ปักหมุดรอใช้มอเตอร์เวย์ลงใต้

ฤกษ์งามยามดี เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 “กรมทางหลวง” ได้มีพิธีลงนามสัญญาและลงนามข้อตกลงคุณธรรมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1-10 ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 18,759 ล้านบาท จำนวน 10 ตอน และเริ่มออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง (กองทุนมอเตอร์เวย์) มาดำเนินการในส่วนของงานโยธาฯ

โครงการดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับโครงการระยะที่ 1 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8 กม. บริเวณ กม.20+295 ที่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ มีความคืบหน้า 57% และสิ้นสุดบริเวณ กม.36+645 ใน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

อีกทั้งยังเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ด้วย โดยมีรูปแบบโครงการเป็นทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับตลอดเส้นทาง

นอกจากนี้แล้ว กรมทางหลวงยังมีแผนดำเนินการโครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 82 ช่วงบ้านแพ้ว-ปากท่อ ระยะทาง 47.4 กม. สิ้นสุดที่แยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี 2570 และจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2573 อีกทั้งในอนาคตจะเชื่อมต่อกับโครงการทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาว บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 รวมงานปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงเดิม

โดยมีจุดเริ่มต้นที่ กม.0+000 บริเวณสามแยกวังมะนาว ช่วงทางแยกต่างระดับที่บรรจบกันระหว่างทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) และถนนพระราม 2 พื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และสิ้นสุดที่ กม.36+718 บนทางหลวงหมายเลข 3510 บริเวณสี่แยกเข้า อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ระยะทางรวม 36.80 กม.

ด้าน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมให้ข้อมูลว่า ในส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) รวมทั้งการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นโดยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ด้วยระบบ M-Flow 100% โดยในขณะนี้ กรมทางหลวงอยู่ระหว่างเตรียมเสนอรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ให้กระทรวงฯ พิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถประมูล PPP ได้ภายในปี 2565 และดำเนินการติดตั้งระบบในปี 2566-ปลายปี 2567 จากนั้นจึงเปิดให้ประชาชนวิ่งฟรีทดสอบระบบและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2568

ดังนั้น กระทรวงคมนาคมกล้าพูดได้เต็มปากว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เสริมศักยภาพระบบการขนส่งทางถนนพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยแบ่งเบาการจราจรบนถนนพระราม 2 โดยเมื่อรวมการขยายเส้นทางถนนพระราม 2 ด้านล่างขนาด 14 ช่องจราจรไป-กลับ ประกอบกับทางยกระดับ 6 ช่องจราจรไป-กลับ จะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางสัญจรได้รวม 20 ช่องจราจรไป-กลับตลอดแนวเส้นทาง รวมระยะทาง 90.8 กม.

ด้าน “สราวุธ ทรงศิวิไล” อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า โครงการมอเตอร์เวย์เส้นดังกล่าว เริ่มสัญญาวันที่ 1 ก.พ.2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 ม.ค.2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 1,080 วัน ส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) วงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอขออนุมัติรูปแบบร่วมลงทุนจากกระทรวงคมนาคมและ ครม. คาดว่าจะเสนอได้ภายใน มี.ค.2565 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในปี 2565 ก่อนจะวางแผนติดตั้งงานระบบในปี 2566-2568 คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568

แน่นอนว่า เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางเชื่อมจากกรุงเทพฯ ไปภาคกลางตอนล่าง เพื่อไปสู่ภาคใต้ จะช่วยเติมเต็มแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระยะ 20 ปี เสริมศักยภาพระบบการขนส่งทางถนนจากในพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อพื้นที่ภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เชื่อมโยงครอบคลุม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ตลอดจนแบ่งเบาการจราจรบนถนนพระราม 2 เรียกได้ว่าปิดมหากาพย์รถติดพระราม 2 ได้แน่นอน.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระตุ้นเศรษฐกิจได้ ต้องแก้ที่โครงสร้าง

เรียกว่า 'ช็อก' ทั้งรัฐบาล สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 ของประเทศไทย ที่ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าจีดีพีของไทยเรา ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัวได้เพียง 1.5% ลดลงเมื่อเทียบกับการขยายตัว 1.7% ในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน

"ขึ้นค่าแรง"เอกชนห่วงธุรกิจป่วน

“การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ” ยังเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เพราะฝั่งรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าตามนโยบาย โดย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ยืนยันชัดเจนว่า ในวันที่ 1 ต.ค.2567

ปั้น‘โปรตีนทางเลือก’เชิงพาณิชย์

ปัจจุบัน อาหารแพลนต์เบสในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้น เทรนด์ของคนที่หันกลับมากินอาหารเพื่อสุขภาพก็มีเพิ่มขึ้น จึงทำให้เป็นการผลักดันภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพื่อสุขภาพ

อุบัติเหตุหรือละเลย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, ชลบุรี ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหา แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น

ลุ้นแจ้งเกิดให้บริการซีเพลน

จากนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ผลักดันการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล หรือ Seaplane Operations เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

แนะSME“ปรับเปลี่ยน”เพื่อ“ไปต่อ”

สถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดย แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขณะนี้ยังน่ากังวล เพราะยังคงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้