
13 พ.ย.2565-รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 206,768 คน ตายเพิ่ม 431 คน รวมแล้วติดไป 640,090,911 คน เสียชีวิตรวม 6,614,897 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญึ่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ชิลี และอินโดนีเซีย เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 92.02 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.47
อัพเดตโควิด-19 และกลไกเบาหวาน ดังที่ทราบกันมาก่อนหน้านี้จากงานวิจัยหลายชิ้นทั่วโลกว่า การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ Groß R และคณะ จากเยอรมัน ได้อัพเดตความรู้เกี่ยวกับกลไกที่อาจทำให้เกิดโรคเบาหวานหลังจากที่ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 กลไกที่สำคัญได้แก่
หนึ่ง ไวรัสติดเชื้อโดยตรงไปที่เบต้าเซลล์ในตับอ่อน ทำให้เกิดการทำลายเบต้าเซลล์ จนสูญเสียความสามารถในการสร้างอินซูลินและส่งผลต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อรวมถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตามมา สอง การติดเชื้อไปที่เซลล์ไขมัน (adipocytes) ส่งผลให้เกิดการลดการหลั่ง adiponectin และทำให้เกิดการดื้อต่ออินซูลิน (reduce insulin sensitivity)
สาม การติดเชื้อที่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงเซลล์ตับ ทำให้เกิดการหลั่ง glucogenic GP73 มากขึ้น มีการกระตุ้นการผลิตน้ำตาลในร่างกายมากขึ้น (gluconeogenesis)
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผลการศึกษาวิจัยทางคลินิกจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวัง ติดตามผลกระทบจากการที่มีการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากทั่วโลก อันอาจส่งผลให้เกิดสึนามิโรคเรื้อรังตามมาในระยะยาว
เพื่อเป็นการไม่ประมาท ผู้ที่ติดเชื้อมาก่อน ควรระมัดระวัง ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ และดูแลสุขภาพ หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ รวมถึงไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ …การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างดำรงชีวิตประจำวันนอกบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ป.ล.สังเกตจำนวนการเสียชีวิตส่วนเกินเปรียบเทียบในแต่ละปี และอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน ก็จะเห็นได้ถึงผลกระทบของโรคระบาดในช่วงสองปีที่ผ่านมาว่ามีมากเพียงใด ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ ย่อมดีที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผงะ! อาจารย์หมอจุฬาเผยฝุ่นพิษไม่ได้ทำร้ายแค่ปอดแต่เสี่ยงหัวใจวายด้วย
นพ.ธีระวัฒน์เผยPM 2.5 ไม่ได้ทำร้ายปอดอย่างเดียว แต่มีผลต่อหัวใจ ซ้ำร้ายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญอันดับสี่ ในการเสียชีวิตมากกว่าไขมันสูง-ความอ้วน และไตแปรปรวนด้วยซ้ำ
คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดีอธิบายต้นตอทำไม WHO ยังเตือนเรื่องโควิด
คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีไขข้อข้องใจทำไม WHO ยังเตือนเรื่องโควิด19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เหตุมาจากการกลายพันธุ์จำนวนมาก แต่ยังดีวัคซีนทั้งแบบฉีดและกินเอาอยู่
'นพ.ธีระ' ชี้โควิดระลอกใหม่ๆ เด็กโตติดมากกว่าเด็กเล็ก!
หมอธีระเผยผลวิจัยโควิดเด็กทั่วโลก ชี้อัตราติดเชื้อกระโดดสูงโดยเฉพาะในระลอกใหม่ เด็กโตติดมากกว่าเด็กเล็ก วัคซีน mRNA ฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปีให้ผลดี
WHOเปิดตัวเลขสังเวยโควิด 2 เดือนดับแล้ว 1.7 แสนรายทั่วโลก!
หมอธีระยกตัวเลขเสียชีวิตโควิดจาก WHO ชี้ 2 เดือนที่ผ่านมาสังเวยแล้ว 170,000 คน เฉลี่ย 10,000-30,000 รายถือว่ายังน่าวิตก พร้อมแนะแนวทางตรวจการติดเชื้อด้วยตนเองล่าสุด
'ศ.นพ.ยง' ย้ำไทยจะไม่กลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีกแล้ว
'หมอยง' เตรียมบรรยายออนไลน์เรื่องโควิด 19 ในปี 2023 และชีวิตปกติใหม่ ย้ำเราจะไม่ย้อนกลับมาปิดบ้านปิดเมืองอีกแล้ว
โควิดรายวันทั่วโลก ติดเชื้อเพิ่ม 1.6 แสนคน เสียชีวิต 678 คน
ทั่วโลกติดเพิ่ม 160,451 คน ตายเพิ่ม 678 คน รวมแล้วติดไป 672,993,312 คน เสียชีวิตรวม 6,743,006 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา