'บิ๊กปั๊ด' บี้เร่งล่าหัวคนร้ายป่วนบึ้ม 17 จุด 3 จังหวัดชายแดนใต้

'ผบ.ตร.' สั่งบูรณาการกำลังด้านความมั่นคงสืบสวนหาตัวคนร้ายวางระเบิด-เผาทรัพย์พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

17 ส.ค.2565 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนหลายจุด ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนของวันพุธที่ 17 ส.ค.2565 ในหลายพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส รวมกว่า 17 จุด โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและไม่ทราบจำนวน ได้ลักลอบวางระเบิดภายในสถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายหลายจุด ในพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี จำนวน 2 จุด (อ.หนองจิก อ.ทุ่งยางแดง) จังหวัดยะลา จำนวน 6 จุด (อ.เมือง อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ยะหา) จังหวัดนราธิวาส จำนวน 9 จุด (อ.บาเจาะ อ.เจาะไอร้อง อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.จะแนะ อ.รือเสาะ) โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว

จากนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป

“เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก”

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงเร่งรัดพิสูจน์ทราบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนร้ายยกพวก 'ปล้นปืน' อดีตผู้ใหญ่บ้าน ได้ 5 กระบอกหลบหนี คาดนำไปก่อเหตุใหญ่

พ.ต.ท.สำราญ มากจันทร์ สวญ.สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้าย 7-8 คน สวมหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธครบมือบุกปล้นอาวุธปืน

ทนายตั้มเล่นทุกทาง! ยื่นผู้นำฝ่ายค้านปมบิ๊กตำรวจงาบส่วย

'ทนายตั้ม' บุกสภาฯ ร้องผู้นำฝ่ายค้าน สอบ 'พล.ต.อ.'ที่เป็น ผบ.ตร.มีเส้นทางการเงินเอี่ยว 'ส่วย-เว็บพนัน' ด้าน 'ชัยธวัช' รับลูก เหน็บนายกฯ ควรเป็นคนให้ความสำคัญไม่ใช่แค่หย่าศึก

คุมเข้ม 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน หน่วยข่าวจับตาก่อเหตุซ้ำป่วนชายแดนใต้

ที่ด่านตรวจไกรลาศ หน้าที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายอมร ชุ่มช่วย นายอำเภอเบตง อำนวยการสั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพิ่มมาตรการตรวจสอบ ค้นหารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งบุคคลเป้าหมายอย่างเข้มงวด