
ยังจะเอาให้ได้..
ก็..นายทักษิณ ชินวัตร-สทร.นั่นแหละ ได้ยินพูดหน้าเวทีหาเสียงว่า.. “เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่หลายคนไม่เข้าใจหาว่าเป็นกาสิโน
เพราะคนที่ต่อต้านไม่ใช้คำว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่แปลว่าสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งคำว่ากาสิโนไม่ใช่หัวใจหลัก
เพราะมีกาสิโนอยู่แค่ 10% เท่านั้น แต่ 90% กว่าเป็นที่บันเทิง เช่น เราไม่มีฮอลล์คอนเสิร์ตที่ดีๆ ดาราดังๆ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เลยไม่มา
หรือกีฬาดีๆ อย่างฟุตบอลระดับโลกที่จะแข่งกันอย่างจริงจังก็มาไม่ได้ เพราะสนามกีฬาเราไม่ค่อยดี
หากลงทุนระดับโลก ซึ่งรัฐลงทุนไม่ไหวจึงต้องให้เอกชนมาลงทุน โดยที่เขาต้องมีแรงจูงใจ”
ฮั่นแน่..ยอมรับเอง “เขาต้องมีแรงจูงใจ” แล้วอะไรล่ะที่เป็นแรงจูงใจให้เอกชนมาลงทุนทำสถานบันเทิงครบวงจร ถ้าไม่ใช่ “บ่อนกาสิโน” หือ..สทร.?
แค่ 10%..ถ้าเป็นบริเวณบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ตั้งได้แค่วงไฮโลเท่านั้น ซึ่งผมก็พอมองออกว่าสัดส่วนมันน้อยนิด
แต่ 10% ที่มันแซมอยู่ใน “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่นายทักษิณคุยว่าลงทุนสร้างนับแสนล้าน-สองแสนล้านนั้น มันใหญ่โตมโหฬาร เดินทอดน่องกันทั้งวันยังไม่ทั่ว..
จึงแทบพูดได้ว่า เอา “บ่อนเถื่อน” ที่เกลื่อนกราดอยู่ในกรุงเทพฯ ไปรวมกันอยู่ในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจรตรงนั้น ก็ยังมีพื้นที่ทำสนามวัวชนได้อีกสนาม (วะเฮ้ย)!
และที่นายทักษิณแกว่งปาก.. “เป็นห่วงนิดเดียวพวกที่เป็นขาประจำ ผมพูดอะไรก็ออกมาด่าแล้ว ผมเป็นคนที่เฒ่าแล้ว มันปล่อยวางได้เขาด่ามา ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
จิตไม่ปรุงแต่ง สบาย คนพวกนี้ด่าผมแล้วมันสนุก พอกลับไปบ้านทำไมจึงเครียด เขาก็เครียดไปทุกวัน ซึ่งผมก็เป็นห่วงว่าจะติดเตียง ผมเป็นห่วงจริงๆ
หากใครที่เป็นญาติเขาก็ขอให้โทรไปบอกว่าใจเย็นๆ ผมไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้ว ผมเป็นคนแก่แล้ว ฉะนั้น ให้มันเบาๆ เดี๋ยวจะติดเตียง ขี้เกียจจะไปเยี่ยม
ผมไม่ได้แช่งแต่เป็นสัจธรรม เพราะบางคนคิดเหมือนผมไม่ได้ เขาอยากให้ผมตายต่อหน้า จะเป็นไปได้หรือที่จะมีเวทมนตร์
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวทมนตร์ให้ตายต่อหน้า คนแช่งไปแช่งมา ก็ให้เขาตายคนเดียว”
ขอโทษ..อย่ากะล่อน ปลิ้นปล้อน ลองสำรวจตัวเองให้ถี่ถ้วนสิ ในชีวิตที่มีลมหายใจอยู่นี้ นายทักษิณ “ปล่อยวาง” อะไรได้บ้าง?
เอะอะ..ก็เห็นยัง “ตัวกู-ของกู” อยู่เยี่ยงนั้น และที่ตัวเองหาความสุขที่แท้จริงไม่ได้ขนาดรวยแสนรวย นั่นไม่เพราะไม่ยอมปล่อยวาง ทะเยอทะยานอยากที่ไม่มีสิ้นสุดดอกรึ?
นายทักษิณไม่ได้รู้สึกเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัดอะไรเลย แล้วทำมาเป็นกระแดะ-ตอแหลประกาศบอก.. “ผมเฒ่าแล้ว ปล่อยวางแล้ว”!
การปล่อยวาง มันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ-ความเฒ่าชะแรแก่ชราหรอก และผู้ที่ปล่อยวางได้จริงนั้น อย่าว่าแต่นายทักษิณที่มียังมีกิเลสแน่นหนา..
ขนาดผู้ทรงศีล นักปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิอีกเป็นพัน-เป็นหมื่นก็ยัง “ปล่อยวาง” ตามหลักที่ “ท่านพุทธทาส” เทศนา..
“การปล่อยวางที่แท้จริงนั้น ไม่ได้เป็นผลของการบังคับด้วยอำนาจของสมาธิ ต้องเป็นผลของการรู้แจ้งด้วยอำนาจของปัญญา” ไม่ได้เลย!
ฉะนั้น..ที่บอก “ไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้ว” น่ะ นั่นแค่กะล่อน-ตอแหล เพราะตอนนี้ชีวิตยิ่งกว่าไฟสุมอก ก็อยากให้นายทักษิณห่วงตัวเองเช่นกัน
เพราะการเป็น “ผู้ป่วยติดเตียง” โอกาสมีกับทุกคนไม่ว่าจะยาจกหรือเศรษฐี และไม่ต้องแช่งใคร..
กรรมใคร-กรรมมัน!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“นาฏราช”มาแล้วจ้า
ด้วยนโยบาย.. “ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยและขยายตลาดภาพยนตร์ไทยสู่ระดับนานาชาติ และผลักดันซอฟต์พาวเวอร์และเสน่ห์ความเป็นไทย
บุษบกเดียวในโลก
#ตั้งแต่ผมผ่าตัดหัวใจมา.. ผมผ่านความตายมา ผมโฟกัสแต่ความสุขครับ #ทุกคนที่เห็น จะถามเสมอไม่ทุกข์ไรบ้างเหรอ
สมเป็น‘มืออาชีพ’!
นวนิยายแนวนาฏกรรมเชิงกามวิสัย.. เห็นจะมีอยู่ไม่น้อยในบรรณพิภพ แต่ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็มีเรื่อง “จันดารา” บทประพันธ์ของอุษณา เพลิงธรรม หรือ “ประมูล อุณหธูป” หนึ่งล่ะ!
สังคมแห่งความชิงชัง?
สังคมน่ะไม่ได้ป่วย! แต่.. “นายวันชัย สอนศิริ” อดีต สว.นั่นแหละที่กำลังป่วยเสียเอง ส่วนจะป่วยกายหรือป่วยอารมณ์ ท่านผู้อ่านก็ลองพิจารณาเอาจากที่แกโพสต์เมื่อวานซืนดูเอา..
ดูช่อง7..ตรวจการบ้านชัชชาติ
ท่ามกลางเสียงซุบซิบ.. ทีวีช่องใหญ่แถวๆ เกษตร-นวมินทร์ถูกเซ้ง-ไปอยู่ในมือนายทุนกลุ่มใหม่แล้ว และแว่วๆ อาจจะมีการ “เลิกจ้าง” พนักงานแบบล้างสต๊อกกันเลยว่างั้น!
ถนอมไว้เชิดหน้าชูตา?
“ยัยดาราอาบน้ำโชว์ยังไม่อุจาดเท่า ลิซ่าเต้นท่าหมาร่วมรัก” “ดาราที่เรารัก ถ้าทำไม่เหมาะในที่สาธารณะ ต้องเตือนได้ อย่ายึดตัวบุคคล ต้องยืนยันในหลักการครับ ขอให้ทุกท่านมีสุขสวัสดิ์”