ศึกในสนาม กทม.เพื่อไทย จับตาแรงกระเพื่อมรอบสอง

แกนนำพรรค-แกนนำภาค กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 21 เขต จาก 33 เขตเลือกตั้ง ก่อให้เกิดมุมมองทางความคิดแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน มีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ปมการประกาศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ แทน ส.ส.คนเดิม และการยังไม่เปิดผู้สมัครอีก 12 เขต ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อยในแวดวงเพื่อไทย 

แกนนำพรรคเพื่อไทยภาค กทม. อาจมองในแง่มุมพรรคเพื่อไทยเอาจริงใส่ใจทุกพื้นที่ทั้งใน กทม. ต่างจังหวัด นำไปสู่เป้าหมาย ‘แลนด์สไลด์’ จึงทยอยเปิดตัวผู้สมัครที่มีการสรรหาแล้วเสร็จ เป็นการตอกย้ำ ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมาถึงในช่วงเวลาใด แต่เพื่อไทยพร้อมตลอดเวลา  

เมื่อกระแสผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทยกำลังดี ไม่เคยชนะมากสุด กวาดมามากสุด 20 เขต จาก 50 เขต และว่าที่ผู้สมัครในโซนอื่นๆ ได้เปิดตัวไปหลายเขต จึงถึงคิว กทม.ที่จะต้องเปิดตามมา ด้านหนึ่งคือ การล็อกผู้สมัครทั้งคนหน้าใหม่ หน้าเก่า ‘ไม่ให้ไปไหน’ แต่อีกมุม เป็นการส่งสัญญาณ คนที่ ‘ใจไม่อยู่กับพรรค’ ขอให้เตรียมเลือกเส้นทางเดินทางการเมืองของตัวเองไว้แต่เนิ่นๆ ได้เลย  

ทว่าในอีกแง่มุม เกิดการตั้งคำถาม การชิงเปิดตัวไปก่อน ถ้านับเวลารัฐบาลประยุทธ์อยู่ครบวาระ เหลืออีก 7-8 เดือน ถือว่าเร็วเกินไป การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ ผู้สมัครบางคนที่เปิดตัวไป ถูกสปอตไลต์ฉายส่องทันที ทั้งจากคนนอกพรรค ในพรรค  

ผู้สมัครหน้าใหม่ถูกตรวจสอบประวัติยิบ ขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต บางเรื่องอาจโดนคู่แข่งขันเปิดแผลโจมตี ทำลาย การเปิดตัวก็เป็นเพียงการันตีเบื้องต้นจากพรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีอะไรแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ตราบใดที่ยังไม่ไปยื่นใบสมัครลงรับเลือกตั้ง ระหว่างทางอาจมีการปรับเปลี่ยนอีกรอบ ดีไม่ดีผู้พลาดหวังจากพรรคเพื่อไทย บางเขตเปิดช่องให้บางพรรคในปีกประชาธิปไตยชิงตัวผู้สมัครเบอร์ 2 ที่ไม่ได้รับการเหลียวแล ดึงไปร่วมงาน ถ้าวางยุทธศาสตร์เดินเกมทางการเมืองถูก อาจได้ ส.ส.เขตนั้นๆ ไปเพิ่ม หรืออย่างน้อยก็นำไปเพิ่มคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคตัวเองก็ยังได้  

การเปิดตัวผู้สมัครเพียง 21 เขต จาก 33 เขต สะท้อนให้เห็นถึง Agenda เมื่อเพื่อไทยเลือกวางเป้าหมายแลนด์สไลด์ กลับเปิดตัวไปแค่ 2 ใน 3 อีกนัยหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ความไม่พร้อมทั้งหมด แต่เพื่อเอากระแส จึงขอเปิดนำร่องเรียกกระแส เช็กเรตติงเอาไว้ก่อน    

การุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง กทม. พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เดิมถึงกับสะท้อนผ่านเฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า  

- ยังเป็น ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย / ไม่เคยโหวตสวน ไม่เคยรับกล้วย / การเลือกตั้ง ส.ก.ครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็ส่งอดีตผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามมาลงในนามพรรค   

 - สิ่งที่ได้รับมาตลอด หลังจากที่ประธานยุทธศาสตร์พรรคคนเก่าได้ลาออก คือการถูกเมินจากพรรค ไม่ถูกเรียกให้ไปทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ของพรรค  

- พรรคการเมืองก็ต้องเป็นสถาบันทางการเมือง ที่ต้องเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชน สนับสนุนคนทำงานให้ได้ทำงาน ไม่ใช่ทำตามคำสั่งคนเพียงไม่กี่คน ที่บัญชาการอยู่ในห้องแอร์ / ตัวผมไม่ศรัทธาผู้ใหญ่บางคน ที่ไม่มีมารยาททางการเมือง 

 ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงถึงเหตุผลการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมือง ว่า  

 ‘1.พฤติกรรมนายการุณ ซึ่งเป็น ส.ส.เดิมของพรรคกว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าร่วมประชุม หรือร่วมกิจกรรมใดของพรรคเพื่อไทยเลย 2.มีพฤติกรรมเป็นที่ประจักษ์ว่า ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองพรรคอื่น โดยมีหลักฐานพิสูจน์ พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องสรรหาตัวแทนประจำเขตดังกล่าวแทนนายการุณ’ 

ในแวดวงนักเลือกตั้งรับรู้กันอยู่แล้วว่า ถึงอย่างไรสมัยหน้า การุณจะไม่อยู่กับเพื่อไทยแน่นอน แต่ในช่วงการเลือกตั้ง ส.ก.ยังเป็นปมคาใจ การดึงตัวผู้สมัครที่เคยเป่านกหวีด จับมือฝ่ายตรงข้าม ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาลงสมัครจนได้รับเลือกตั้งในที่สุด ไม่เท่านั้นการวางแผนหาเสียง เมื่อรู้ว่าแกนนำและผู้สมัครคนสำคัญจากอีกพรรคจะไปลงพื้นที่หาเสียง แต่พลพรรคเพื่อไทยชิงปาดหน้าไปเดินตลาดหาเสียง ก่อนหน้าไม่กี่อึดใจ โดยที่ให้คณะผู้หาเสียงลงไปลุยในพื้นที่ จนบางครั้งเกือบเกิดเหตุปะทะ  

เป็นเพียงบางแง่บางมุมที่มีการบอกต่อๆ กันมา อันเป็นเหตุไม่ลงรอย ที่ดูเหมือนว่า เฉพาะแกนนำพรรคบางคนกับการุณ นับวันจะทวีความบาดหมางรุนแรง ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ทำท่าจะ จบไม่สวย จากกันไม่ดี และไม่ได้มีเพียงเฉพาะกรณี เก่ง-ดอนเมือง แต่ยังรวมไปถึง หมวดป๊อป-น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.สายไหม พรรคเพื่อไทย ที่ถูกหมายหัวจากแกนนำบางคนในเพื่อไทยเช่นกัน ถึงอย่างไรสมัยหน้า 2 ส.ส.มีแนวโน้มสูงคงจะโบกมือลาครอบครัวเพื่อไทย นอกจากนี้ในส่วนของอดีตผู้สมัครเดิมที่ยังไม่ประกาศออกมา หลายเขตมีแนวโน้มสูงที่จะเปลี่ยนตัวผู้สมัคร นาทีนี้ยังต้องลุ้นกันหนัก ไม่มีอะไรการันตีในสนามการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะได้ลงสนามในนามพรรคเพื่อไทยหรือไม่ 

นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางขุนเทียน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเป็นห่วงภรรยา ซึ่งเป็นผู้สมัครเดิมในเขตนี้ว่า  

 “..ขอใช้พื้นที่นี้เรียนว่า ไม่มีอะไรครับ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการของพรรค วันนี้ผมและคุณกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ ยังยึดมั่นในความถูกต้อง เสมอภาค ยังยืนหยัดฝ่ายประชาธิปไตยและยังอยู่พรรคเพื่อไทย เลือดสีแดงยังเข้มข้น ภาพทรงจำในการต่อสู้กับทุกท่านยังตรึงใจติดตา ภาพการถูกจองจำตอนถูกล่ามโซ่ยังคอยเตือนจิตสำนึกวิญญาณแห่งความเป็นตัวตน 

ส่วนคำถามมากมาย ทำไม..? ทำไม..? ทำไม..? ทำไมคนนั้นไม่เคยเห็นหน้า ทำไมคนนั้นเคยอยู่พรรคนั้น ทำไมคนนั้นอยู่ดีๆ ก็ได้ลง ทำไม..ทำไม? ขอบคุณและเข้าใจในความรู้สึกของทุกท่านที่ห่วงใยครับ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกติกาขององค์กร ผมเชื่อว่าเร็วๆ นี้จะมีคำตอบที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน ขอบคุณด้วยจิตคารวะ” 

เพียงแค่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.รอบแรก 21 เขต จาก 33 เขต ก่อให้เกิดการตั้งคำถาม แรงสั่นสะเทือนพุ่งตรงไปยังแกนนำภาค กทม.พรรคเพื่อไทย ส่วนอีก 12 เขตที่เหลือ กำลังจะทยอยเปิดตามมา เริ่มมีสัญญาณความคุกรุ่น เพราะถ้ามีการจัดสรรปันส่วนกันเพียงเฉพาะกลุ่มก๊วน คงจะเกิดแรงกระเพื่อมซัดถล่มเพื่อไทยอีกรอบอย่างแน่นอน. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดิศร' ซัดแรงมีรัฐสภาไปทำพระแสงอะไร จะแก้รัฐธรรมนูญ ยังให้ศาลวินิจฉัยอำนาจประชาชน

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า อำนาจตุลาการ และอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร แยกกันและถ่วงดุลกัน ไม่ใช่คล่อมเลน มีบางครั้งจะยื่นญัตติได้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นฝ่ายตุลาการ แต่เราฝ่ายนิติบัญญัติ เราคิดของเราเองได้

ลากไส้องค์กร'สีกากี'ยิ่งแฉยิ่งเละ ถึงเวลาปฏิรูปตำรวจกู้ภาพลักษณ์

เละ! ตายตามกันไปข้าง ศึกภายในรั้ว “กรมปทุมวัน” ถึงแม้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จะถูกโยกไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ศึก “นอมินี” แทงฟันกันเลือดสาดไม่มีใครยอมใคร อย่างที่ ทีมทนาย “รองฯ โจ๊ก” เตือนก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลายมาจนถึงปัจจุบัน “ไม่ยอมตายเดี่ยว”

เดือด! โฆษกพรรคหญิงหน่อยจี้ 'สุภาพร' ลาออกหลังโผล่ไปรับทักษิณ

'ภัชริ' ซัด 'สุภาพร' ไม่มีความละอาย ไม่สำนึกถึงสิ่งที่ได้สัญญากับประชาชน โผล่ถ่ายรูป 'ทักษิณ' ทั้งที่ยังสังกัด ไทยสร้างไทย ลั่นพฤติกรรมเป็นงูเห่าชัดตั้งแต่ต้น จี้ลาออกหลังพรรคให้โอกาสแต่ไม่สำนึก

เดินหน้าแจกดิจิทัลวอลเล็ต หลังเพิ่มทางเลือกแหล่งเงิน

หลังเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง” เปิดแถลงข่าวไทม์ไลน์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายดังกล่าวต่อไป และจะสามารถแจกเงินให้ประชาชน 10,000 บาท ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คือประมาณ ตุลาคม-ธันวาคม 2567