จุดเปลี่ยนหลัง 'Peace Deal' ไทย-กัมพูชา

หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. วันพุธที่ 22 ต.ค.นี้ นายกฯหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น่าจะนั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร.เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นประธาน ก.ตร.โดยตำแหน่ง แม้จะไม่ใช่การเข้า "กรมปทุมวัน" ครั้งแรก เพราะเคยมาเป็นประธานมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจ ในโครงการสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และระดับผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 3 อาคารศูนย์ฝึกอบรม

พัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม ท่ามกลางการจับตาการประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ จะมีวาระแต่งตั้ง "นายพล" นอกวาระหรือไม่ เนื่องจากตามไทม์ไลน์หนังสือเวียนที่ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. แจ้งเรื่อง ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผบช.และ จตร.ลงมาถึง รอง ผบก.จะครบกำหนดตรวจสอบความถูกต้องภายใน 15 วัน ตรงกับวันที่ 22 ต.ค.พอดิบพอดี ถ้าจะมีการเสนอขออนุมัติ ก.ตร.แต่งตั้ง "นายพล" นอกวาระ แล้วก็เสนอบัญชีแต่งตั้งในทันที ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

สำรวจตำแหน่ง "นายพล" ว่าง หากจะมีการแต่งตั้งนอกวาระ ณ ตอนนี้ ก็มีอยู่ 3 ตำแหน่ง จาก "นายพล" ที่ได้รับอนุมัติ "ลาออก" ตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 27 หรือเออร์ลีรีไทร์ ประกอบด้วย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองจเรตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองจเรตำรวจ เทียบเท่า รอง ผบช. และ พล.ต.ต.นิรันดร์ ทองฤทธิ์ ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ตรวจรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะได้ขยับขึ้นมาแทนตำแหน่งว่าง แบ่งเป็น รองจเรตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. 1 ตำแหน่ง มีชื่อ พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบช.กมค.(นรต.47) เกษียณ 2574 อาวุโสลำดับ 2 และใกล้ชิดขั้วอำนาจการเมือง เป็นเต็ง 1 เพราะอาวุโสลำดับ 1 ในระนาบ ผบช. คือ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ศปก.ตร.อยู่ในตอนนี้ ส่วนผู้ที่จะขึ้นมาเป็น ผบช.กมค. ถูกโฟกัสไปที่ พล.ต.ต.อุกฤษฏ์ ศรีเสือขาม รอง ผบช.กมค. ที่มีความรู้ด้านกฎหมายและจะเกษียณวันที่ 30 ก.ย. 2569 น่าจะได้เลื่อนขึ้นแทน ๐

            บรรยากาศ "วันตำรวจ" ประจำปี 2568 วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา อาจจะไม่คึกคักเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายส่วน ต้องเสริมกำลังช่วยฝ่ายทหาร แต่กิจกรรม "วันตำรวจ" โดยภาพรวมก็ยังคงดำเนินการตามปกติ แบ่งงานเป็น 2 วัน 16 ต.ค. "ผบ.ต่าย" สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9, พิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4, พิธีสักการะรูปปั้นจำลอง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ และพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานและเจริญพระพุทธมนต์ รวมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลืองานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม, ข้าราชการตำรวจและหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ผ่านการคัดเลือกดีเด่นในด้านต่างๆ และพลเมืองดีที่ช่วยเหลืองานตำรวจ รวมจำนวน 128 ราย ส่วนวันที่ 17 ต.ค. มีพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5, พิธีถวายราชสักการะและถวายมาลัยพระบรมรูป รัชกาลที่ 9, พิธีสดุดีข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ, พิธีวางพวงมาลาและพิธีตรึงหมุดแผ่นจารึกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของข้าราชการตำรวจและนักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม

ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่พระราชทานพระวโรกาสให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะผู้แทนกองทัพบก ประกอบด้วย  พล.อ.อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ซึ่งทำหน้าที่ประธานคณะทำงาน พล.ต.กิติศักดิ์ ถาวร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 และ พล.ต.วินธัย สุวารี เลขานุการกองทัพบก เข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานพระนโยบายเกี่ยวกับการเข้าสนับสนุนการดำเนินงาน “กองทุนหทัยทิพย์“ ในโอกาสนี้ มีพระกระแสรับสั่งให้กองทัพบกเข้าสนับสนุนการจัดสร้างหลุมบุคคล จำนวน 50 หลุม สำหรับใช้เป็นที่มั่นกำบังของกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ และสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน จำนวน 8 แห่ง

นอกจากนั้น ยังพระราชทานพระวโรกาสให้ พล.อ. อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ ประกอบด้วย พล.อ.ชิดชนก นุชฉายา เสนาธิการทหาร, พล.อ.ศราวุธ จันทร์พุ่ม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา, พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร  และ พล.ท.จุมภฏ นุรักษ์เขต เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เฝ้าฯ รับพระราชทานพระนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกราบทูลรายงานถึงแนวทางการดำเนินงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่วางแผนจะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 52-59 อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ติดต่อกับ อ.กอมเรียง จ.พระตะบอง กัมพูชา ซึ่งเขตแดนเป็นเส้นตรงระหว่างหลักต่อหลัก ระยะทางรวม 8.4 กิโลเมตร โดยศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯ มีพระกระแสรับสั่งให้กองทัพไทยดำเนินการได้ทันที ด้วยทรงห่วงใยในความปลอดภัย คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ด้านความมั่นคง โดยสัปดาห์หน้ากองทัพบก และกองทัพไทย จะถวายรายงานความคืบหน้าอีกรอบ

มีแนวโน้มว่าการประชุม "คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา" หรือ JBC จะมีการประชุมต่อ แต่สำหรับการประชุม "คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา" หรือ GBC ต้องรอดูอีกรอบ จากผลประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางมาด้วยตนเอง และจะมาเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อดูจากทิศทางของนานาชาติในการถล่มแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา น่าจะปูทางถึงการประชุมที่มาเลเซียด้วย เพื่อเอาไว้ใช้นวดฐานเงินเทาให้ทำข้อตกลง  โดยเนื้อหาของ Peace Deal รอบนี้ จะเป็นการกำหนดข้อเรียกร้องของไทยทั้ง 4 ข้อที่คุยกันไว้ใน GBC แต่กัมพูชาไม่ทำตามเอาไว้ในเอกสาร โดยกัมพูชาต้องแสดงเจตนารมณ์ร่วมให้ชัด พร้อมเดินหน้าตั้งคณะ AOT ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ถาวรเข้ามาตรวจการบ้าน เพื่อให้เป็นการล็อกเพื่อทำตามสัญญาอีกครั้ง โดยจะมีระยะเวลาในการทำงานของ AOT ชัดเจน แต่ในที่สุดทั้งสองชาติจะเดินไปสู่สันติภาพหรือสงคราม ปัจจัยหลักก็อยู่ที่กัมพูชาเองจะยอมรับในปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นมาก่อนหรือไม่

ธงจีนโบกสะพัดที่ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อหมู่เรือฝึกของกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีนเทียบท่าประเทศไทย โดยมี พล.ร.อ.กรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ น.อ.พิเศษ สวี เจี้ยนกั๋ว รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือต้าเหลียน ในฐานะผู้บังคับหมู่เรือฝึก นักเรียนนายเรือจีน ซึ่งมีกำหนดเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 16-20 ต.ค. 2568 โดยมีเรือในหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ CNS QI JIGUANG (83) และเรือ CNS YIMENG SHAN (988) พร้อมกำลังพล 1,214 นาย ณ ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ  โดยกองเรือยุทธการได้จัดเรือหลวงช้าง และอากาศยานจากกองการบินทหารเรือออกไปร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทำการฝึกในหัวข้อการติดต่อสื่อสารในทะเล และได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเรือดังกล่าวด้วย ตอกย้ำสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ไทย-จีนที่มีมาอย่างยาวนาน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้ำพระทัยสถิตในใจชนจนนิรันดร์

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เผด็จการ...โดยธรรม!!!

เห็นข่าวที่ สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซ ของจีน หรือ CAC (Cyberspace Administration of China) เขาออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมบรรดาพวกที่เรียกๆ กันว่า อินฟลูเอนเซอร์

'ปรปักษ์จำนน' จริงหรือ?

ยึดตามหนังสือ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ส่งถึงรอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการ (ผบช.),

ขอความร่วมมือไม่ได้แปลว่า ‘บังคับ’

ไม่อยากจะเชื่อว่าในประเทศไทยที่เจริญพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์ พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่ยังประโยชน์ให้แก่ความผาสุกของปวงชน

สมเด็จพระพันปีหลวง...กับ'กลียุค'

เหตุที่ อันตัวข้าพเจ้าเอง ได้ตัดสินใจลงมือเขียนหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก ชื่อว่า ปริศนากลียุค-กับโลกใหม่หลังทุนนิยม ความหนาราวๆ 200 กว่าหน้า ขึ้นมาเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว