บุกค้นบ้าน 'เจ๊อ้วน' เมียเสี่ยบ่อนไก่ หลังคนร้ายซัดทอดผู้จ้างวานฆ่าฝังดิน

ตำรวจสืบภาค 8 บินด่วนพรอมหมายค้นบุกตรวจยึดหลักฐานสำคัญบ้าน "เจ๊อ้วน" จ้างวานอุ้มฆ่าฝังศพอำพราง “โกหมาส เสี่ยบ่อนไก่” หลัง “สมชัย รันตนะ” เพื่อนสนิทเข้าให้การตำรวจรับสารภาพเป็นจุดเกิดเหตุฆ่าผัวเสี่ยบ่อนไก่

29 มี.ค.2567 - จากกรณี นายขนบ สมหวัง หรือ “โกหมาส” อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ ริมถนนสายเอเชีย 41 ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนจนพบรถยนต์ของ “โกหมาส” จอดทิ้งไว้ในป่าริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 4 ก.พ.เตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน และผ่านไปแล้วเกือบ 2 เดือน แต่ยังไร้ร่องรอยของ “โกหมาส” 

กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบและขุดพบศพ "โกหมาส" ถูกนำคนร้ายนำไปฝังไว้ในสวนปาล์มบนหุบเขาบริเวณหมู่ 2 ตำบลบ้านลำเนา อ.บางชัน จ.นครศรีธรรมราช และอยู่ระหว่างรอให้ญาติยืนยันและนำศพส่งไปยังศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และชันสูตรอย่างละเอียดของสาเหตุการตาย

ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวน ภ.8 พร้อมตำรวจกองปราบ ได้เดินทางด่วนมากับเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่สนามหน้าสถานีตำรวจภูธรนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จากนั้นได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปที่บ้านของ นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ เจ๊อ้วน บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อเก็บหลักฐานสำคัญตามที่มีการสืบสวนพบว่าเป็นจุดเกิดเหตุอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “โกหมาส” เสี่ยบ่อนไก่

โดยที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่ห่างจาก สภ.นาสัก 5 กิโลเมตร พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวน ภ.8 พร้อมชุดสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้พบกับ นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ เจ๊อ้วน นั่งอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นศาลจังหวัดหลังสวน โดยเจ๊อ้วนให้ความร่วมมือโดยดีด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีนายสำราญ สมหวัง พี่ชาย “โกหมาส” อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณบ้านห้ามไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจเก็บหลักฐานภายในบ้านเช่นผ้าห่ม เสื้อผ้า และคราบต่างๆภายในห้อนนอน ห้องน้ำ บางจุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัว “เจ๊อ้วน” ไปยืนดูการตรวจเก็บหลักฐานด้วย โดยมีหลักฐานสำคัญได้แก่ ม้วนสก๊อตเทปสีน้ำตาล ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ห่อพันศีรษะและใบหน้า “โกหมาส” โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจเก็บหลักฐานนานประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.นาสัก โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เป็นผู้สอบปากคำ

สำหรับการออกหมายค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 67 นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี เพื่อนสนิทของ “โกหมาส” หนึ่งในผู้ต้องสงสัยตัวหลัก ได้เดินทางมากับรถยนต์กระบะสี่ประตูสีดำ กับเพื่อนชาย 2 คน เพื่อมาพบกับ พ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สว.(สอบสวน)เจ้าของคดีที่ สภ.นาสัก เพื่อให้ปากคำและรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ “เจ๊อ้วน” ได้โทรเรียกตนไปหาที่บ้าน และพบว่า “เจ๊อ้วน” ได้ให้ลูกน้องจับ “โกหมาส” มัดรอไว้แล้วที่โรงจอดรถยนต์ข้างบ้าน และให้พรรคพวกตนอุ้มพาใส่รถฆ่าฝังดินที่ จ.นครศรีธรรมราช

หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวนายสมชัยไปชี้จุดตามที่ให้การกับตำรวจ โดยพาไปชี้จุดโรงจอดรถยนต์ข้างบ้าน “เจ๊อ้วน” ที่นายสมชัยบอกว่าไปยกศพใส่รถฟอร์จูนเนอร์ของ “โกหมาส” แล้วพาไปย้ายศพขึ้นรถเก๋งในพื้นที่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นำไปฝั่งทำลายในสวนปาล์มพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ได้นำไปล้างแล้วส่งขายกับแก๊งรับซื้อรถทางภาคเหนือ

ส่วนนายสมชัย รัตนะ หลังมาให้การรับสารภาพกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากยังมีหมายจับ ซึ่งต้องรอแพทย์พิสูจน์อัตลักษณ์ศพ” โกหมาส” เพื่อยืนยันการนำไปขอหมายจับ พร้อม "เจ๊อ้วน" และพวกอีกไม่ต่ำกว่า 4 คน ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้ประกบตัวไว้เกือบหมดแล้ว เพื่อรอหมายจับนำตัวมาดำเนินคดี

พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวน ภ.8 กล่าวว่า การออกหมายค้นที่บ้าน “เจ๊อ้วน” ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนทราบว่า บ้านหลังนี้เป็นจุดเกิดเหตุอุ้มฆ่า “โกมาส” สามี “เจ๊อ้วน” ซึ่งก็ได้หลักฐานสำคัญหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีและศพที่ถูกนำไปฝัง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จะต้องออกหมายจับก็ยังมีอีกหลายคนซึ่งจะมีอีกกี่คนนั้นต้องรอดูต่อไป

ด้านนายสำราญ สมหวัง พี่ชาย “โกหมาส” กล่าวว่าตนนั้นสงสัยเจ๊อ้วนตั้งแต่วันแรกที่น้องชายตนหายไป จนมาถึงวนนี้ตนมั่นใจ 100 % แล้ว ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนศพฆ่าฝังดินที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่ตนไปดูเมื่อวานนั้นตนยืนยันว่าเป็นศพ “โกหมาส” น้องชายตนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ยังนำศพกลับมาทำบุญที่ จ.ชุมพร ไม่ได้ เนื่องยังต้องรอเก็บหลักฐานจากศพอีกหลายอย่าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภ.8 แถลงปิดคดีอุ้มฆ่าฝังอำพรางศพ 'เสี่ยบ่อนไก่ชุมพร' จับได้ทั้งแก๊ง

ผบช.ภ.8 แถลง ปิดคดี “โกหมาด” เสียบ่อนไก่ชุมพร ได้ทั้งแก๊งอุ้มฆ่า แก๊งค้ารถเถื่อนข้ามชาติ เผย “สมชัย” หัวหน้าทีม หลังก่อเหตุโหดอุ้มฆ่าฝังอำพรางศพ ยังขับรถผู้ตายด้วยตนเองไปส่งมอบขายให้กับแก๊งค้ารถเถื่อนข้ามชาติที่กรุงเทพฯ ราคา 4.5 แสน แล้วนั่งเครื่องบินกลับบ้านที่นครศรธรรมราช

ตร.ไซเบอร์ บุกรวบ 'เจ๊จ๋า' เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหดร้อยละ 4 ต่อวัน ครอบครองอาวุธปืน

“ลูกหนี้ “ร้องตำรวจไซเบอร์บุกจับ “เจ้จ๋า” เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด ร้อยละ 4 บาทต่อวัน 120 บาทต่อเดือน พร้อมยึดหลักฐานรายชื่อลูกหนี้เพียบ

ฝากขัง 'เจ๊อ้วน' จ้างวานอุ้มฆ่าผัว ฝังอำพรางศพ ยอมรับฟิวส์ขาดโดนขู่ฆ่าก่อน

ความคืบหน้ากรณี ตำรวจจับกุม นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ “เจ้อ้วน” บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร จ้างวาน นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี กับพวกอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 65 ปี

รวบผู้ต้องหาสำคัญตามหมายจับ หลังก่อเหตุฆ่าโหดแล้วหนีกบดานที่ชุมพร นานกว่า 5 ปี

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.ชนฤกดิ พงศ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช, พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.

ทุเรียนสร้างรายได้หลักให้จังหวัดชุมพร ปีละกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น 17%

นายสุบรรณ์ รักษ์ทอง เกษตรจังหวัดชุมพร กล่าวว่าจังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกทุเรียนเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ โดยในปี 2566 ทุเรียนเป็นเศรษฐกิจหลักสร้างรายได้ให้จังหวัดชุมพร ไม่น้อยกว่า 32,000 ล้านบาท จุดเด่นที่สำคัญของทุเรียนจังหวัดชุมพร