26 ต.ค.2565 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และอดีตผู้กำกับการ สภ.ท่าบ่อ ร่วมกันบังคับสั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ แก้ไขบันทึกจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด นรข.หนองคายอันเป็นเท็จ และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 3 นายตำรวจ ที่ลงมือลายมือชื่อร่วมจับกุมอันเป็นเท็จในคดียาเสพติดที่ สภ.ท่าบ่อ โดยมี พ.ต.อ.อรรถชาย อรรถตราสิงห์ รอง ผบก.ส.3 ในฐานะเวรอำนวยการเป็นผู้รับเรื่อง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นรข.หนองคายมีการจับกุมยาเสพติด และลงบันทึกการจับกุมว่ามีตำรวจรวม 3 นาย เข้าร่วมการจับกุม มีการนำตัวนายจีระศักดิ์ แจ่มใส ผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาล หลังจากตนเองไปแจ้งความ ปปป.ให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่ร่วมจับกุมข้อหาร่วมกันปล้นตามบันทึกการจับกุมในการปล้นยาเสพติดจากฝ่ายปกครอง แต่อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายและผกก.สภ.ท่าบ่อขณะนั้น กลับมีการแก้ไขบันทึกการจับกุม เพื่อไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง 3 คนกับทหาร 3 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นยาเสพติดโดยเอกสารมีการแก้ไขย้อนหลัง 1 สัปดาห์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ไปให้ปากคำกับ ปปป.ไว้แล้ว ถือว่ามีความผิดชัดเจน จึงขอให้ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับอดีตผู้การหนองคายและอดีตผกก.สภ.ท่าบ่อ
นอกจากนี้ ยังได้ร้องเรียนให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เข้าไปสืบสวนสอบสวน นรข.หนองคาย และกองกำลังสุรศักดิ์ และตำรวจภาค4 ว่ามีส่วนรู้เห็นและเจตนาช่วยเหลือไม่จับกุม จ่าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาสำคัญคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการขนยาเสพติดเข้ามาในไทยมากไปกว่านี้
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีการจับกุมยาเสพติดดังกล่าวยังมีหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารตำรวจมีส่วนเชื่อมโยงกันทั้งหมด และมีนายตำรวจระดับผู้การจังหวัด และผกก.คอยช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติดเพราะเป็นขบวนการใหญ่ การจับยาเสพติดของทหารเกี่ยวพันกับงบประมาณของ ป.ป.ส.ด้วย โดยตั้งข้อสังเกตุว่าการจับยาเสพติดหลายพื้นที่ทางภาคอีสานไม่ได้ตัวผู้ต้องหาอาจเป็นยาเสพติดของพรรคพวกตัวเอง และเป็นการเอายาเสพติดมาแถลงเพื่อเอาผลงานและของบประมาณจาก ป.ป.ส. ยกเว้นได้ตัวผู้ต้องหาถึงเป็นการจับกุมขบวนการจริง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ตนเองจะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปลดเลขาธิการ ป.ป.ส.เนื่องจากมองว่ามีความล้มเหลวทุกด้านเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และแก้ไขกฎหมายทำให้พ่อค้ารายย่อยมาบำบัดรวมกันกลายเป็นขบวนการใหญ่ทั้งประเทศ มีคนติดยาเสพติดจำนวนมาก
“หากไม่ปลดเลขาธิการ ป.ป.ส. ก็แก้ปัญหาไม่ได้ จากนั้นในช่วงบ่ายจะไป ปปป. เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี นรข.หนองคายเพิ่มเติม เพราะ ปปป.รับผิดชอบมานานเป็นปีแล้ว แต่ไม่คืบหน้าไม่รู้สาเหตุอะไร” นายอัจฉริยะ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ช่อ' หอบหลักฐานแจ้งความ 'นักการเมือง-IO' โพสต์บิดเบือน ยันไม่เคยบอกให้ทหารเปิดแผนการรบ
พรรณิการ์ วานิช กรรมการคณะก้าวหน้า แจ้งความกรณีมีการเผยแพร่ข้อความบิดเบือนที่ตนไปพูดในรายการหนึ่ง
ตร.คุมเข้มรอบ 'สุวรรณภูมิ' ผวาโดรนปริศนาใกล้สนามบิน
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว พร้อมด้วยรองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสุวรรณภูมิสาย 3
เศร้า! คนงานก่อสร้างวัย 35 ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต เหตุดัดแปลงใช้พัดลมแอร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตภายในบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้างแห่งหนึ่ง
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นฟันวินัย-อาญา ผบ.ตร. ละเว้น ประวิงเวลา ปมตำรวจรับส่วยเว็บพนัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 177/2568 ซึ
รองนายกฯ “สุชาติ” สั่งการ กรมอุทยานฯ ผนึก DSI–กรมป่าไม้ ทลายโกดังไม้เถื่อนหนองคาย รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดไม้หวงห้ามกว่า 275 ลบ.ม.
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมป่าไม้ เร่งปราบปรามขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น หลังพบพฤติการณ์เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ
“พลังรัก–ศรัทธา"ร่วมวางรากฐานใหม่ สู่ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด
ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรังของสังคมไทยมานานนับทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเสี่ยงรอบด้าน

