
กรมวิชาการเกษตรผนึกกำลัง บก.ปคบ.บุกตรวจสอบแหล่งรวมต้นกล้าปาล์มน้ำมันไม่มีใบอนุญาต พบของกลางผิดกฎหมายกว่า 4 หมื่นต้น มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
07 ก.ย.2565 - นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะกำกับดูแลสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร สั่งการให้ กลุ่มสารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกระบี่ ประสานกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่รวบรวมต้นกล้าปาล์มน้ำมันเพื่อการค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีใบอนุญาตรวบรวมต้นกล้าปาล์มน้ำมันเพื่อการค้าในพื้นที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวน 2 แหล่ง
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบสถานที่แหล่งที่ 1 พบ ต้นกล้าปาล์มน้ำมันบรรจุถุงพร้อมจำหน่าย จำนวน 35,304 ต้น แหล่งที่ 2 พบต้นกล้าปาล์มน้ำมันบรรจุถุงพร้อมจำหน่าย จำนวน 7,500 ต้น มูลค่าของกลางรวมแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 2 ล้านบาท พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดของกลางไว้ทั้งหมด เบื้องต้นพบความผิดตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี เนื่องจากการจำหน่ายต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรทำให้ได้ผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะได้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศสูญเสียรายได้มหาศาล กรมวิชาการเกษตรจึงได้รวบรวมหลักฐานส่งพนักงานตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพิฏฐ์' เดือด! อบรม 'อนุทิน' ไร้มารยาทการเมือง
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าริทำ
“รองโฆษกรัฐบาล“ นำคณะลงพื้นที่กระบี่ ติดตามความสำเร็จชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ - ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่จังหวัดกระบี่ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่ จ.กระบี่ โดยนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล หรือ “โกหงวน” นายก อบจ.กระบี่ และนายกิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่
“กระบี่” ต้นแบบ NO DRUG ถนนปลอดภัย
จังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลกที่มีเสน่ห์จากธรรมชาติและวัฒนธรรม กำลังเดินหน้าไปอีกขั้นด้วยการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ไม่เพียงแค่เป็น “สวรรค์ของนักท่องเที่ยว” หากแต่ยังจะกลายเป็น “สวรรค์แห่งความปลอดภัย” เมื่อสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

