ลำปางฝุ่นมาก! ผู้ว่าฯ สั่งเร่งฉีดน้ำแก้ไข

อธิบดี ปภ.เรียกประชุมด่วน หลังค่า PM 2.5 ในหายจังหวัดพุ่งไม่หยุด ขณะที่ลำปางพุ่งเกือบ 200 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เริ่มแสบจมูก คอ ตา ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหา

15 ก.พ.2566 - ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดลำปาง (วอร์รูม) นายชนาธิป เสมแย้ม รอง ผวจ.ลำปาง เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า พร้อมทั้งได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกันทุกจังหวัดโดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธาน เพื่อรายงานสถานการณ์ การดำเนิน ผลการดำเนินงานและปัญหา อุปสรรค และ แผนการดำเนินงานหลังจากนี้

สำหรับจังหวัดลำปางสถานการณ์หมอกควันเนื่องมาจากการเผาไหม้ในพื้นที่ป่ายังคงวิกฤติ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 วันนี้วัดค่าได้สูงสุด 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานในระดับสูงกว่า เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ส่งให้สภาพอากาศทั่วไปที่มองด้วยตาเปล่าเห็นเป็นหมอกควันที่เทา มองไม่เห็นภูเขา และประชาชนเริ่มแสบจมูก แสบคอ แสบตา ขณะที่ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ.66 มีค่าเกินค่ามาตรฐานแล้ว 21 วัน และระหว่าง 14-15 ก.พ. มีจุดความร้อน จำนวน 133 จุด มากที่สุดคือ 1.แม่พริก 30 จุด 2.เถิน 29 จุด 3.งาว 18 จุด 4.แจ้ห่ม 16 จุด และ 5.เมืองลำปาง 9 จุด

โดยอธิบดี ปภ.ได้เน้นย้ำให้แต่ละจังหวัดดำเนินการแผนและเพิ่มความเข้มข้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว คือ หากค่าPM2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐานก็ดำเนินการปกติ หากเกิน 51-75 ให้ดำเนินการให้เข้มงวดขึ้น และ หากเกิน 76-100 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยให้ใช้อำนาจตามหน้าที่ในการควบคุมแหล่งกำเนิด ควบคุมพื้นที่และกิจกรรม หากเกิน 100 ให้แต่ละจังหวัดเสนอมาตรการ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจาณาสั่งการต่อไป และทั้งนี้ขอให้แต่ละจังหวัดและมีศักยภาพควรพิจารณากระจายติดเครื่องวัดอากาศขนาดเล็ก เพื่อให้การวัดไปในจุดต่างๆมีความแม่นยำมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องต่อการพิจารณาสั่งการ

สำหรับการดำเนินงานของจังหวัดลำปางนอกจากจะมีการประชุมศูนย์วอร์รูมติดตามปัญหาที่เกิดขึ้น 3 วันต่อสัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟทั้งในพื้นที่และในภาคอื่นที่นำกำลังมาสมทบได้กระจายกำลังออกดับไฟในแต่พื้นที่ซึ่งมีกระจายทั้ง 13 อำเภอในแต่ละวัน ส่วนที่เหลือลงพื้นที่ทำแนวกันไฟในจุดเสี่ยง และ อปท.แต่ละพื้นที่ได้ช่วยกันใช้รถดับเพลังบรรทุกน้ำฉีดพ่นตามถนนสาธารณะเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง