'ความเสื่อม'...ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า

จะถือเป็นเรื่องแปลกแต่จริง หรือไม่แปลกแต่จริง...ก็แล้วแต่จะคิด

แต่โดย ความรู้สึก ของอันตัวข้าพเจ้าเอง อดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกขึ้นมาว่า การที่โทรทัศน์-ทีวี ยุคนี้ มีช่อง มีแชนเนล เพิ่มขึ้นมาไม่รู้จะซักกี่ช่องต่อกี่ช่อง

ยิ่งถ้าหากบวกกับช่องของ เคเบิลทีวี นับไม่รู้กี่สิบต่อกี่สิบช่องด้วยแล้ว แต่ก็แปลก!!!...ที่แทบหาอะไรดู หาอะไรที่มันตรงตาม รสนิยม ของตัวเอง แทบหาไม่ได้เอาเลย พอๆ กับหาหนวดเต่า-เขากระต่าย อะไรทำนองนั้น

คือมันเหมือนๆ กัน คล้ายๆ กัน จนก่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับถูกยัด ถูกกระแทกอาหารใส่ปาก มุ่งแต่กระทุ้ง แต่กะซวก ให้หลุดลงไปในท้อง ลงไปในหลอดอาหาร ให้จงได้ แทบไม่มีโอกาสได้รับรส ได้สัมผัสถึงความเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ในระหว่างการบริโภคเอาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นรายการเดินทาง-ท่องเที่ยว รายการชวนเชิญ-ชวนชิม ให้ไปกินอาหาร ทำอาหารในลักษณะต่างๆ ที่มีอยู่เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของทีวีแต่ละช่องเห็นจะได้ รายการข่าวสารบ้านเมืองที่เหมือนๆ กัน ไม่มีอะไรฉีกแปลกแหวกแนว ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันและกัน ทั้งๆ ที่โลกมันกว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น และสังคมแต่ละสังคมมีแต่จะยิ่งสลับซับซ้อนยิ่งเข้าไปทุกที แต่บรรดาความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์บ้านเมือง กลับกระจุกตัวอยู่แค่ใน คลิปวิดีโอ ที่รายการข่าวแต่ละช่อง ต้องไปลอก ไปดูด ไปดึง มาจากโลกโซเชียล มีเดีย ซะยังงั้น!!!

ส่วนรายการบันเทิง เริงรมย์ ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง...บรรดาหนังดี หนังดัง หนังเด่น ที่เคยก่อให้เกิดอิทธิพลต่อความคิด-ความรู้สึกของผู้คนแต่ละยุค แต่ละสมัย เมื่อครั้งอดีต เหตุใดมันจึง หายเกลี้ยง ไปจากจอทีวีก็มิอาจทราบได้??? อาจเป็นเพราะ รสนิยม ของคนยุคใหม่ สมัยใหม่ อาจผิดแผก แตกต่าง ไปจากคนยุคก่อนแบบชนิด หน้ามือเป็นหลังตีน ก็อาจเป็นได้ สิ่งที่ถูกนำฉายวนไป-วนมา ในแต่ละช่องทีวี จึงหนักไปทาง ดูมัยดั๊ยย์ย์ย์ ซะเป็นหลัก แม้แต่รายการ กีฬา ที่เคยเป็นที่พึ่งแหล่งสุดท้าย อันเนื่องมาจากไม่ต้องเสียเวลา ดัดจริต อะไรมากมาย แต่หลังๆ นี้...ก็ชักเป็นอะไรที่งั้นๆ!!! เพราะมัน แข่ง กันเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าแบดมินตัน เทนนิส ที่ตีแล้ว-ตีเล่า ตีกันแบบไม่ไล่-ไม่เลิก ไม่ต่างไปจากฟุตบอลที่โยกย้าย ถ่ายเท นักเตะและโค้ช จนแทบไม่รู้สโมสรไหน-เป็นสโมสรไหน...ฯลฯ

แม้แต่สารคดี...ที่เคยช่วยให้เกิดความรู้และความคิดใหม่ๆ ไม่ว่าเรื่องอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต เรื่องคน เรื่องสัตว์ เรื่องกิจกรรม กิจการต่างๆ นานา แต่มาช่วงหลังๆ นี้ คงเป็นเพราะ ตลาด มันเปลี่ยนไปนั่นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเลยออกไปทางสัพเพเหระ จิปาถะ ไม่ต่างไปจาก ขยะ ที่หาแก่น หาสาระใดๆ แทบไม่ได้ เอาแต่แปลกๆ-ใหม่ๆ เข้าว่า จริง-ไม่จริง เท็จ-ไม่เท็จ โม้-ไม่โม้ โกหก-ไม่โกหก ฯลฯ ก็คงขึ้นอยู่กับ รสนิยม ของ ตลาด ว่าจะหันเหไปทางไหน ไม่ก็เป็นไปเพื่อการ โฆษณา โดยอาศัยรูปแบบของสิ่งที่เรียกว่า สารคดี นั่นเอง เป็นตัวนำเสนอ จนเป็นอะไรที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ ไม่ได้ช่วยให้เกิดความรู้ ความคิดใหม่ๆ แต่อย่างใด...

สุดท้าย...ก็เลยหนีไม่พ้นต้อง อ้วก หรือต้องเลิกดู เลิกชม ทิ้งรีโมตทีวี หันไปเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดอินเทอร์เน็ต กันแทนที่ แต่ก็อีกนั่นแหละ...แม้ว่าคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มันจะมี ช่องทาง นับล้านๆ ช่อง หรือไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยล้านช่อง ให้เลือกหาสิ่งที่ตรงตาม รสนิยม ของใคร-ของมัน ได้โดยอิสระและเสรี แต่ก็แปลกแต่จริง-หรือไม่แปลกแต่จริงอีกจนได้ ที่มันกลับเต็มไปด้วยอะไรที่ ซ้ำๆ ซากๆ เหมือนๆ กัน คล้ายๆ กัน เป็นไปในแบบเดียวกัน คือไหลไปตาม ความเสื่อม ที่แผ่ซ่าน ครอบคลุมไปแทบทุกๆ แวดวง ไม่ว่าในแง่ปัจเจกบุคคล สถาบัน หรือองค์ใดๆ ก็ตามที ปานประดุจว่า กงล้อแห่งกาลเวลา กำลังฉุดกระชากลากถูทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ต้องหมุนลงและจมดิ่งไปกับ กระแส แห่งความหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ตามวัฏจักร วงจร แห่งยุคสมัยอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

อะไรที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ ความเจริญ เติบโต เติบใหญ่ หรือแม้กระทั่งอะไรที่เป็น ความจริง มันดูจะเกิดยาก เกิดเย็นหรือดำรง คงอยู่ อย่างยากลำบากเสียเหลือเกิน แต่อะไรที่หนักไปทางล้างผลาญ ทำลาย พังพินาศฉิบหาย โป้ปด มดเท็จ กลับดูจะเป็นสิ่งที่ตรงตาม รสนิยม ของผู้คนยุคใหม่ สมัยใหม่ หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันนี้นี่แหละ...ที่น่าตกใจ น่าวิตก กังวล เป็นอย่างยิ่ง!!! เพราะมันต่างอะไรไปจากการเฉลยคำตอบล่วงหน้า ถึง อนาคต อีกไม่ใกล้-ไม่ไกล ว่ามันคงหนีไม่พ้นต้อง เสื่อม กันไปถึงจุดที่ต้องพังพินาศ ฉิบหาย ไปทั่วทั้งสังคม หรือกระทั่งทั้งโลกเอาเลยก็ไม่แน่...

ดังนั้น...ไม่ว่าจะดูจาก โลกแห่งความเป็นจริง หรือ โลกเสมือนจริง ที่สะท้อนให้เห็นจาก สื่อ ในแต่ละชนิด ไม่ว่าทีวี อินเทอร์เน็ต (ส่วนหนังสือพิมพ์คงไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เพราะเหลือแต่เอาไว้ห่อขนม นม เนย กันไปตามสภาพ) โดยกระแสทำนองนี้นี่เอง อาจต้องถือเป็น โจทย์ ข้อใหญ่ ของผู้ที่มี รสนิยม ต่างออกไปจากคนยุคใหม่ ยุคปัจจุบันและอนาคต ว่าจะสามารถรับมือกับการไหลไปสู่ ความเสื่อม เหล่านี้ได้มาก-น้อยขนาดไหน แบบไหนและอย่างไร???.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท

สูตรแต่งตั้งตำรวจ

กว่าจะเคาะ กว่าจะคลอด ก็นั่งนับนิ้วกันแทบหงิก เพราะ 180 วัน ตามเงื่อนไขการบังคับใช้กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567

ฤาประเทศไทยจะไร้สีสวย มีแต่สีแสบ

ประเทศไทยอยู่ในสภาพความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว แม้เวลานี้เราจะมีรัฐบาลผสมแบบข้ามขั้ว แต่เราก็ยังไม่เห็นบรรยากาศของความปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

โลกที่'อันตราย'กับภารกิจของ'คนรุ่นใหม่'

เห็นข่าวเรื่อง ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ภาควิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านออกมาโพสต์