่อให้เกิดกิจกรรมทางอาญาร้ายแรง เช่น การกักขังโดยผิดกฎหมาย การทำทารุณกรรม ไปจนถึงการลักพาตัวและฆาตกรรม ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองของเรา"
เป้าหมายต่อไปของจีนคือ เมียนมาตอนอื่นๆ โดยเฉพาะตอนที่ติดกับไทย ซึ่งทำธุรกิจดำและเทากันอย่างสบายใจเพราะจีนยังเอื้อมมือมาไม่ถึง
และอาจจะมี "ไทยเทา" คอยคุ้มหัวให้ด้วย
ไทยและจีน รวมถึงเมียนมาและกัมพูชา ร่วมมือกันมาระยะหนึ่งแล้วในการกวาดล้างจีนเทา
แต่กรณีของหวางซิง หรือ "ซิงซิง" เป็นตัวเร่งให้จีนกดดันไทยมากขึ้น โดยส่งคนระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี/มือปราบ เข้ามา
เท่ากับยกระดับไทยให้เท่ากับแหล่งสีเทาอย่างเมียนมาและกัมพูชา
โดยเมียนมานั้น จีนส่งระดับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศไปคุย แต่ให้กระทรวงความมั่นคงฯ จัดการแถบชายแดน
ส่วนกัมพูชา จีนส่ง "หู ปินเชิน" ซึ่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ ไปประสานงาน
พร้อมกับมี จ้าว เค่อจื้อ (赵克志) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ หารือโดยตรงกับเจ้ากระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา
เพื่อย้ำว่า ทั้งสองประเทศ ต้องร่วมมือกันในแคมเปญ "ปีแห่งการความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายจีน-กัมพูชา" (中柬执法合作年)
อันเป็นแคมเปญทำงานร่วมเพื่อ "ปราบจีนเทา" ในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2019
ไทยเราไม่ควรจะร่วมมือถึงขนาดนั้น เพราะเท่ากับแสดงว่าขื่อและแปของบ้านเมืองเรามีปัญหาเหมือนเมียนมาและกัมพูชา
ผมจึงเห็นว่าการที่จีนส่ง "หลิว จงอี้" มา เท่ากับกดดันทางหนึ่ง แต่ก็ส่งสัญญาณด้วยว่ายังจะไม่ถึงขั้นเพื่อนบ้าน โดยส่งตำรวจชั้นดีมาดูลาดเลาก่อน
ยังไม่ถึงขั้นส่งรัฐมนตรีกระทรวงหลักๆ มากดดันเหมือนที่ทำกับเมียนมาและกัมพูชา ดูแล้วผมคิดว่า "จีนยังไว้หน้าไทย" อยู่พอสมควร
....................................
ความจริง "มือปราบ" ของไทยที่เก่ง สัตย์ซื่อต่อหน้าที่และผลประโยชน์ชาติเหมือน "นายหลิว จงอี้" ก็มี มีมากด้วย
แต่นายและนักการเมือง ไม่ชอบ
เติบโตในราชการสู้พวก "เก็บส่วยส่งนาย" และพวกคอยตามหิ้วเกือกนักการเมืองไม่ได้!
"ค่านิยม" กับ "สำนึกมนุษย์" สังคมไทยยังแยกความต่างกันไม่ออก ฉะนั้น
"พัฒนาวัตถุได้ แต่พัฒนาคน...ยาก!"
-เปลว สีเงิน
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หัวเราะวันนี้-หนีวันหน้า’
“เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง” อมตพจน์ “หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร” บิดาแห่งการเกษตรไทย ท่านกล่าวฝากไว้กับแผ่นดิน ถึงตอนนี้ ก็เฉียดศตวรรษ!
วันนี้ ‘ลิงไปกินกล้วย’ กี่ตัว?
ต้องถามท่านแล้วละว่า.... ซักฟอกนายกฯ ลูกทักษิณ ๒ วันที่ผ่านไป เป็นไงบ้างครับ มันหยดติ๋งสมราคาคุยพรรคฝ่ายค้านมั้ย?
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด จำนวน 6 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 6 ราย โดยมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญในศาลปกครองสูงสุด ทั้งในแผนกคดีวินัยการคลัง การงบประมาณ และคดีสิ่งแวดล้อม
ผับมรณะ | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
ผับมรณะ จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2568
'นันทเดช-ไพบูลย์' ทะลวงศึกอภิปราย ปิดฉากดีลลับทักษิณ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
'นันทเดช-ไพบูลย์' ทะลวงศึกอภิปราย ปิดฉากดีลลับทักษิณ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568