
สังคมน่ะไม่ได้ป่วย!
แต่.. “นายวันชัย สอนศิริ” อดีต สว.นั่นแหละที่กำลังป่วยเสียเอง ส่วนจะป่วยกายหรือป่วยอารมณ์ ท่านผู้อ่านก็ลองพิจารณาเอาจากที่แกโพสต์เมื่อวานซืนดูเอา..
“สังคมแห่งความชิงชังทำให้คนในสังคมป่วย สังคมที่ไร้ความเมตตาก็เป็นสังคมที่วิกฤต เรื่องของคุณทักษิณชั้น 14 ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมั่วซั่ว จับแพะชนแกะ
จากกรณีที่แพทยสภาลงโทษแพทย์เรื่องผิดจริยธรรม แล้วเอามาโยงกับเรื่องการป่วยของคุณทักษิณและอำนาจราชทัณฑ์ ทั้่งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย มันเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น
พอแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์เท่านั้น ก็เอามาตีโพยตีพายกันใหญ่ว่า คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง จะต้องกลับไปติดคุก จะต้องหนี จะต้องยุบสภา สารพัดที่จะกล่าวหากันร้อยแปด
ทั้งที่ข้อกฎหมายเรื่องอำนาจราชทัณฑ์ ไม่มีข้อใดเลยที่กำหนดว่า จะต้องเป็นผู้ป่วยวิกฤตเท่านั้นจึงจะเอาไปรักษาตัวข้างนอกได้
มีแต่กำหนดไว้ว่า กรณีที่จะต้องบำบัดรักษาเฉพาะด้านเฉพาะทางเท่านั้น เขาไม่ต้องการให้มีผู้ต้องขังรายใด ป่วยถึงขั้นวิกฤต หากเริ่มป่วยก็ให้รักษาในเรือนจำ
แต่หากต้องการรักษาเฉพาะทางเฉพาะด้านที่ในเรือนจำรักษาไม่ได้ ก็ให้ไปรักษาที่อื่น ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะต้องป่วยวิกฤตหรือไม่
อย่างกรณีของคุณทักษิณ ไม่ต้องดูหรอกว่าป่วยถึงขั้นวิกฤต ดูแต่เพียงว่าต้องการรักษาตัวเฉพาะด้านเฉพาะทางที่เรือนจำรักษาไม่ได้ก็เพียงพอแล้ว
แพทยสภาก็ว่าเรื่องของแพทย์ไป ราชทัณฑ์เขาก็ว่าเรื่องของราชทัณฑ์ไป ไม่เกี่ยวกัน
ส่วนพวกสังคมแห่งความชิงชัง ก็ใส่สีตีไข่ โยงกันไปโยงกันมา โดยไม่ได้ดูจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เอาอารมณ์และความรู้สึกเป็นที่ตั้ง
สังคมแห่งความชิงชังนี้โคตรจะแปลกประหลาด ทีข้าราชการผู้ใหญ่ที่เกษียณมาแล้วเยอะแยะมากมาย ยังเห็นมีคนมียศมีตำแหน่งรับใช้กันอยู่เต็มบ้านจนแก่จนตายก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
แต่แค่คุณทักษิณ อดีตนายกฯ อายุ 75 ปี ป่วยมารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จะเอากันเป็นกันตายถึงขั้นวิกฤต”
นี่..เป็นอะไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่รู้นายวันชัยต่างหากที่ไม่ได้ดูจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เอาอารมณ์และความรู้สึก มากล่าวหาผู้คนในสังคมว่าเป็น “สังคมแห่งความชิงชัง”!
นายวันชัยรู้แจ้ง-เห็นกับตารึไงว่านายทักษิณอายุ 75 ปีนอนป่วยรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 เคยได้รับเกียรติ-รับเชิญให้ขึ้นไปเยี่ยมบนวิมานแห่งนั้นสักครั้งไหม?
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช นู่นที่ได้รับเกียรติ-รับเชิญให้ไปพบ นายวันชัยไม่เคยดู-เคยอ่านที่อดีต ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์รึไง? งั้นกลืนยาสักเม็ดแล้วตั้งใจอ่านซะ..
“ในครั้งแรกหลังจากนัดหมายกับบุคคลที่ประสานเรื่องการขึ้นไปเยี่ยมก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปจอดรถที่ชั้นใต้ดินแล้วรอให้บุคคลดังกล่าวมารับ
จากนั้นก็ถูกพาเข้า-ออก ลัดเลาะไปตามลิฟต์ต่างๆ จนถึงชั้น 13 จากนั้นเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปชั้น 14 ซึ่งเวลานั้นตนก็ไม่เห็นใคร
ที่บอกว่ากรมราชทัณฑ์จัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้านั้นตนไม่เห็นสักคนหนึ่ง หรือที่บอกว่าป่วยตนก็ไม่เห็นแพทย์ บรรยากาศบนชั้น 14 จะมี 2 ฟาก ตนก็ถูกเชิญให้ไปนั่งในฟากที่เป็นพื้นที่รับแขก
สักพักนายทักษิณก็เดินมาหาจากอีกฟากหนึ่ง โดยวันที่พบกันนั้นนายทักษิณสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ
ส่วนการพูดคุยกันซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนั้นก็เป็นเรื่องบ้านเมืองและเรื่องการเมือง แต่ก็ไม่เห็นว่านายทักษิณดูมีอาการเจ็บป่วย..”
คำถาม..ถ้าสังคมใส่สีตีไข่ แล้วนายวันชัยล่ะ..
กำลังเลียไข่อยู่ใช่ป่ะ?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาล “ห่าก้อม”?
สู้กันต่อไป! เปล่า..ผมไม่ได้ยุให้สู้กับเขมรเจ้าเล่ห์นั่นหรอก หากแต่เป็นประโยคจั่วหัวข้อความที่คุณถาวร เสนเนียม ได้โพสต์ ก่อนจะบรรยาย..
“ดารา”ฝ่าวิกฤต?
ซีกโลกนู้น..เขายิงขีปนาวุธเข้าใส่กัน! นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จึงเป็นห่วง-เป็นใย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก.. “รัฐบาลไทยห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่รุนแรงขึ้น
‘กูนี่แหละอัจฉริยะ’
เอ้า..เฮ้ย.. ใครจะไป-จะมา หรือจะออก-จะเข้าในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำไมต้องเอ่ยอ้าง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่ง “องคมนตรี” มาเกี่ยวข้องด้วยเล่า?
วงใหม่..'เสก โลโซ'
ดูกันรึยัง? ก็..ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ที่ “เน็ตฟลิกซ์” นำเสนออยู่ในเวลานี้ไง เห็นใครต่อใครพากันพูดถึงอื้ออึง ชื่นชม..ดีอย่างนั้น-ดีอย่างนี้
เอาที่ท่านสบายใจ!
“ผมขอลาออก วันนี้ผมไม่อยากเป็นศิลปินแห่งชาติ เพราะว่าพูดอะไรได้ยาก แล้วก็ด่ากระทรวงไม่ได้ ผมไม่อยากให้กระทรวงมีบาดแผล เลยขอลาออก
อาจารย์..ใครก็เป็นได้?
ตอนทับไม่ร้อง แต่พอท้องจะให้รับ! ก็..เห็นต้องพูดอย่างนี้แหละ เพราะเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมดทั้งมวล เริ่มต้นก็จากฝ่ายโน้นลงมือก่อนทั้งนั้น