ขีดเส้นรัฐบาลเศรษฐา ‘ปิดเหมืองเกลือกาลี’ ขจัดมรดกบาปเพื่อไทย

ชาวบ้านด่านขุนทด เขย่าสำนึกรัฐบาลเศรษฐา ปืดเหมืองโปแตชด่านขุนทดทันที พร้อมผุดแผนฟื้นฟูยั่งยืน หลังทำลายชีวิต – สิ่งแวดล้อมชาวบ้านพังพินาศ แถมหน่วยงานรัฐง่อยเปลี้ย โยนภาระรับผิดชอบ สุดอัปยศลักไก่ขุดอุโมงค์แห่งใหม่ – ทำโรงงานผลิตเกลือไม่ขออนุญาต

28 ม.ค.2567 – ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว กลุ่มประชาชนในนาม ฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้รวมพลังต่อต้านปิดเหมืองโปแตชด่านขุนทด ร่วมกันทำกิจกรรมหยุดเหมือง ที่หน้าเหมืองโปแตซ บริษัทไทยคาลิ จำกัด ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา  โดยมีการตั้งขบวนที่วัดหนองไทร พร้อมกิจกรรมแสดงออก แห่โลงศพที่เขียนข้อความนายไทคาลิ จำกัด ชาตะ 2558 มรณะ 2567 นอกจากนี้ยังป้ายผ้าคัดค้านการทำเหมืองที่อาทิ “กินโปรตีนไม่กินโปแตช”  “กูกินข้าวกูบ่อกินเกลือ” “แผ่นดินย่าโมไม่เอาโปแตช”  รวมทั้งมีการเข้าไปกราบศาลหลวงพ่อซำภู เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนการชุมนุมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วย กลุ่มชาวบ้านได้มีการแห่ขบวนมาที่หน้าบริษัท พร้อมกับการตั้งเต้นท์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด

จากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันทำพิธีกรรมสาปแช่งผู้สร้างผลกระทบ รวมทั้งทำพิธีฌาปนกิจรัฐบาลเกลือ พร้อมมีการเผารูปนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม รวมทั้งรูปของเจ้าของบริษัท ไทยคาลิ  พร้อมด้วยการประณามเรียกเหมืองกาลี  ทำลายสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตชาวบ้านพังพินาศ เป็นระยะๆ  นอกจากนี้ยังมีการนำเกลือจากผิวดินที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง มาโรยบนถนน เรียงเป็นข้อความ “ปิดเหมืองไทยคาลิ”ด้วย  รวมทั้งกิจกรรมแสดงละครสะท้อนปัญหาการแก้ไขปัญหาเหมืองของนายกรัฐมนตรี

นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส จากการทำเหมืองแร่โปแตซ ล่าสุดทางบริษัทกำลังดำเนินการขุดอุโมงค์แห่งใหม่บริเวณดอนหนองโพธิ์ ซึ่งไม่ไกลนักจากที่นี่ ซึ่งแน่นอนว่า จะสร้างผลกระทบต่อพี่น้องในพื้นที่ระยะยาว โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตร ที่นอกจากดินจะเค็มและเกิดผลึกเกลือแล้ว น้ำประปา น้ำบาดาลก็เค็ม อย่างน้ำประปา ชาวบ้านไม่มีทางเลือกทำให้ต้องจ่ายแพงขึ้นถึงหน่วยละ 25 บาทจากที่เคยจ่ายเพียงหน่วยละ 10 บาท

 “เหมืองแร่โปแตชของบริษัทคาลิ ได้ประทานบัตรมาตั้งแต่ปี 2558 มีการเดินหน้าทำเหมืองมาถึงปัจจุบัน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน อย่างการขุดอุโมงค์หาแร่ ก็เจอน้ำทะลักท่วมพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้าน เกิดเป็นผลึกเกลือบนผิวดิน และน้ำใต้ดินก็มีความเค็ม ทางบริษัทพยายามกลบเกลื่อนด้วยการนำดินมาถม ถมเท่าไหร่คราบเกลือก็เกิดขึ้นอีกสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างแสนสาหัส ” นายเลิศศักดิ์ ระบุ

นายเลิศศักดิ์ กล่าวด้วยว่า แทนที่บริษัทไทยคาลิจะหยุดสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน กลับสร้างโรงงานโดยเอาคราบเกลือที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน นำมาต้มอ้างเพื่อทำเป็นเกลือบริสุทธิ์ และมีการอ้างว่า นำเกลือจากที่อื่นมาต้ม ถือเป็นการเลี่ยงบาลี เพราะหากดูในพ.ร.บ.แร่ฯ ปี 2560 เกลือที่ได้จากเหมืองแร่ต้องไปขออนุญาต ถือเป็นการโกหก ไม่อยู่ในองค์ประกอบของการทำเหมืองแร่

“ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ แทนที่ภาครัฐ หน่วยงานราชการ จะหามาตรการแก้ไข หรือหาสาเหตุ กลับนิ่งเงียบไม่เคยแยแส  ทั้งนี้การแก้ปัญหาเรื่องการทำเหมืองแร่โปแตช จะพูดแค่การแก้ไขความเสียหายไม่ได้อีกแล้ว ต้องพูดถึงการฟื้นฟูความเป็นอยู่ของชาวบ้านว่าจะทำอย่างไร ฉะนั้นข้อเดียวที่เราต้องการ คือ ต้องมีการปิดเหมืองก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยเรื่องการฟื้นฟูกัน ถ้าพูดตกลงเรื่องการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนไม่ได้ก็ควรจะปิดเหมืองแบบถาวรไปเลย ถ้านายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่มาดูความเดือดร้อนของชาวบ้านที่นี่ ขั้นต่อไป เรามีความจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุมต่อไป ” นายเลิศศักดิ์ ระบุ

ขณะที่ น.ส. จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ กล่าวว่า ผลกระทบตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว แม้ผลกระทบนี้ จะกระจายไปเพียง 2 กิโลเมตร ยังพอมีการฟื้นฟูได้ หากปล่อยให้เนิ่นนานกว่านี้ การฟื้นฟูก็จะลำบากและขยายเป็นวงกว้าง เราต้องร่วมมือกันหยุดแหล่งกำเนิดนี้ โดยเฉพาะเหมืองโปแตช เรื่องผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ หากภาครัฐยังนิ่งเฉย เห็นแก่เม็ดเงินลงทุน โดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ทางเราจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุม มุ่งสู้ถนนมิตรภาพต่อไป

นายเสถียร มินขุนทด กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กล่าวว่า ที่เรามาเพราะเดือดร้อนเรื่องน้ำ น้ำมีความเค็มโดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 6 ,หมู่ 13 และยิ่งจะมีการขุดอุโมงค์ที่ใหม่ที่ดอนหนองโพธิ์ซึ่งจะกระทบเราแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเรามีแหล่งน้ำเป็นแหล่งเดียวในพื้นที่ หลายคนบอกว่า การที่เหมืองไปขุดอุโมงค์พื้นที่อื่นเป็นเรื่องไกลตัว ยืนยันว่าใกล้ตัวและเราก็จะได้ผลกระทบโดยตรง เพราะน้ำที่ทำเหมืองจะไหลท่วมพื้นที่นาเรา ไหลลงแหล่งน้ำเราเกิดเป็นความเค็ม เราก็จะปลูกพืชผลทางการเกษตรไม่ได้

” ที่เรามาเรียกร้อง เราไม่ต้องการซื้อน้ำประปาใช้ต่อหน่วยที่แพงถึง 25 บาท เราอยู่ในพื้นที่มาเป็นร้อยปี แต่เหมืองอยู่ในพื้นที่มาไม่ถึง10ปี ทำให้แหล่งน้ำของเราได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส สิ่งที่เราเรียกร้องอยากให้เหมืองรับรู้ถึงปัญหา ไม่ใช่ทำตัวลอยตัวไม่แสดงความรับผิดชอบแบบนี้ ถ้ายังไม่แสดงความรับผิดชอบ ตระหนักถึงปัญหา อยากให้มีการปิดเหมืองหยุดกิจการไปจะดีที่สุด” นายเสถียร ระบุ 

น.ส.เดือนรุ่ง มูลขุนทด กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านชุนทด กล่าวว่า การที่บริษัทจะมีการขุดอุโมงค์ใหม่ที่ดอนหนองโพธิ์ ขอย้ำว่าของเก่ายังไม่มีการแก้ไข จะยังดื้อด้านที่จะทำอีก ที่เรามาในวันนี้ก็มาเพื่อเปิดหน้าสู้ แต่ในทางกลับกัน ทางบริษัทกลับไม่อยากเผชิญหน้ากับพวกเรา อยากให้มีการพูดกันตรงๆว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างไร จะมีการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างไร ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของเราไม่มีใครจ้างมา เรามาด้วยใจเนื่องจากเราได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส ที่เรามาก็เพื่อรักษาแผ่นดินเกิด อยากให้แหล่งน้ำกลับสู่สภาพเดิม ส่งต่อไปยังลูกหลานมีน้ำใช้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน

น.ส.กมล ประณีตพลกรัง กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กล่าวว่า การที่ทางบริษัท พร่ำพูดเสมอถึงโครงการปุ๋ยการเกษตร เรื่องทำให้คนมีงานทำ และสร้างงาน ยืนยันว่า เป็นเรื่องโกหก ซึ่งข้อเท็จจริง ทำให้คนในพื้นที่มีงานทำน้อยมาก นับได้ประมาณ 20 คนเท่านั้น เงินเดือนก็หลักหมื่น เท่านั้น นับตั้งแต่เหมืองมาตั้งความยั่งยืนทางอาชีพเราหดหาย อ้อย มัน ที่เคยปลูกแล้วออกดอกออกผลสร้างรายได้ ปัจจุบันนี้ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะดินมันเค็ม รายได้ก็หดหาย สร้างความเดือดร้อนในอาชีพของเราอย่างแสนสาหัส

น.ส.สำราญ ตุ๋นเจริญ กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กล่าวว่า ตั้งแต่เราเคลื่อนไหวเรื่องเหมืองสร้างความเดือดร้อนเราถูกข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด ล่าสุด ทางบริษัทมีการนำดินเค็มมาถมที่วัด เพื่อหวังทำบุญปิดบังความชั่วร้ายที่ทำกับเรา เราก็พยายามเข้าพื้นที่ เพื่อคัดค้านและบอกถึงปัญหา การที่เอาดินเค็มมาถมทับอีกนั้นมีแต่สร้างปัญหา ยิ่งทำให้ดินเค็มขึ้น และยิ่งหากมีฝนตกหนัก ความเค็มก็จะกระจายไปยังพื้นที่อื่นอีก แต่กลับถูกมวลชนสัมพันธ์ของบริษัทมาข่มขู่คุกคาม จนเราทนไม่ไหวต้องไปลงบันทึกประจำวันต่อตำรวจไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ระบุ ต้องปิดเหมืองไทยคาลิทันที มิเช่นนั้น มาตรการต่อไปลงสู่ถนนมิตรภาพ  โดยระบุด้วยว่า ปี 2545 รัฐบาลทักษิณประกาศใช้กฎหมายแร่ที่ปรับแก้ให้มีหมวดเหมืองแร่ใต้ดินเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อมุ่งสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการทำเหมืองโปแตชใต้ดินในภาคอีสานโดยเฉพาะ โดยเนื้อหาสาระสำคัญของการปรับแก้ก็เพื่อละเมิดแดนกรรมสิทธิ์ผืนแผ่นดินของประชาชน ที่ระดับต่ำกว่าร้อยเมตรลงไปจากผิวดินก็ให้เหมืองโปแตชสามารถชอนไชไปอย่างไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน

ปี 2557 รัฐบาลยิ่งลักษณ์หารือทวิภาคีเต็มคณะกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อเชิญชวนให้รัฐบาลและเอกชนจากจีนเข้ามาลงทุนทำเหมืองแร่โปแตชในไทย จนนำไปสู่การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่โปแตชให้บริษัทไชน่า หมิ๋งตา โปแตช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ ในท้องที่หลายตำบลของ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร  รวมถึงมีบริษัทจากจีนอีกหลายรายเข้ามาขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่โปแตชหลายจังหวัดในภาคอีสาน  รวมพื้นที่หลายล้านไร่

ปี 2566 รัฐบาลเศรษฐาเร่งให้เหมืองโปแตชที่ได้รับประทานบัตรแล้วทั้งสามแห่งเปิดดำเนินการ มิเช่นนั้นจะหาผู้รับประมูลรายใหม่เข้ามาดำเนินการแทน

นี่คือกระบวนการต่อเนื่องของพรรคเพื่อไทย (พรรคไทยรักไทยเดิม) ถึงแม้ว่าเหมืองโปแตชทั้งสามแห่งจะได้รับประทานบัตรในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหารประยุทธ์ก็ตาม แต่แทนที่รัฐบาลพลเรือนโดยเพื่อไทยจะมีมุมมองหรือทัศนคติว่าด้วยการพัฒนาที่แตกต่างจากรัฐบาลเผด็จการทหาร กลับมีวิธีคิดที่เหมือนกัน มองเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา โดยไม่แยแสว่าผืนแผ่นดินอีสานที่ได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองโปแตชนั้นมีผู้คนดำรงวิถีชีวิตอยู่

ทั้งนี้เหมืองโปแตชด่านขุนทดของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ถือว่าเป็นเหมืองโปแตชที่ได้รับประทานบัตรแห่งแรกที่ดำเนินการทำเหมืองแล้วมาตั้งแต่ปี 2558 ทำการขุดเจาะอุโมงค์เพื่อเข้าไปเอาแร่โปแตชเสียจนน้ำใต้ดินทะลักท่วม คนงานต้องหนีตาย สุดท้ายก็ปล่อยให้น้ำใต้ดินทะลักขึ้นสู่ผิวดิน ไหลท่วมไร่นา บ้านเรือน ห้วยน้ำลำคลอง เสียจนสร้างผลกระทบอย่างรุนแรง จนผืนดินหลายแห่งรอบเขตเหมืองแร่และน้ำในคลองลำมะหลอดหลายจุดมีความเค็มกว่าระดับน้ำทะเล

แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานราชการและบริษัทเอง ดำเนินการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของพี่น้องชาวบ้านเพียงเพื่อให้เหมืองดำเนินการต่อไปได้  แทนที่จะดำเนินการเอาผิดตามข้อกฎหมายโดยสั่งยุติการทำเหมืองเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาและผลกระทบให้ดีเสียก่อน

จากความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นของนายวุฒิชัย สงวนวงศ์ชัย เจ้าของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง กับพรรคเพื่อไทย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยยืนอยู่ข้างเหมืองโปแตชไทยคาลิอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู  หน่วยงานราชการทุกระดับและบริษัทฯเองก็อาศัยข้อสั่งการของนายเศรษฐา ที่เร่งให้เปิดเหมืองโปแตชดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งรัดเพื่อให้บริษัทฯทำการขุดเจาะอุโมงค์แห่งใหม่ที่ดอนหนองโพธิ์ โดยใช้วัตถุระเบิดทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1,500 กิโลกรัม ในพื้นที่เกษตรกรรม ในท้องที่ ต.หนองบัวตะเกียด ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  โดยไม่สนใจแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นจากการขุดเจาะอุโมงค์แห่งแรกในท้องที่ ต.หนองไทร ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ขอเรียกร้อง ต่อรัฐบาลเศรษฐา ดังนี้  1. บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ต้องหยุดดำเนินการทำเหมืองและโรงงานผลิตเกลือโดยทันที  2. ให้ทำการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองของบริษัทฯอย่างเร่งด่วน  3. ให้ดำเนินการเอาผิดตามข้อกฎหมายอย่างรุนแรงที่สุดต่อบริษัทฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  มิเช่นนั้นแล้ว มาตรการต่อไป พวกเรากลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดจะยกระดับการต่อสู้โดยมุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เหยื่อ 'แก๊งนักรบ' โผล่อีก! ผู้บังคับบัญชาพาพลทหารมอบตัวแล้ว

จากกรณีที่นายวิ่งและนางสาวกุลนันท์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายระพีพัฒน์ หรือแพต อายุ 16 ปี ได้นำคลิปหลักฐานขณะลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกาย

แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่