เอาแล้ว! 'โจ๊ก' ยันไม่เอาคืน แต่ลั่น 'ข้อมูลผมมีมาก เปิดเมื่อไหร่ ก็ตายกันหมดทั้งสตช.'

(แฟ้มภาพ)

27ก.ย.2566 - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท. กรณีตำรวจไซเบอร์การบุกค้นบ้านพัก ในซอยวิภาวดี 60 และมีลูกน้องนายตำรวจ 8 นายเชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ว่า เงินที่ให้ลูกน้องช่วยทำงานโดยเฉลี่ย 1-2 ล้านต่อเดือน โดยเงินจำนวนนี้นอกเหนือจากงบราชการลับครั้งละ 6 แสน ที่ผบ.ตร.นำมาให้ ซึ่งเงินทั้งหมดถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเงินของภรรยา และเงินที่บ้านของตน ถ้าดูเส้นเงินของมินนี่ ที่บอกว่าโอนเข้ามาตรงกับค่าใช้จ่ายของตน ประมาณ 3 ล้านกว่า ถามว่าจะรับเงินจากเว็บพนันที่ไหน 3 ล้านกว่า เขารับกันเป็น 100 ล้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากพ่อตาตนเสีย เงินมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งก็เกือบพันล้านแล้ว เมื่อพ่อตาเสียชีวิต แม่ยายตนก็เป็นผู้จัดการมรดก เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีคนมาซื้อที่ดินร้อยกว่าล้าน วันนี้ตนกับภรรยา ตั้งใจทำอะไรก็ได้ที่จะทำบุญให้ประชาชน ตนเลี้ยงลูกน้อง ไม่ใช่ให้ลูกน้องมาเลี้ยงตน

ส่วนมีคำขู่จะเช็คบิลไปที่ภรรยา และแม่ เพราะมีเส้นทางการเงินไปถึงนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตอนนี้เขาเห็นเส้นเงินแล้วว่าเงินจากเว็บพนันมี 3 ล้าน แต่เงินตนมีอยู่ 20 ล้าน ส่วนภรรยาตนจะมีเงินไปถึงมินนี่ยังไง ลูกน้องตนก็ต้องอธิบาย ถ้าเงินตนได้มาถูกต้องมันก็จบ แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องมาตรวจสอบ

เมื่อถามว่า หากมีการเชิญแม่ไปสอบปากคำจะทำอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องไปสอบปากคำ ตนอาจจะให้ไปสอบที่บ้าน เพราะแม่ตนมาไม่ไหว และอาจจะให้หมอไปอยู่ด้วย เพราะแม่อาจจะไม่ไหว อายุมากแล้ว ทุกวันนี้ตนก็ต้องทำแบบนี้ ต้องทำเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองและลูกน้อง แต่ต้องแยกให้ออกว่าลูกน้องคนไหนไปพัวพัน

ถามว่าบ้านทาวโฮมของเฮียแต๋มที่โดนค้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปกติตนอยู่แฟลตตำรวจจนเป็นนายพล แต่พอเราเป็นผู้การ งานเราเยอะขึ้น แต่ตนก็ไม่ได้ไปสร้างบ้าน ตนสนิทกับเฮียแต๋ม รู้จักกันมากว่า 20 ปี ซึ่งนับถือกันเป็นญาติ ก่อนจะออกจากแฟลตตำรวจ ตนก็ถามเฮียแต๋มว่ามีบ้านตรงไหนบ้าง เฮียแต๋มก็บอกว่ามีบ้านหลังดังกล่าว ตนก็เลยมาอยู่ โดยเช่า 2 หลัง และอีก 2 หลังว่างอยู่ก็เลยให้ลูกน้องไปอยู่ เฮียแต๋มเขาทำธุรกิจถูกกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพนัน ตนก็บอกให้เฮียแต๋มตั้งโต๊ะแถลงเลย ซึ่งกำลังประสานงานให้แถลงข่าว

เมื่อถามอีกว่า รู้มาก่อนหรือไม่ว่าพ.ต.อ.ภาคภูมิ ไปยุ่งกับมินนี่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้มาก่อน ซึ่งพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย เป็นคนทำงานดี ซึ่งไปทำงานเป็นผู้กำกับอยู่จ.เลย เขาเลยรู้จักกัน ส่วนตนโดนย้ายไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี ตนเพิ่งถามเขาก็บอกว่ารู้จักกันที่จ.เลย แต่จะลึกซึ้งกันอย่างไรตนไม่รู้

“ผมไม่เอาคืนหรอก แต่ข้อมูลผมมีมาก ผมเปิดเมื่อไรก็ตายกันหมดทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ยังไม่ขอบอก ผมไม่เอาคืน แต่ข้อมูลมีเยอะ ผมทำตรงไปตรงมาทุกคดี แต่เส้นทางการเงินมันพันกับหลายคน มันไม่ใช่ขี้ไก่แบบของผม เจ้าพ่อเว็บพนันไม่มีใครรู้จักผม และเขากลัวผมหมด ไอ้ที่ทำกับแบบนี้ทำก็ทำได้ แต่ผมยังรักษาองค์กรเอาไว้อยู่” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเมื่อถามว่าตกลงจะเอาคืนหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โจ๊ก' ชงดาบสองร้อง ป.ป.ช.เทกระจาดสอบตำรวจกว่า 200 นาย

'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 'รองธนา' หัวหน้าพนักงานสอบสวนพร้อมคณะสอบสวนโดยมิชอบ ยันการสอบสวนเป็นโมฆะ แนะทางรอดให้การใครสั่ง เผยนายกฯ ถูกหลอกเซ็นให้กลับ ตร.เข้าใจเป็นการส่งกลับไปทำงาน