
'เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี' ทำโครงการผสมเทียมสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สายพันธุ์ที่สำคัญและหายากตามบัญชี IUCN/SEAZA ก่อนไม่มีให้เห็น
21 ม.ค.2565- สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แจ้งว่า ได้มีการเดินหน้าทำโครงการผสมเทียม (AI-Artificial Insemination) สัตว์ป่า เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าที่สำคัญและหายาก โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล ในด้านการวิจัยตามยุทธศาสตร์ในการจัดการประชากรของสายพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อย่างยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์
โดยนายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นหนึ่งในแหล่งที่ดูแล รวบรวมสายพันธุ์ของสัตว์ป่าที่สำคัญและหายากไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งพันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งในระดับนานาชาติได้มีการศึกษาวิจัย เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าเหล่านี้อยู่หลายหน่วยงาน เช่น WAZA (The world zoo and aquarium association) ได้กำหนดหน้าที่ของสมาชิกสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในระดับโลก ให้ตระหนักถึงการรับผิดชอบต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยให้การสนับสนุนความรู้ด้านการวิจัยเพื่อการอนุรักษ์เชิงบูรณาการอย่างยั่งยืน ตามรายชื่อในบัญชีแดงของ IUCN (IUCN Red list) หรือ SEAZA (South East Asian Zoo Association) โดยมีเป้าหมายในการจัดการประชากรของสายพันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของภูมิภาคในสวนสัตว์อย่างยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์
นายสายสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนสัตว์ป่าหลายชนิดที่มีการลดลงอย่างต่อเนื่องในธรรมชาติ เช่น เสือปลา กวางผา เลียงผา เสือดำ/ เสือดาว หมีหมา หมีควาย กระทิง วัวแดง สุนัขจิ้งจอกสีทอง หมาไน ฯลฯ อันเนื่องมาจากมีการบุกรุกของมนุษย์ จึงทำให้จำนวนของสัตว์ป่าบางชนิดมีแนวโน้มที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ดังนั้นจึงได้มีการคิดค้นวิธีการที่จะช่วยอนุรักษ์พันธุ์ของสัตว์เหล่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป โดยใช้วิธีที่เรียกว่า “เทคโนโลยีช่วยสืบพันธุ์ในสัตว์ป่าหายาก” (Assisted reproductive technology for endangered species) ซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น การตรวจฮอร์โมน การตรวจ DNA การทำน้ำเชื้อแช่แข็ง เซลล์ต้นกำเนิดแช่แข็ง วิธีการเหนี่ยวนำการตกไข่ และการผสมเทียม
ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพเชียงใหม่ เลือกทำการวิจัยทางด้านการรีดน้ำเชื้อ การตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ การทำน้ำเชื้อแช่แข็งและการผสมเทียม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ทั่วโลก มีความปลอดภัยสูงต่อสัตว์และสามารถพัฒนาสายพันธุ์ให้คงอยู่ได้อย่างสมดุลในธรรมชาติ ซึ่งนำไปสู่การดำเนินโครงการผสมเทียม (AI-Artificial Insemination) สัตว์ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ที่เป็นโครงการต่อเนื่องในการวิจัยและอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าหายากของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อไป



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใจละลาย! รัฐบาลชวนชม 'น้องเอวา' เสือโคร่งสีทอง แห่ง ไนท์ซาฟารี
รัฐบาลเชิญชวนนักท่องเที่ยวชมความน่ารัก “น้องเอวา” เสือโคร่งสีทอง แห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปลุกกระแส Soft Power จากธรรมชาติของสวนสัตว์ไทย
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นำขบวนพาเหรดสัตว์ร่วมพิธีรดน้ำดำหัว สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สร้างสีสันรับวันสงกรานต์ 2567 นำขบวนพาเหรดสัตว์ร่วมพิธีรดน้ำดำหัว สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง
เปิดตัว 'น้องหน้าขาว' หมีควาย ตัวตึงหนึ่งเดียวแห่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดตัว “น้องหน้าขาว” หมีควายตัวตึงหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ จนเป็นที่มาที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาตามหาและมาดูความน่ารักกันอย่างล้นหลาม
ครั้งแรกกำเนิดรุ่นหลาน 'กระเรียนพันธุ์ไทย' หลังปล่อยรุ่นลูกคืนสู่ธรรมชาติ
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากการติดตามของคณะเจ้าหน้าที่ ได้พบนกกระเรียนพันธุ์ไทย
อย่าให้สูญพันธุ์ 6 องค์กร ร่วมด้วยช่วยกัน เพิ่ม 'เสือโคร่ง' ผืนป่าตะวันตก
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) เปิดเผยเมื่อ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ตามนโยบาย ทส.เป็นหนึ่งเดียว และทส.ยกกำลังX ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พบ 'จระเข้น้ำจืด' สายพันธุ์ไทยต้นแม่น้ำเพชร สะท้อนป่าแก่งกระจานสมบูรณ์มากขึ้น
นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 - 22 มกราคม 65ที่ผ่านมา ฝ่ายศึกษาและวิจัย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย


