
โลกช่วงนี้...น่าจะตกอยู่ในสภาพสุดจะ ทรหวลปั่นป่วนคลั่ง ยิ่งเข้าไปทุกที อันเนื่องมาจากผู้นำอเมริกาอย่าง ทรัมป์บ้า ท่านได้กระทำการ ป่วนโลก ด้วยสงครามการค้า หรือมาตรการภาษี ไม่เว้นแม้แต่ประเทศเล็ก ประเทศน้อย กระทั่งประเทศที่ได้ชื่อว่าด้อยพัฒนา หรือพัฒนาน้อยที่สุดตามการจัดอันดับสหประชาชาติ ยิ่งโดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจคู่แข่งที่ใกล้ผงาดขึ้นมาทัดเทียมตัวเอง อย่างคุณพี่จีน เป็นต้น ก็ยิ่งต้องถูกออกอาวุธใส่แบบชนิด ดอก-ต่อ-ดอก...
และไม่ใช่แค่เฉพาะ สงครามการค้า เท่านั้น...แต่ยังอาจจะตามมาด้วย สงครามการเงิน สงครามเทคโนโลยี สงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ ประเภทคิดยึดคลองปานามา คิดจะฮุบเกาะกรีนแลนด์ ฯลฯ อะไรทำนองนั้น อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้บรรดาพวก กูรู-กูรู้ ทั้งหลาย เขาเลยต้องออกมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ วาดภาพจินตนาการถึงแนวโน้มของฉากสถานการณ์ที่กำลังจะเป็นไป เอาไว้เป็นฉากๆ และอย่างน้อย...ก็น่าจะมีอยู่ถึง 3 ราย อย่างเช่นนักเศรษฐศาสตร์แห่ง Wharton School มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย นาย Jeremy Siegel ที่เคยเป็นวิทยากรรายการโทรทัศน์ในอเมริกาหลายต่อหลายช่อง นาย Alasdair Macleod นักเศรษฐศาสตร์อิสระ ไปจนถึงนาย Ray Dalio ผู้ก่อตั้งกองทุนการเงินระดับโลก Bridgewater Associates ฯลฯ ที่ต่างเห็นพ้องไปในแนวเดียวกันว่า ฉากสถานการณ์นับต่อนี้ไป น่าจะออกไปทางคล้ายๆ หรืออาจจะหนักเสียยิ่งว่าฉากสถานการณ์โลกเมื่อช่วงปี ค.ศ.1930 หรือช่วงที่ถูกเรียกขานกันในนาม The Great Depression นั่นเอง...
จริง-ไม่จริง น่าเชื่อ-ไม่น่าเชื่อ...อันนี้คงต้องว่าไปตามรสนิยมของใคร-ของมันเอาเองก็แล้วกัน แต่ถ้าหากลองมันหนักเข้าไปถึงขั้นนั้นขึ้นมาจริงๆ แล้ว แม้แต่ประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่ยึดถือคติ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี มาโดยตลอด ก็ใช่ว่าจะรอดปากเหยี่ยว-ปากกาเอาง่ายๆ เพราะจากบทเรียนในอดีตเมื่อกว่า 90 ปีที่แล้ว ก็ยังคงเป็นข้อพิสูจน์และประจักษ์พยานมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ นั่นก็คือหลังจากปี ค.ศ.1930 ได้เพียง 2 ปีเท่านั้นเอง ด้วยผลพวง ผลกระทบ จากฉากสถานการณ์โลกในระยะเวลาดังกล่าว ได้กลายสภาพเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย อันนำมาสู่ การเปลี่ยนแปลง ระดับ พลิกฟ้า-คว่ำดิน หรือนำมาสู่การปฏิวัติ-รัฐประหารเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบใหม่หมดทั้งด้าม จากการปกครองในระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ กลายมาเป็นระบอบ ประชาธิปไตย แบบวนไป-วนมาอยู่ภายในอ่างของบรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย...นั่นแล!!!
ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากอะไรต่อมิอะไรมันเกิด ไปไกล ถึงขั้นนั้น ดังที่บรรดาพวก กูรู-กูรู้ ทั้งหลายเขาได้วาดภาพ วาดจินตนาการเอาไว้ล่วงหน้า อันนี้...ต้องเรียกว่า คงต้องหาเสื้อกันหนาวว์ว์วมาใส่ซัก 2 ชั้น 3 ชั้น ปิดแอร์ หรี่แอร์ หรืออาจต้องใส่เสื้อฝนทับไว้อีกซักชั้นอีกด้วยต่างหาก ยิ่งถ้าหากบรรดาผู้มีอำนาจ มีบทบาท ในบ้านเมืองออกไปทางประเภท มือใหม่-หัดขับ หรือ มือเก่าแต่เขี้ยวงอก หรือ เขี้ยวลากดิน ด้วยแล้ว ยิ่งแทบนึกไม่ออก...ว่าการรับมือกับผลพวง หรือผลกระทบ จากฉากสถานการณ์ในลักษณะที่ว่านี้ จะนำไปสู่ นรก ขุมไหนต่อขุมไหน???
ตามประสาคนแก่ คนชรา ที่ไม่เหลือฤทธิ์ เหลือเดช และไม่พร้อมที่จะให้ใครต่อใคร หามลุง...ไปตีกะมันที อีกแล้ว เลยได้แต่หนักใจ อดห่วงใย กังวล ต่อสิ่งที่กำลังกลายเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย อันจะนำไปสู่ การเปลี่ยนแปลง ในอนาคตเบื้องหน้าขึ้นมามิได้ ครั้นจะหันไปอธิษฐาน ภาวนา ต่อ พระสยามเทวาธิราช ก็ออกจะรู้สึกว่า...ค่อนข้างจะรบกวนท่านมากมายเกินไปแล้ว ท่านเหนื่อยมามากแล้ว ต่อการช่วยเหลือ เยียวยา ให้ประเทศนี้รอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกามาแล้วหลายครั้งหลายหน...
ดังนั้น...คงเหลือแต่บรรดาผู้ที่ยังมีฤทธิ์ มีเดช ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะจัดอยู่ในประเภท คนรุ่นใหม่ หรือ คนรุ่นเก่า ทั้งหลาย ไม่ว่าอนุรักษนิยม เสรีนิยม หรือวิเศษนิยม ฯลฯ ก็ตามที ที่จะต้องหาทางตอบโจทย์ แก้โจทย์ กันเอาเอง ส่วนจะแก้ จะหาทางออก-ทางไป กันในแบบไหน? รูปไหน? ก็อย่าลืมไปเสียล่ะว่า ไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศไทยของหมู่เฮาเท่านั้น แต่ทุกๆ สรรพสิ่งในโลกนั่นแหละ ต่างก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์หรือกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันว่าด้วย... ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป อย่างมิอาจผันแปรไปเป็นอื่นได้เลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบกกันเข้าไป...แบกให้รอดนะ
บรรดาข้าทาสบริวารขออง สทร.ที่ทำหน้าที่เป็นนายแบก นางแบกทั้งหลาย ต่างพากันออกมายืนยันว่า สทร.ป่วย แล้วก็ต่อว่าต่อขานผู้คนที่เขาเห็นด้วยกับการแถลงของแพทยสภาว่า
ว่าด้วยคำชี้แนะของ‘อดีตนายกฯอานันท์’
ฟังจากที่ลูกสาวคุณพี่ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ไปคุยกับท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน แล้วได้นำเอาคำชี้แนะ ชี้นำ ของท่านอดีตนายกฯ ต่อบรรดา คนรุ่นใหม่ ทั้งหลาย
S26T ดำไปโผล่เขมร?
แม้จะเหลืออีกถึงกว่า 3 เดือน ตามกฎ ตามระเบียบการแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี ที่กำหนดให้การแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือเทียบเท่า
คาดผลตรีเทพย้ายราศีต่อคนลัคนาสถิตมีน
เดือนพฤษภาคมปี 2568 นี้ ดาวสำคัญทางโหรที่เรียกกันว่า ตรีเทพ อันได้แก่ พระราหูจร (8) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความมืด-อวิชชา หรือตัวแสบ-พระพฤหัสบดีจร (5) เจ้าแห่งปัญญาพิสุทธิ์ หรือหัวหน้า
เหตุปัจจัย...คนสงสัยว่าป่วยทิพย์
ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากไม่เชื่อว่าคุณพ่อป่วยจริง แต่น่าจะป่วยทิพย์มากกว่า การอ้างว่าการอยู่ที่ห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจถือว่าเป็นการติดคุก 180 วัน ครบที่จะได้รับการพักโทษนอกเรือนจำ ประชาชนส่วนมากก็ไม่เห็นด้วย และคิดว่าคุณพ่อยังไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว
เครือข่ายป้องกันตนเอง!!!
ไม่ว่า บ้านเรา ...หรือ โลก ดูๆ มันชักจะยุ่งๆ ยิ่งกว่าหนวดแขกพันกับฝอยขัดหม้อยิ่งเข้าไปทุกที แถมอาจไม่ใช่ยุ่งแต่เฉพาะเรื่องกฎ กติกา ระบบ ระเบียบ