บ่ายสอง! ศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด 'ฟาวิพิราเวียร์ VS ฟ้าทะลายโจร'

สะเด็ดน้ำเสียที! ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยฟ้องหมอหนูและพวก ปมจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งสมาคมฯ มองว่าประสิทธิภาพด้อยกว่าฟ้าทะลายโจร

07 มิ.ย.2566 – วันนี้ในเวลา 14.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ณ ห้องพิจารณาคดี 6 ชั้น 3 ในคดีหมายเลขดำที่ 531/2565 คดีหมายเลขแดงที่ 1071/2565 ระหว่างสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย (ผู้ฟ้องคดี) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา)

โดยคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มาใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) ทั้งที่มีผลการวิจัยระบุว่า มีประสิทธิภาพด้อยกว่ายาฟ้าทะลายโจร ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนและเกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง

ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ระงับการจัดซื้อจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่มีหน้าที่และอำนาจในด้านการสาธารณสุข จัดหาและบริหารจัดการเกี่ยวกับเวชภัณฑ์เพื่อป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงการจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว อันเป็นข้อพิพาทที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างในคดีนี้ กรณีจึงเป็นการดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และโดยที่มาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าว บัญญัติให้บรรดาข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ดังนั้น คำฟ้องในข้อหานี้จึงไม่อยู่ในอำนาจตรวจสอบของศาลปกครอง

ส่วนกรณีมีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่พิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลข้างเคียงของผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ และให้กำหนดมาตรการหรือกลไกที่ชัดเจนเกี่ยวกับการชดเชยดูแลค่าเสียหายที่เกิดจากการป่วยและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ให้เผยแพร่ข้อมูลให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทราบเกี่ยวกับข้อจำกัดของหลักฐานด้านประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาโรคโควิด-19 และให้กำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้ฟ้าทะลายโจร เมื่อคำขอดังกล่าวเป็นเรื่องการวิจัยทางการแพทย์ในเรื่องการใช้ยารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งต้องศึกษาและทำการวิจัย การจะให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่มีมาตรการที่ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทย “ฟ้าทะลายโจร” อย่างจริงจังและให้มีประสิทธิภาพในสถานพยาบาลและหรือบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐ-เอกชน จึงต้องกระทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมีความรู้เชี่ยวชาญด้านยาโดยเฉพาะ ประกอบกับการศึกษาวิจัยทางการแพทย์กรณีนี้ต้องอนุมัติเงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วย อันเป็นเรื่องนโยบายการบริหารราชการของรัฐบาล ศาลปกครองจึงไม่อาจก้าวล่วงไปพิจารณาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวภายในเวลาที่ศาลกำหนดได้ ดังนั้น คำฟ้องในข้อหาที่สองจึงเป็นกรณีที่ศาลไม่อาจออกคำบังคับตามที่กำหนด
ในมาตรา 72 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' สั่ง 'ชลน่าน' แล้วให้จับตาโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิด

นายกฯ สั่งการติดตามสถานการณ์เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ ดูแลประชาชน ย้ำหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่

ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลชั้นต้นให้รับฟ้องเพิกถอนควบรวม ทรู-ดีแทค

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้รับคำฟ้องของผู้บริโภค 5 รายในคดีขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กรณีรับทราบ