เผาแล้ว หนุ่มโรงงานถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินจนเป็นหนี้สินหลายทาง คิดสั้นฆ่าตัวตาย ด้านภรรยาวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้มาดำเนินคดี หลังส่งข้อความเยาะเย้ยสามีว่าเพราะความโลภ ทั้งที่สามีต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวจนต้องแอบไปกู้หนี้ยืมสินหวังหาเงินไปทำงานต่างประเทศ
17 ม.ค.2566 - จากกรณีนาย อัฐวุฒิ ผมเพ็ชร ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นผูกคอเสียชีวิต ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบนั้นไม่มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกายและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่เมื่อเปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบข้อความแชทในการขอกู้ยืมเงินจากแอปเงินกู้ ในช่วงเวลา 13.00น. ของวันที่ 13 ม.ค. โดยใช้ชื่อ " แอปลิ้ง online loan Thailand" ซึ่งได้ติดต่อขอกู้เงินจำนวน 50,000 บาท ส่งงวดรวม 48 งวด พร้อมข้อความแชทที่แอดมินคอลเซ็นเตอร์แหล่งเงินกู้นอกระบบแชทเยาะเย้ยผู้ตาย ก่อนที่ภรรยาและญาติๆจะนำศพผู้ตายมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิด ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ ที่วัดคุ้มจัดสรร(หลวงปู่นิล) ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นางภัทรพร อายุ 35 ปี ชาว ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ภรรยานายอัฐวุฒิ ผมเพชร อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิตผูกคอตายที่ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมครอบครัวและญาติได้ ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ผู้ตายภายในศาลาตั้งศพ ก่อนจะเคลื่อนศพมาที่เมรุ เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า น้องสาวผู้ตายที่ถือรูปผู้ตายเดินนำร้องไห้ระงม ญาติๆต้องพาออกนอกงานเพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายไปสู่สุขติโดยไม่ห่วงตามความเชื่อ รวมทั้งภรรยาผู้ตายพร้อมญาติๆนำมะพร้าวมะล้างหน้าศพ และพูดกับผู้ตายให้หมดห่วงก่อนที่พระสงฆ์จะจุดไฟประชุมเพลิงทันที
นางภัทรพร กล่าวว่า ได้แต่งงานกันได้ 1 ปีพอดี และวันที่สามีเสียชีวิตเป็นวันคล้ายวันเกิดคือวันคล้ายวันเกิดของผู้ตายคือวันที่ 13 ม.ค.2566ซึ่งสาเหตุของการคิดสั้นนั้น เกิดจากการที่ถูกแกงค์คอลเซนเตอร์หลอกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ม.ค. โดยได้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบสามี จึงเดินตามหาภายบริเวณในบ้านก็ไม่พบจึงออกมาดูบริเวณด้านหลังบ้านพบสามีในสภาพใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิต จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แปลงยาว เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบนั้นไม่มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกายและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่เมื่อเปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือของสามี พบข้อความแชทในการขอกู้ยืมเงินจากแอปเงินกู้ ในช่วงเวลา 13.00น. ของวันที่ 13 ม.ค. 2566 โดยใช้ชื่อ แอปลิ้ง " online loan Thailand" ซึ่งสามี ได้ติดต่อขอกู้เงินจำนวน 50,000 บาท ส่งงวดรวม 48 งวด โดยทางแอปได้เสนอให้ส่งสลิปเงินเดือนเพื่อให้ทางบริษัทพิจารณาในการปล่อยกู้ แล้วสามีก็ได้ทำตามขั้นตอนทั้งหมด ต่อมาทางบริษัทเงินกู้ได้แจ้งมาว่าได้ผ่านการอนุมัติการกู้จะได้เงินเข้าระบบ โดยที่จะต้องทำการดาวโหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นและแข้งเงื่อนไขในการกู้ยืม สุดท้ายได้แจ้งผ่านข้อความว่าจะต้องนำเงินจำนวน 6,728 บาท มาโอนเข้าระบบพร้อมได้ส่งเลขบัญชี มาให้เพื่อให้โอนเงิน ช่วงนั้นสามีจึงพยายามหาเงินจำนวน 6,728 บาทเพื่อหวังจะได้เงินกู้ สุดท้ายได้ยืมจากเพื่อนในโรงงานมาโอนและยังบอกเพื่อนว่ายืมมาเพียง 5 นาที จะโอนคืน
" เมื่อโอนเงินไปแล้วทางแอปได้โอนงวดแรกกลับมาทันมีเพื่อให้สามีตายใจ และเมื่อได้เงินคืนมาสามีจึงรีบนำเงินไปคืนเพื่อนที่ยืมมาทันที แต่เงินที่ทำการกู้ไปจำนวน 50,000 บาทนั้น ยังไม่ได้เต็มจำนวน จากนั้นไม่นานทางแอปได้แจ้งกลับมาอีกว่า ได้ใส่รหัสผิดให้ทำการหาเงินมาใส่ระบบใหม่อีก 8,999.27 บาท แต่สามีไม่สามารถที่จะหามาได้ตามจำนวน จึงมีการหลอกล่อให้หาเงินมาโอนอีก 7,000 บาท ส่วนที่เหลือแอดมินแอปจะออกให้ก่อนเมื่อได้เงินกู้แล้วค่อยโอนมาใช้คืน สามีจึงหลงเชื่อจึงได้ไปขอยืมเพื่อนมาอีกครั้งและทำการโอนไปยังบัญชีเดิม จากนั้นผ่านไปประมาณ 30 นาที แอดมินแอปได้ทำการแจ้งมาว่าบัญชีถูกระงับเนื่องจากทำผิดกฎ จึงต้องสร้างบัญชีใหม่แต่ยอดเงินยังอยู่ โดยช่วงเวลานี้คาดว่าสามีอาจจะได้รับความกดดันจากการไปยืมเงินเพื่อนมาและยังไม่สามารถที่จะนำไปคืนได้ ส่วนเงินที่ทำเรื่องกู้ไปก็ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ จึงเกิดความเครียด ซึ่งข้อความสุดท้ายที่มีการคุยกับแอดมินแอปนั้น เป็นเวลา 20.07 น. ของคืนวันที่ 13 ม.ค. แต่ตนมาพบศพสามีเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 14 ม.ค. โดยเมื่อช่วง 11.04 น.วันที่ 14 ม.ค. ทางแอดมินแอปยังทักเข้ามายังโทรศัพท์ ของสามี ซึ่งเป็นเวลาที่สามีเสียชีวิตแล้ว"
น.ส.ภัทราพร กล่าวต่ออีกว่า ทางแอปพยายามติดต่อมา แต่ตนยังไม่ได้รับสาย เพราะช่วงนั้นกำลังเตรียมการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ จนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามาอีกครั้ง ตนจึงบอกไปว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ซึ่งปลายสายบอกว่าจะรับผิดชอบโอนเงินคืนพร้อมส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ แต่ตนไม่ขอรับเพราะตอนนี้สามีเสียชีวิตไปแล้ว อะไรก็ทดแทนไม่ได้ แค่อยากฝากข้อความกลับไปให้รู้สึกสำนึกว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของขบวนการคอลเซนเตอร์ หรือคนที่มาหลอกในเคสนี้ กลุ่มคนกลุ่มนี้จะรู้สึกอย่างไร
"สามีจะลบแชท LINE ออกตลอดเพราะว่าแอบไปทำการกู้เงินกับพวก มิจฉาชีพเหล่านี้เองโดยที่ตนเองไม่รู้เพราะว่าตนเองเคยเตือนไปแล้วว่าอย่าไปยุ่งเพราะมันคือมิจฉาชีพอย่างแน่นอนไม่มีใครมาเอาข้อมูลเราด้วยการให้ถ่ายภาพคู่กับบัตรประชาชน แต่ด้วยความที่สามีต้องการให้ครอบครัวสุขสบายอยากหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวตั้งใจจะไปทำงานต่างประเทศโดยเคยคุยกันก่อนหน้านี้ว่าอยากจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ก็เกาหลีเพื่อหาเงินมามากๆ เพราะเจ้าตัวบอกว่าจะหาเงินมาเองและรับปากว่าจะไม่ไปกู้ยืมผ่านพวกแอพพลิเคชั่นต่างๆหรือพวกคอลเซ็นเตอร์จะเป็นมิจฉาชีพทำแอพพลิเคชั่นปลอมขึ้นมาหลอกเอาข้อมูลไปแล้วดูดเงินจากในธนาคารไปจนเกลี้ยงก่อนจะใช้อุบายต้องจ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้เพื่อปลดล็อคบัญชีเพื่อสมัครบัญชีใหม่เพราะว่าทำผิดกฎซึ่งก็เป็นอุบายที่มิจฉาชีพเหล่านี้หลอกขึ้นมาทั้งหมด แต่สุดท้ายสามีก็ไปแอบทำโดยที่ตนเองไม่รู้แอบทำตอนที่ตนเองหลับแล้วก็จะลบแชทออกตลอดซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนมากที่สามีไปยืมเงินมาให้มิจฉาชีพเหล่านี้หรอกเอาไป"
นางภัทรพร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอฝากเตือนทุกทุกคนอย่าไปหลงเชื่ออย่าบอกข้อมูลต่างๆเหล่านี้ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพหรือบุคคลที่ไม่รู้จักโดยเด็ดขาดเพราะไม่มีหน่วยงานไหนหรือแหล่งเงินกู้ที่ไหนที่จะ ให้เราถ่ายภาพคู่กับบัตรประชาชนหรือเซนต์ข้อความต่างๆเพื่อให้ถูกหลอกเอาข้อมูลไปทำการโจรกรรมเงินจากบัญชีออนไลน์จนเกลี้ยงและอยากจะขอความเป็นธรรมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือช่วยจับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ถูกหลอกและมีอีกหลายคนที่คิดสั้นที่จะฆ่าตัวตายเหมือนกับสามีของตนเองตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องขอความช่วยเหลือ แบบไหนหรือต้องไปหาใครเพราะมีเพียงเพื่อนเพื่อนและครอบครัวที่ให้กำลังใจและต้องการอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปธ.หอการค้าขอนแก่น เผยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องไม่เกิน 10% ลดผลกระทบค่าครองชีพ
นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
โถ!กระทรวงดิจิทัลฯ ไร้ของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
'ดีอีเอส' เร่งพัฒนาแอปพลิเคชัน Defend แจ้งเตือนมิจฉาชีพ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คาดใช้ได้หลังปีใหม่
ส่องความน่ารักสัตว์นานาชนิด ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าขอนแก่น
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 4 ขอนแก่น ชวนเที่ยวชมสัตว์น่ารักช่วงสุดสัปดาห์" พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้สัตว์ป่าที่น่าสนใจ
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน