อ่วม! 6 ตำรวจห้วยขวาง เจอข้อหาเพิ่ม ม.149 โทษหนักถึงประหาร เซ่นรีดเงินสาวไต้หวัน

2 ก.พ.2566 - ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยถึงการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ที่ตั้งด่านรีดดาราสาวไต้หวัน จำนวน 27,000 บาท ว่า เบื้องต้นทั้ง 6 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เราก็ไม่หนักใจ เพราะทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงมาทำคดีตั้งแต่เริ่มแรก เรามีพยานหลักฐานที่แน่นหนาพอสมควร ประกอบกับวานนนี้ (1 ก.พ.) พยานชาวสิงคโปร์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมี

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นในชั้นสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวให้การรับสารภาพ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าในชั้นสืบสวนให้การรับสาภาพ แต่จริงๆแล้วเรามีพยานหลักฐานซึ่งมากกว่าคำรับสารภาพ เรามีภาพวงจรปิดของภาคเอกชนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้ แต่นี้เป็นหลักฐานสำคัญไม่สามารถเปิดเผยได้ ในวันนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำแต่ละปากเบื้องต้นให้การปฏิเสธ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นข้อกล่าวหาหนัก ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ส่วนที่แจ้งข้อกล่าวหาเพียง 6 คน เพราะ 1 คนมีเหตุต้องออกไประงับเหตุส่งเสียงดังที่ซอยรัชดาซอย 10 ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเขาจึงไม่ถูกดำเนินคดี แต่ยังคงแจ้งข้อหา 157 เพราะมีหลายชื่อในด่าน แต่ข้อหา 149 ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน แต่ถ้าพยานหลักฐานไม่จบแค่นี้ ถ้าถึงใครก็ต้องดำเนินคดีต่อ หลังจากแจ้งข้อหาเสร็จจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลางตลิ่งชันในวันนี้

ถามต่อว่าพยานชาวสิงคโปร์ชี้ตัวตำรวจมากกว่า 1 คน หรือไม่ เขาตอบว่ารายละเอียดอยู่ในสำนวน เขาชี้ได้เพียงบางคน แต่วันนี้เราดำเนินคดีได้มากกว่าที่ผู้เสียหายชี้ยืนยัน ซึ่งพยานคนดังกล่าวมาให้การที่เมืองไทยเป็นประโยชน์ทำให้การสืบสวนสอบสวนง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อหา 149 โทษถึงประหารชีวิต ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจเราต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุม ถ้าไม่มั่นใจเราไม่แจ้งข้อหาหรือแจ้งตามความกดดันใดๆ ด้าน ผบช.น.ก็มาควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเองทั้งคืน มีความมั่นใจในพยานหลักฐาน ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือกันเด็ดขาด ถ้ามีการช่วยเหลือคงไม่มีการแจ้งข้อหาเกือบทั้งชุด

ผบก.สส.บช.น. กล่าวต่อว่า ที่ล่าช้าในการแจ้งข้อหาเพราะกล้องที่เราได้มาต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องได้รับความร่วมมือจากเอกชน ที่ชัดเจนเห็นประมาณ 6 คน ส่วนกล้องที่ส่งติดหมวกหรือหน้าอกของตำรวจที่ตั้งด่านไปกู้ที่เท่าที่ทราบ พฐ.ส่งหลักฐานมาแล้วแต่รายละเอียดอยู่ในสำนวนไม่เข้าไปก้าวล่วง เราเดินข้ามกล้องนั้นไปแล้ว เพราะเรามีพยานหลักฐานที่มีส่วนสำคัญให้วันนี้ดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตามถ้ามีคนมาแจ้งความเพิ่มถูกตำรวจกลุ่มนี้กระทำในลักษณะเดียวกันก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ต่างกรรมต่างวาระ แต่ขณะนี้ยังไม่มี

เมื่อถามถึงผู้ต้องหาทั้งหมดมีอาการเป็นเช่นไร เขาตอบว่า เครียดมาก ถามต่อถึงประเด็นตำรวจตั้งด่านรีดเงินส่งให้นครบาล เขาตอบว่า ผมมีหน้าที่สืบสวน ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งด่าน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัยการยื่นฟ้อง 6 ตร.ห้วยขวาง ไถเงินดาราสาวไต้หวัน ชี้โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต

'โกศลวัฒน์' เผย อัยการปราบทุจริตยื่นฟ้อง 6 ตำรวจ ห้วยขวาง ตั้งด่านไถเงินเเลกไม่ดำเนินคดีบุหรี่ไฟฟ้าดาราสาวไต้หวัน ชี้โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต

เชือดแล้ว! สั่งให้ออกจากราชการ 6 ตำรวจ เรียกรับสินบนแลกไม่จับกุมผู้กระทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี อัฏชพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการ

ขันน็อตด่านตรวจทั่วประเทศ ผบ.ตร.สั่งเข้มห้ามแต่งนอกเครื่องแบบ ต้องมีกล้องติดตัวทุกนาย

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึงประเด็นที่ นายชูวิทย์พูดถึงการตั้งด่านของตำรวจนครบาล มีการเรียกรับสินบนว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไ

ผบช.น. เค้นตร.ห้วยขวางตอบ 5 ข้อสงสัย ไถเงินสาวไต้หวัน หากไม่เคลียร์ก็ชี้แจงในชั้นศาล

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งด่านรีดเงินกลุ่มนักท่องเที่ยวดาราสาวไต้หวันจนมีคำสั่งย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง และตำรวจ 7 นาย สน.ห้วยขวาง ว่า