จับแล้ว มือปืนยิงรัว 6 นัด ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม เป็นญาติอดีตลูกเขยคนตาย

29 ก.พ.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายจ่อยิง 6 นัด นายนิโรจน์ ทองสุข อายุ 48 ปี ดับในสวนปาล์ม หมู่ที่ 16 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เหตุเกิดวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา

วันนี้ พ.ต.ต.จิรเมธ โชติรัตน์ สว.(สอบสวน) พร้อม พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ได้นำตัวนายชาตรี บุญเพ็ง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและพรบ.อาวุธปืน หลังก่อเหตุยิงนายนิโรจน์ ทองสุข อายุ 48 ปี ดับในสวนปาล์ม และถูกจับกุมได้เมื่อ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆที่ได้ก่อเหตุ

โดยพฤติกรรมการก่อเหตุจนนำมาสู่การจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต พ.ต.อ.ศุภณัฐ รัตนภิรมย์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สุพจน์ สุทธิเกิด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร ร.ต.อ.ธวัช ภูพร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ภจ.ว..ชุมพร ร.ต.ท.จิระวัฒน์ ดวงชัย หัวหน้าชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ได้นำตัวพยานบุคคลทั้งที่เป็นญาติผู้ตาย เพื่อนสนิท เพื่อนบ้าน คนใกล้ชิดรวม 5 ปาก และตรวจสอบตามเส้นทางจุดเชื่อมโยงต่างๆก่อนคืนเกิดเหตุที่นายนิโรจน์ถูกฆ่าตาย โดยเฉพาะอดีตลูกเขยผู้ตายอายุ 30 ปี ที่ได้เลิกรากับลูกสาวคนตายมาประมาณกว่า 1 ปี ที่ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำและให้การเป็นประโยชน์ที่เกี่ยวพันต่อรูปคดี

นายธีรพล อดีตลูกเขยให้การว่า เมื่อคืนเกิดเหตุขณะที่ตนเองได้ขับรถ จยย.ผ่านบ้านนายเฟียว ซึ่งอยู่ในสวนยางพารา แล้วได้พบนายนิโรจน์ ทองสุข คนตายและเป็นอดีตพ่อตาจอดรถอยู่หน้าบ้านเฟียว แต่พอขับรถผ่านไปได้เพียงเล็กน้อย ยังไม่ทันถึงปากซอย ก็สังเกตเห็นรถยนต์ของอดีตพ่อตา ขับรถตามมาอย่างเร็ว ด้วยความกลัวและตกใจ จึงได้ขับรถเลี้ยวขวาเข้าไปในถนนในซอยซึ่งเป็นถนนลูกรัง ก็พบว่านายนิโรจน์ยังขับรถตามมาอยู่ จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้านของนายหนึ่ง หรือนายชาตรี บุญเพ็ง อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ และห่างจากที่เจอนายนิโรจน์ เพียง 200 เมตร จึงได้จอดรถพร้อมตะโกนเรียกนายหนึ่ง ซึ่งขณะที่ตนเองจอดรถตะโกนเรียกนายหนึ่ง อยู่ข้างทางนั้น นายนิโรจน์ได้ขับรถมาถึงแล้วจอดประกบรถ จยย.ตน

นายธีรพล ให้การต่อว่า เมื่ออดีตพ่อตาจอดประกบระจยย.ตนแล้ว นายนิโรจน์ ได้พูดตะโกนออกมาจากรถว่ากูต้องการเจอมึงมานานแล้ว พร้อมสังเกตเห็นว่านายนิโรจน์เหมือนเอื้อมมือจะไปหยิบอะไรบางอย่างตรงเบาะข้างตัว ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับรถหนีไปอีกประมาณ 200 เมตร แล้วรีบเลี้ยวขวาเข้าไปในสวนยางพาราอีกประมาณ 100 เมตร แล้วรีบปิดไฟดับเครื่องรถ เพื่อหลบซ่อนตัวไม่ให้นายนิโรจน์อดีตพ่อตาเห็น ซึ่งก็ได้ผลนายนิโรจน์ได้ขับรถยนต์เลยไป หลังจากนั้นเมื่อตนเห็นปลอดภัยแล้ว จึงได้ขับรถออกมา และได้มาเจอนายหนึ่งที่เป็นญาติสนิทมีศักดิ์เป็นพี่พร้อมเมียบริเวณหน้าปากทางถนนที่ตนขับรถจยย.เข้าไปหลบ หลังจากนั้นก็ได้พากันขับรถจยย.ไปดูว่า นายนิโรจน์อดีตพ่อตา ได้ขับไปรอตนที่บ้านหรือไม่ แต่เมื่อขับไปดูก็ไม่พบจึงได้แยกย้ายกันไป

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ออกไปติดตามพบนายชาตรี บุญเพ็ง หรือนายหนึ่ง กับ น.ส.เฟียว อายุ 33 ปี ภรรยาของนายหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่กำลังนั่งๆนอนอยู่ที่บ้านในตำบลปากคลอง อ.ปะทิว พร้อมเชิญตัวมาสอบปากคำที่สภ.มาบอำมฤต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกสอบ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจนนายชาตรี บุญเพ็ง หรือนายหนึ่ง ถูกตำรวจเค้นสอบพร้อมมีพยานบุคคล จึงยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายนิโรจน์ จริง

โดยนายหนึ่งอ้างว่า หลังจากที่รู้ว่านายนิโรจน์ ขับรถยนต์ตามนายธีรพล ที่เป็นญาติสนิทมีศักดิ์เป็นน้องชาย ตนเองจึงได้ขับรถ จยย.ตามไปเพื่อต้องการไปขอพูดคุยกับนายนิโรจน์ ที่มีปัญหากับนายธีรพล ญาติผู้น้อง เพื่อต้องการให้เลิกราต่อกัน แต่ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น ทางนายนิโรจน์แสดงท่าทางคล้ายจะหยิบอาวุธปืนหรือมีดที่วางอยู่ข้างเบาะในรถ ตนเองเห็นจวนตัวก็เลยชักอาวุธปืน ซึ่งตนพกติดต่ออยู่ตลอดขึ้นมายิงใส่เพื่อต้องการป้องกันตัว และหลังก่อเหตุก็นำอาวุธปืนไปฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านพ่อ และนำปลอกกระสุน 6 ปลอกไปฝังในสวนหลังบ้านของตนเอง

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปชี้จุดและขุดหาอาวุธปืนพกสั้น.38 ไม่มีทะเบียนและปลอกกระสุน 6 ปลอก ฝังดินอยู่ในสวนบ้านพ่อของนายหนึ่ง ก่อนนำตัวไปควบุคุมที่ สภ.บ้านมาบอำมฤต และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภ.8 แถลงปิดคดีอุ้มฆ่าฝังอำพรางศพ 'เสี่ยบ่อนไก่ชุมพร' จับได้ทั้งแก๊ง

ผบช.ภ.8 แถลง ปิดคดี “โกหมาด” เสียบ่อนไก่ชุมพร ได้ทั้งแก๊งอุ้มฆ่า แก๊งค้ารถเถื่อนข้ามชาติ เผย “สมชัย” หัวหน้าทีม หลังก่อเหตุโหดอุ้มฆ่าฝังอำพรางศพ ยังขับรถผู้ตายด้วยตนเองไปส่งมอบขายให้กับแก๊งค้ารถเถื่อนข้ามชาติที่กรุงเทพฯ ราคา 4.5 แสน แล้วนั่งเครื่องบินกลับบ้านที่นครศรธรรมราช

ตร.ไซเบอร์ บุกรวบ 'เจ๊จ๋า' เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหดร้อยละ 4 ต่อวัน ครอบครองอาวุธปืน

“ลูกหนี้ “ร้องตำรวจไซเบอร์บุกจับ “เจ้จ๋า” เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด ร้อยละ 4 บาทต่อวัน 120 บาทต่อเดือน พร้อมยึดหลักฐานรายชื่อลูกหนี้เพียบ

ฝากขัง 'เจ๊อ้วน' จ้างวานอุ้มฆ่าผัว ฝังอำพรางศพ ยอมรับฟิวส์ขาดโดนขู่ฆ่าก่อน

ความคืบหน้ากรณี ตำรวจจับกุม นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ “เจ้อ้วน” บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร จ้างวาน นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี กับพวกอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 65 ปี

บุกค้นบ้าน 'เจ๊อ้วน' เมียเสี่ยบ่อนไก่ หลังคนร้ายซัดทอดผู้จ้างวานฆ่าฝังดิน

พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวน ภ.8 พร้อมตำรวจกองปราบ ได้เดินทางด่วนมากับเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่สนามหน้าสถานีตำรวจภูธรนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จากนั้นได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน

รวบผู้ต้องหาสำคัญตามหมายจับ หลังก่อเหตุฆ่าโหดแล้วหนีกบดานที่ชุมพร นานกว่า 5 ปี

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.ชนฤกดิ พงศ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช, พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.

ทุเรียนสร้างรายได้หลักให้จังหวัดชุมพร ปีละกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น 17%

นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตรจังหวัดชุมพร กล่าวว่าจังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกทุเรียนเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ โดยในปี 2566 ทุเรียนเป็นเศรษฐกิจหลักสร้างรายได้ให้จังหวัดชุมพร ไม่น้อยกว่า 32,000 ล้านบาท จุดเด่นที่สำคัญของทุเรียนจังหวัดชุมพร