ผู้เชี่ยวชาญเตือน อันตรายสารโลหะหนักในปลาแม่น้ำกก แม้ไม่เกินค่ามาตรฐานแต่สะสมได้

2 ผู้เชี่ยวชาญเตือนอันตรายสารโลหะหนักในปลาแม่น้ำกก แม้ไม่เกินค่ามาตรฐานแต่สะสมได้ หากกินปลาอย่างต่อเนื่อง หวั่นสารปรอททำหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงลูกพัฒนาการช้า แนะตรวจเข้มหลายๆจุด

26 เมษายน 2568 - สมพร เพ็งค่ำ นักวิจัยอิสระและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภายโดยชุมชน ( Community Health Impact Assessment Platform หรือCHIA Platform) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจปลาแม่น้ำกกซึ่งสำนักงานประมงจังหวัดเชียงรายแจ้งว่าไม่มีสารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน ว่ายังมีข้อน่ากังวลคือการพบสารปรอท 0.09 mg/kg ถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติและมีความเสี่ยง เนื่องจากในปลาไม่ควรมีสารปรอท แต่เมื่อแม่น้ำกกและแม่น้ำสายมีความเสี่ยงเนื่องจากต้นน้ำมีการทำเหมืองทอง ซึ่งมีโอกาสในการปล่อยสารโลหะหนักและมลพิษลงสู่ระบบนิเวศ เมื่อตรวจห่วงโซ่อาหาร คือปลา แล้วเจอปรอท การพบจะกลายเป็นปรอทอินทรีย์ ซึ่งมีความเป็นพิษสูง แม้มีค่าไม่เกินค่ามาตรฐาน

“เรายังไม่รู้ข้อมูลว่าปลาที่นำไปตรวจนั้นปลาอะไร เพราะปลาแต่ละชนิดมีการการสะสมของสารปรอทต่างกัน หากตรวจพบในปลานักล่า เช่น ปลาช่อน แสดงว่ามีการสะสมในกุ้ง หอย ปู เมื่อปลาช่อนกินสัตว์เล็กเหล่านั้นเราจับปลามาก็ตรวจเจอ ถือว่ามีการปนเปื้อน แต่หากตรวจปลาเล็กที่ไม่ใชปลานักล่าแล้วเจอในปริมาณนี้ ก็ถือว่าเยอะมาก”สมพร กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษกล่าวว่า กรณีระดับปรอทในปลาไม่เกินค่ามาตรฐาน ผู้คนมักจะเข้าใจผิดว่าเราจะสามารถบริโภคปลานั้นๆ ได้อย่างปลอดภัย แต่ข้อเท็จจริงคือถึงแม้ระดับปรอทในปลาจะไม่เกินค่ามาตรฐานแต่ถ้าหากเราบริโภคในปริมาณที่เกินค่าความปลอดภัย (ค่าที่ระบุโดยองค์กรอนามัยโลก WHO เท่ากับ 2 μg/kg/day) ก็อาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้

“สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ จับปลามาตรวจ โดยสุ่มหลายๆ จุด ตรวจปลานักล่า sample site ต้องจับปลาหลายตัวและจับในจุดที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญมากคือ จัดการความเสี่ยง ต้องเตือนเรื่องความเสี่ยงโดยเฉพาะหญิงตั้งท้อง ซึ่งอนุสัญญามินามาตะ ของสหประชาชาติ ห้ามใช้ปรอท เพราะปรอทสะสมในทารกในครรภ์ แม่จะไม่เป็นอะไร จึงต้องดูว่าใครบ้างที่กินปลาจากแม่น้ำกกบ่อยๆ ต้องเอาเส้นผมไปตรวจหาปรอท หากพบก็ต้องคุยและป้องกัน” สมพรกล่าว และว่าผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ ต่อเด็กเล็ก หากกินปลาปนเปื้อนปรอทจะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซึ่งเป็นผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งบางพื้นที่มีงานวิจัยพบว่าส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการช้า

ผศ.ดร เสถียร ฉันทะ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการลุ่มน้ำโขง กล่าวว่าปกติแล้วในปลาไม่ควรจะมีสารปรอท หากมีก็ไม่ควรเกินค่าที่กำหนด ปรอท เป็นโลหะหนัก หากอยู่ในอาหาร บริโภคเข้าไปก็สะสมในร่างกาย การขับออกเป็นเรื่องยาก สำหรับการตรวจว่าไม่เกินค่ามาตรฐานนั้นอาจไม่ผิด แต่การบริโภคอย่างต่อเนื่องกัน เป็นเรื่องของปริมาณสารโลหะหนักที่จะสะสมในร่างกาย ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคน ช่วงวัย สุขภาพ แตกต่างกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ตรวจพบว่าในปลาว่ามีปรอทปนเปื้อน คำแนะนำสำหรับชาวบ้านควรบริโภคปลาหรือไม่ ผช.เสถียรกล่าวว่า ในทางวิชาการอธิบายว่าสามารถกินได้ แต่การกินต่อเนื่องการสะสมนั้นต่างกัน ข้อควรระวังคือ หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะตอนนี้เกิดการปนเปื้อน

“กินได้ แต่ไม่ควรกินต่อเนื่อง กรณีผู้หญิงท้องก็อาจมีผลมากกว่า เพราะอย่าลืมว่าสารปรอท คือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมินามาตะในญี่ปุ่น ที่เกิดจากการบริโภคปลาที่ได้รับสารปรอทที่ปล่อยจากอุตสาหกรรมแล้วสะสมในอ่าวมินามาตะ หลักการอาหารปลอดภัยคือไม่ควรมีสารปรอทหรือสารโลหะหนัก หากมีก็ไม่ควรเกินค่ามาตรฐาน ดังนั้นในการทำประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจึงมีการกำหนดคุณภาพน้ำดิบ หากเราบริโภคไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่กินทุกวันๆ โลหะหนักก็สะสมไปเรื่อยๆ ปริมาณที่อยู่ในร่างกายก็มากขึ้น ซึ่งปรอท ตะกั่ว แคดเมียม เป็นสารโลหะหนักที่สำคัญเพราะกำจัดออกยาก สำหรับสารหนูอาจจะเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง แต่จะจะเกิดหรือไม่แล้วแต่ร่างกายแต่ละคน”นักวิชาการผู้นี้กล่าว

วันเดียวกันสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายรายงานว่า นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ร่วมปฏิบัติงานกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และเทศบาลนครเชียงราย สำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำแม่น้ำกกเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย พบว่ามีสิ่งกีดขวางตั้งแต่สะพานถนนเลี่ยงเมืองตะวันตก ถึงสะพานเฉลิมพระเกียรติ (โรงเรียนเทศบาล 6) จำนวนทั้งสิ้น 20 จุด จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดสิ่งกีดขวางเหล่านี้ทั้งหมด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดผลตรวจ 'สารหนู' ในแม่น้ำสาย-รวก-โขง เกินมาตรฐานทุกจุดตรวจวัด

ผลตรวจเดือน พย.พบสารหนูเกินมาตรฐานในแม่น้ำสาย-รวก-โขงทุกจุดตรวจวัด ขณะที่แม่น้ำกกหนักอยู่ที่ ต.ท่าตอนส่วนจุดอื่นเบาบางลง นักวิชาการชี้รัฐยังเฉื่อยไร้แผนตรวจในคน-พืช-สัตว์ แนะเร่งสังเคราะห์ข้อมูลใช้ขับเคลื่อนเวทีระหว่างประเทศ

กรมทรัพยากรน้ำสรุปผลรับฟังความคิดเห็นประชาชน ปัญหาแม่น้ำกก “สุชาติ” ย้ำรัฐบาลยึดเสียงประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยุติแนวคิดสร้างฝายดักตะกอนเด็ดขาด

นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่อำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก โดยมี นางสลีลญา คำภาแก้ว

ผงะ! ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำสาละวิน เกินค่ามาตรฐาน 5 เท่า คาดมาจากเหมืองแร่ต้นแม่น้ำ

ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำสาละวินเกินค่ามาตรฐาน 5 เท่า นักวิจัย มช.คาดมาจากเหมืองแร่ต้นแม่น้ำ-แนะทางการเร่งตรวจซ้ำ-แจ้งเตือนประชาชน

กระทรวงทรัพย์ฯ รุกลงพื้นที่เป่าล้างบ่อบาดาล ที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ผู้ใช้น้ำ

นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 และคณะ ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย และเทศบาลตำบลดอยฮาง ลงพื้นที่ติดตามการเป่าล้างบ่อบาดาล ที่ใช้เป็นน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ณ หมู่ 3 เทศบาลตำบลดอยฮาง เพื่อคลายความกังวลของประชาชนผู้ใช้น้ำ

“รองนายกฯ สุชาติ” ลุยเชียงใหม่–เชียงราย เปิดรับฟังข้อเสนอภาคประชาชน เร่งแก้ปัญหาสารปนเปื้อน “แม่น้ำกก” ให้เกิดผลเชิงรูปธรรมโดยเร็ว

วันนี้ (9 ตุลาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงฯ ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่

'สุชาติ' เตรียมลงเชียงราย แก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกก ย้ำเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมเตรียมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด แก้ปัญหาฝุ่น

นายสุชาติ กล่าวว่า “การลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกในฐานะรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ เพื่อที่จะไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และเพื่อเน้นย้ำว่างานของอุทยานฯ อีกส่วนที่สำคัญคือ การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาธรรมชาติ