เจ้าพ่อทรัมป์ (Trump the Godfather)

ในเวลาเดือนเศษนับจากรับตำแหน่ง ทั่วโลกรับรู้พฤติกรรมของประธานาธิบดีทรัมป์ที่บ่งชี้ความไม่เป็นประชาธิปไตย สื่อ The Economist ฉบับ 27 กุมภาพันธ์ นำเสนอบทความ “Donald Trump has begun a mafia-like struggle for global power” พฤติกรรมของทรัมป์ 2.0 ไม่ต่างจากเจ้าพ่อมาเฟีย

คำว่าเจ้าพ่อบ่งบอกว่าชอบข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ไม่เคารพกฎหมาย สามารถทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตน บทความนี้รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ทรัมป์เป็น “เจ้าพ่อมาเฟีย" (a mafia don) เป็นพวกอำนาจนิยม ดังนี้

ภาพ: เจ้าพ่อทรัมป์ (Trump the Godfather)

เครดิตภาพ: ภาพจากปัญญาประดิษฐ์

ชอบข่มขู่:

ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง ทรัมป์ขู่รุกรานต่างชาติ หวังได้คลองปานามากับกรีนแลนด์ของเดนมาร์กมาครอบครอง ให้ประเทศแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ เมื่อรับตำแหน่งกล่าวย้ำจุดยืนนี้หลายรอบ

ทรัมป์ 2.0 ยืนยันกรีนแลนด์จำต้องเป็นของสหรัฐ ด้านรัฐบาลกรีนแลนด์ชี้แจงว่ากรีนแลนด์เป็นของคนกรีนแลนด์และจะไม่ขายให้ใครตลอดไป นี่คือเสรีภาพของกรีนแลนด์

วิเคราะห์: เป็นหลักคิดที่ว่าอะไรที่รัฐบาลสหรัฐต้องการก็จะต้องเอาให้ได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายต้องสูญเสียอะไรมากน้อยแค่ไหน แม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพที่มีอยู่เดิม ผู้พยายามอ้างว่าเป็นผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยโลกกำลังจะทำเช่นนั้น

ทรัมป์ 2.0 ประกาศว่าจะนำคลองปานามา (Panama Canal) กลับมาเป็นของสหรัฐเพราะปานามาไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ เรืออเมริกาต้องจ่ายค่าบริการมากเกินควร ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม อีกทั้งจีนกำลังบริหารจัดการคลองปานานา เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ เมื่อเราให้คลองนี้แก่ปานามา ตอนนี้เราจะเอาคืนกลับมาควบคุม

โจแซ ราอูล มูลิโน (José Raúl Mulino) ประธานาธิบดีปานามา โต้กว่า ทรัมป์กำลังคุกคามอธิปไตยประเทศปานามา คลองนี้เป็นของชาวปานามา ชี้แจงว่าบริษัทจีนทำกิจการขนส่งสินค้าขึ้นลงเรือ ไม่เข้าควบคุมการเดินเรือในคลองตามที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวหา ไม่กระทบความมั่นคงสหรัฐตามที่กล่าวอ้าง ประธานาธิบดีปานามากล่าวว่า “แถลงการณ์รัฐบาลสหรัฐพูดเรื่องเท็จ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”

แต่เดิมสหรัฐได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลจากการควบคุมคลองปานามา ในขณะที่ชาวปานามายากจนไม่ค่อยได้ประโยชน์จากคลองนี้ ชาวปานามาจึงเรียกร้องขอคืนอธิปไตยเหนือดินแดนของตน ชาวปานามารบกับกองกำลังสหรัฐ นำสู่การเจรจาและลงนามในสนธิสัญญาตอร์ริโฮส-คาร์เตอร์ (Torrijos-Carter Treaties) ในปี 1977 ซึ่งสหรัฐอเมริกาตกลงที่จะคืนคลองปานามาให้กับปานามาในปี 1999 เป็นสัญลักษณ์ของการยุติยุคอาณานิคม

อีกตัวอย่างคือ ทรัมป์ชูธงห้ามนานาชาติลดใช้ดอลลาร์ ข่มขู่เล่นงานประเทศที่ลดใช้ BRICS เป็นตัวอย่างที่สมาชิกกลุ่มพยายามค้าขายกันด้วยสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์ ลดการถือครองดอลลาร์

หลายประเทศถือดอลลาร์ในรูปพันธบัตรสหรัฐ ช่วยให้สหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายในยามที่ขาดดุลเรื่อยมา ถ้านานาชาติต้องการดอลลาร์มากขึ้นจะซื้อพันธบัตรมากขึ้น สหรัฐสามารถกู้ด้วยดอกเบี้ยต่ำและปล่อยกู้จำนวนมาก ในทางกลับกันสหรัฐจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณถ้านานาชาติลดใช้ดอลลาร์ มีผู้ประเมินว่ารัฐบาลทรัมป์ 2.0 จะก่อหนี้อีก 15 ล้านล้านดอลลาร์ ดันให้สกุลดอลลาร์อ่อนค่าลง พันธบัตรสหรัฐไม่น่าถือ

ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าหลายประเทศจึงโดนโต้กลับ ทรัม์ข่มขู่จะสวนกลับหากใครตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

วิเคราะห์: ตามแนวคิดของทรัมป์ สหรัฐขึ้นภาษีได้ฝ่ายเดียว ชาติอื่นห้ามตอบโต้ อ้างว่านี่คือการค้าที่ยุติธรรมแม้ขัดต่อหลักการค้าเสรี

ชอบใช้ความรุนแรง:

เมื่อทางการกรีนแลนด์ปฏิเสธ รัฐบาลทรัมป์ข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้าเดนมาร์กอย่างหนักหากไม่ยอมขายกรีนแลนด์ให้สหรัฐ และอาจใช้มาตรการทางทหารถ้าจำเป็น

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด คายา คาลาส (Kaja Kallas) ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง กล่าวว่าทรัมป์ควรเคารพอธิปไตยกรีนแลนด์ กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก

ทำนองเดียวกับคลองปานามา ทรัมป์กล่าวซ้ำหลายครั้งต้องการยึดครองคลองปานามาด้วยกำลังถ้าจำเป็น

วิเคราะห์: วิธีการของทรัมป์ชวนให้นึกถึงลัทธิล่าอาณานิคม ขยายอาณานิคมในศตวรรษที่ 21 ถ้าไม่ให้โดยดีก็จะใช้กำลัง ทรัมป์ไม่เว้นแม้เดนมาร์ก แคนาดาที่เป็นสมาชิกนาโต การร่วมนาโตน่าจะช่วยให้มั่นคงแต่ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ยึดแนวทางจักรวรรดินิยมไม่สนใจว่าเป็นพันธมิตรหรือไม่ สั่นสะเทือนทั้งโลกว่าใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป

ไม่เคารพกฎหมาย:

แปลกแต่จริงที่ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยประกาศอย่างชัดเจนจะยึดครองประเทศอื่นตามต้องการ ไม่สนใจว่าแคนาดาต้องสิ้นชาติ เรื่องนี้ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ ทำลายสิทธิเสรีภาพ แต่ทรัมป์ 2.0 อ้างว่าทำได้เพื่อความมั่นคงรุ่งเรืองของสหรัฐ

WTO ตั้งอยู่บนหลักการค้าเสรี หากรัฐบาลสหรัฐคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ควรส่งเรื่องสู่ WTO ไม่ใช่ใช้ศาลเตี้ยลงโทษผู้อื่นตามใจชอบ พฤติกรรมตั้งกำแพงภาษีจึงบ่อนทำลาย WTO ทำลายหลักการค้าเสรีที่ในอดีตชาติตะวันตกพร่ำสอนให้นานาชาติยึดถือ (และเป็นที่มาของ WTO) บัดนี้ระบบการค้าเสรีนับวันจะยิ่งเสื่อมถอย ประโยชน์มหาศาลจากการค้าเสรีถูกบั่นทอนเพราะบางประเทศมองแต่ผลประโยชน์ส่วนตนอันคับแคบ และที่สุดแล้วคนอเมริกันนั่นแหละที่ต้องรับผลเสียจากพฤติกรรมของรัฐบาลตัวเอง

จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศจะตอบโต้แน่นอน การที่แคนาดารับไม่ได้เพราะแบงก์ชาติแคดานาประเมินว่าภาษีทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อพุ่ง สินค้าในประเทศแพงขึ้นมาก คนแคนาดายากลำบาก

ในปัจจุบันที่ทั่วโลกยึดถือการค้าเสรี เป็นสมาชิกองค์การค้าโลกก็เพื่อหวังภาษีในระดับต่ำสุดหรือไม่มีเลย เป็นเหตุให้โลกเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดีกว่าเดิม สหรัฐคือหนึ่งสมาชิกองค์การค้าโลกแต่ละเมิดกฎเกณฑ์ขึ้นภาษีตามใจชอบ นำสู่การตอบโต้ ทั้งจากแคนาดา เม็กซิโก จีน และอีกหลายประเทศ

ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตน:

มีนาคม 2025 บริษัท CK Hutchison Holding ประกาศขายหุ้นท่าเรือของตนในปานามาแก่บริษัท BlackRock ทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันเข้าควบคุมบริหารท่าเรือนี้ ปัจจุบันกลุ่ม BlackRock บริหารท่าเรือ 43 แห่งใน 23 ประเทศ

ในเบื้องต้นผู้รับประโยชน์อย่างชัดเจนคือบริษัทเอกชนอเมริกันนั่นเอง

Brian Bethune จาก Boston College ตั้งคำถามว่าทรัมป์ 2.0 ชูนโยบายลดภาษีคนรวยแต่เพิ่มรายจ่ายของคนจน สินค้าจำหลายรายการที่แพงอยู่แล้วต้องแพงหนักกว่าเดิมจากกำแพงภาษี เช่นนี้เรียกว่าทำเพื่อคนเมริกันหรือไม่

ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครชนะในสงครามการค้า ประชาชนนั่นแหละที่ต้องรับผลโดยตรง โดยเฉพาะคนยากจน คนรากหญ้าที่โดนผลกระทบก่อนและโดนหนักสุด นี่คือคำตอบที่ทุกคนรู้ดีแต่รัฐบาลสหรัฐยังฝืนเดินหน้านโยบายนี้ต่อไป

และต้องเข้าใจว่า ทรัมป์ไม่ได้ทำงานคนเดียว ไม่ใช่แค่คณะรัฐมนตรี ต้องรวมสมาชิกรัฐสภารีพับลิกัน (ไม่ทุกคนแต่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางทรัมป์) รวมทั้งคนอเมริกันหลายล้านคนที่สนับสนุนอย่างแข็งขัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สิ่งแอบแฝงที่มากับภาษีทรัมป์2.0 (1)

ลัทธิล่าอาณานิคมยุคใหม่ (neocolonialism) ชาติมหาอำนาจจะต่อต้านโลกหลายขั้ว ต่อต้านการแข่งขันเสรี และจะบีบให้ประเทศอื่นๆ ยอมรับข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์แก่ตน

แผน100วันล้มระบอบอิหร่าน2025

มาจากแผนระยะยาวที่ตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้ รัฐบาลทรัมป์มาแล้วก็ไปแต่ความตั้งใจล้มอิหร่านจะอยู่ต่อไป