
ดูท่า "กรมปทุมวัน" ปีนี้จะ "ดุ" เพียงแค่เปิดปีงบประมาณใหม่ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2569 เพียงไม่กี่วัน ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็สะบัดปากกาเชือด "สีกากี" ถึง 2 ครั้ง 2 คน เริ่มจากคำสั่งเด้ง พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ไปช่วยราชการ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จากกรณีแพทยสภามีมติลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 กรณีการรักษา "ทักษิณ ชินวัตร" ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และให้ พล.ต.ท. นพ.ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ
รักษาราชการแทนนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2569 จากนั้นถัดมาอีก 2 วัน ผบ.ต่ายก็เซ็นคำสั่งลงโทษปลด พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา อดีตรอง ผบ.ตร. ออกจากราชการ แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จากเหตุการณ์บันทึกเสียงโทรศัพท์การพูดคุยเรื่องคดีกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.(ขณะนั้น) และมีการนำคลิปเสียงมาปล่อยสู่สาธารณะ จนสร้างความเสื่อมเสียให้ อดีต ผบ.แป๊ะ
นี่ก็ต้องบันทึกไว้เป็นคำมั่นสัญญา นโยบายการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ ผบ.ต่าย ประกาศต่อหน้าตำรวจผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า จำนวน 44 นาย และระดับผู้บังคับการหรือเทียบเท่า จำนวน 294 นาย รวม 338 นาย ณ ห้องแจ้งยอดสุข ชั้น 3 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา กำหนด “วิสัยทัศน์” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน” พร้อมนโยบายเพิ่มเติมปี 2569 ที่จะต้องเร่งรัด ดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ได้แก่ “ตัวเลข 1 6 9” กล่าวคือ 1 ยึดมั่น 6 เร่งรัด และ 9 ก้าวหน้า (STEP) ซึ่งจะเป็นการสร้างผลงานปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2569 ของ ผบ.ต่าย ให้เป็นที่จดจำ ทั้ง "ลูกน้อง" ตำรวจทั่วประเทศ และ "ชาวบ้าน" ผู้ที่รับการดูแลทางกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะ "เสียบดอกไม้" หรือมอบ "ก้อนอิฐ" ในยาม "ผบ.ต่าย" เกษียณอายุราชการไป ๐
ขยายความ “ตัวเลข 1 6 9” 1 คือ ยึดมั่นในการพิทักษ์ ปกป้อง รักษา เทิดทูนสถาบัน และความสงบเรียบร้อยของคนในชาติ 6 คือ เร่งรัด ได้แก่ 1.ขับเคลื่อน ส่งเสริมโครงการพระราชดำริ 2.ปรับปรุงสวัสดิการตำรวจและครอบครัว 3. พัฒนางานสอบสวน 4.ป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม (ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน) 5.กวดขัน เสริมสร้างวินัยจราจร และ 6.วางแผน เตรียมการด้านสาธารณภัย และ 9 ก้าวหน้า ตามแนวความคิดคำว่า STEP ความหมายคือ “พวกเรา จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง” โดย S = Smart (ฉลาด ทันสมัย สง่างาม) เพื่อไปสู่การเป็น Smart Police T = Transparency (โปร่งใส ตรวจสอบได้) E = Efficiency (ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ) P = People (ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง) แบ่งเป็น 9 หัวข้อ 1.One Police ระบบเทคโนโลยีตำรวจที่เป็นหนึ่งเดียว 2.ปรับรูปแบบการทำงานเป็นสายตรวจอัจฉริยะ 3. ฐานข้อมูล Big Data ในงานสืบสวน 4.พัฒนาแก้ไขปัญหางานสอบสวน 5.วางระบบจราจร 6.พัฒนาระบบรับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจและประชาชน 7.นำเครื่องมือพิเศษมาสนับสนุนงานความมั่นคง พัฒนางานด้านการข่าว 8.มีคุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และ 9.Service Mind ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ๐
หลังประชุมสภากลาโหมครั้งแรกในงบประมาณปี 2568 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาเปิดเผยว่า ได้เสนอกราบบังคมทูลขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นรามาธิบดี ให้แก่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก, พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ, พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2, พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี, พล.ต.อินทนนท์ รัตนกาฬ อดีตผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งได้นำกำลังปฏิบัติการที่ภูมะเขือ โดยย้ำว่าทุกท่านได้นำหน่วยปฏิบัติการรบด้วยความห้าวหาญ ในเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา ซึ่งต้องรอพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ลงมา แต่ที่ไม่ลืมคือทหารแนวหน้าซึ่งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมไปถึงหน่วยที่มีวีรกรรมการรบอย่างกล้าหาญ โดยจะขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญประดับธงชัยเฉลิมพลของบางหน่วย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่
แต่ที่น่าสนใจคือ ทิศทางของกองทัพในอนาคต หลังจากที่เกิดเหตุสมรภูมิ 5 วัน ทำให้กองทัพทราบถึง “ภัยคุกคาม” จากการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพในประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการสนับสนุนจากโครงการช่วยเหลือของมหาอำนาจ แม้จะถูกติดเบรกจากประเทศผู้ให้ ไม่ให้กัมพูชาใช้อาวุธเชิงรุกกับประเทศไทย แต่ที่มากล้าแหย่หนวดเสือทั้งที่ไทยมีกำลังรบทางอากาศลำดับต้นๆ ของภูมิภาคก็น่าจะประเมินแล้วว่าของที่มีอยู่อาจทำให้เราเกรงกลัว ทั้งหมดนั้นจึงนำไปสู่มติสภากลาโหม ที่เป็น “จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ” ของกองทัพในการเสริมสร้างอาวุธเชิงรุก จากเดิมที่เป็นการจัดหาอาวุธในเชิงป้องกัน โครงแรกคือการปรับแผนการซื้อเครื่องบินวีไอพีสำนักนายกฯ มาเป็นการขยายภารกิจครอบคลุมด้านการทหาร โดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศของไทย เพิ่งลงนามสัญญาจัดหาเครื่องบิน Airbus A330 MRTT รุ่นใหม่ 1 เครื่อง จากบริษัทแอร์บัสก่อนเกษียณ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าที่สิงคโปร์ประจำการอยู่ เดิม ทอ.มองว่าเป็นโครงการที่ไกลเกินฝันกับวงเงินหลักหมื่นล้านที่ต้องจ่าย แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องเดินหน้าและขอให้รัฐบาลเห็นถึงความจำเป็น ยังไม่นับโครงการในการจัดหาขีปนาวุธระยะใกล้ แม้ปัจจุบันจะมีจรวดหลายลำกล้อง DTI-1G ระยะยิง 150 กม.ที่ประจำการแล้ว แต่ระยะยิงควรคลอบคลุมไปยังจุด CG ที่สำคัญ ทบ.กำลังเล็งหาอาวุธวิถีไกลเพื่อเสริมแกร่งมากขึ้น เพราะสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ได้บอกให้กองทัพต้องเตรียมตัว จึงเป็นหน้าที่ในการวางแผน และดำเนินการให้สำเร็จ ๐
“ผบ.เฟื่อง” พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผบ.ทร. โดนทัวร์ลงเล็กน้อย หลังจากให้สัมภาษณ์เรื่องแนวทางของ ทร.ในการรื้อหรือไม่รื้อกาสิโน ที่ท่าเส้น จ.ตราด แต่เจ้าตัวมีเวลาในตำแหน่งแค่ปีเดียว ต้องเดินหน้าปรับทัพ-ยกเครื่อง เรือรบไทย ให้รับมือสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการให้นโยบายกับหน่วยขึ้นตรงได้ชูคำว่า BRIGHT (Behave, Reasonable, Intelligent, Goal, Honor, Thoroughly) เป็นกรอบการปฏิบัติของกำลังพล ได้แก่ B- Behave : ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวินัยทหาร มีความซื่อสัตย์สุจริตและยึดมั่นในศีลธรรมอันดี, R-Reasonable : การทำงานทุกเรื่อง ต้องยึดหลักเหตุผลและประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ, I -Intelligent : การตัดสินใจต้องใช้สติปัญญาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และเลือกแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา, G-Goal : มุ่งมั่นทำงานตามเป้าหมาย มีการวางแผนที่ชัดเจน รู้จักบริหารทรัพยากรเพื่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่า, H-Honor : ยึดมั่นในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหารเรือ พร้อมธำรงชื่อเสียงของกองทัพเรือและประเทศชาติ, T-Thoroughly : การปฏิบัติงานต้องรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงสุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนาธนูกับลีลาสำคัญของชีวิตปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลนั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่
แม้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้ำพระทัยสถิตในใจชนจนนิรันดร์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เผด็จการ...โดยธรรม!!!
เห็นข่าวที่ สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซ ของจีน หรือ CAC (Cyberspace Administration of China) เขาออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมบรรดาพวกที่เรียกๆ กันว่า อินฟลูเอนเซอร์
'ปรปักษ์จำนน' จริงหรือ?
ยึดตามหนังสือ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ส่งถึงรอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการ (ผบช.),
ลัคนาพิจิกกับลีลาสำคัญของชีวิต ปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอี
ขอความร่วมมือไม่ได้แปลว่า ‘บังคับ’
ไม่อยากจะเชื่อว่าในประเทศไทยที่เจริญพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์ พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่ยังประโยชน์ให้แก่ความผาสุกของปวงชน

