เปิดแผน"พลังประชารัฐ"ฮั้ว"เพื่อไทย" "บิ๊กป้อม"ไฟเขียวทุกขั้ว รอนั่งนายกฯ?

แม้สัญญาณไปต่อของนายกฯ จะเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลุดปากว่า บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะอยู่ต่อไปอีก 2 ปี 

กระทั่งถูกนำมาตีความต่อไปว่า นายกฯ จะรอดพ้นปมการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ที่ครบในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ หลังครองตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 57 

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อต้นสัปดาห์ พล.อ.ประวิตรยังยืนยันว่า  จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพปชร. ในการเลือกตั้งสมัยหน้า จึงทำให้ประเมินได้ว่า พี่น้อง 3 ป. ยังจะร่วมเดินในเส้นทางอำนาจต่อไปในอนาคต

แต่อีกด้านหนึ่งหลายฝ่ายก็ยังไม่ไว้วางใจ ท่าทีและความทะเยอทะยานของ บิ๊กป้อม ที่ต้องการเป็นนายกฯ หรือไม่ โดยมีบรรดาลิ่วล้อคอยปั่นหู

ไม่ว่าจะเป็นเกมในสภา หรือหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในช่วงรัฐบาลนี้ ตามที่กระแสข่าว พร้อมจะดันให้ "บิ๊กป้อม" ขึ้นเป็นนายกฯ คนนอกได้ทุกเวลา ด้วยจำนวนเสียงส.ส. และ ส.ว.ที่ตัวเองมีส่วนแต่งตั้งมากับมือ

อีกทั้งยังมีกระแสข่าวมองว่าพรรค พปชร.กำลัง ฮั้ว กับพรรคเพื่อไทย เพื่อดิวอนาคตการเมืองข้างหน้า เพื่อช่วยดันก้น พี่ใหญ่ ได้เป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

ด้วยข้อแลกเปลี่ยนกลับมาใช้สูตรเลือกตั้ง 2 ใบ หาร 100 ที่พรรคของนายใหญ่ "ทักษิณ ชินวัตร" หวังชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไตล์ เพื่อพาตัวเองกลับบ้าน

ดังที่ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ออกมาแฉทำนองว่าสองพรรคใหญ่กำลังฮั้วข้ามขั้ว เพื่อ "ล้มตู่ ชูป้อม"

ก่อนฟันธงไปยังผู้มีอิทธิพลนอกสภาอังษร ย่อ “พ. ”  คือตัวบงการอยู่เบื้องหลังชี้นำ พปชร. และ ส.ว. ให้เกิดสภาล่ม เพื่อกลับมาใช้สูตรเลือกตั้งกลับมาหาร 100 หักหลังบรรดาพรรคเล็กที่ต้องการสูตรหาร 500 เพื่อให้ยอมโหวตในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่ผ่านมา

สอดรับเหตุการณ์ในอดีตก่อนหน้า  ที่ ผู้กองมนัส-ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ลูกน้องคนสนิท "บิ๊กป้อม" เคยล้ม  “บิ๊กตู่” เพื่อให้พ้นเส้นทางอำนาจ  

รวมทั้งยังหวังยึดเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยจาก พี่รอง-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่นั่งเก้าอี้ มท. 1 มาอย่างยาวนาน ให้ "พี่ใหญ่" เตรียมพร้อมการเลือกตั้งสมัยหน้า สร้างความเจ็บปวดให้แก่พี่รองและน้องเล็กมาแล้ว และเป็นกรวดในรองเท้ามาจนถึงบัดนี้

ส่วนพี่ใหญ่อ้างแต่ "ไม่รู้ ไม่รู้" แต่ความจริงน่าจะรับรู้ทุกอย่าง ทราบสถานการณ์ทั้งหมด กระทั่งสุดท้าย "บิ๊กตู่" ต้องส่งซิกให้ออกมาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ หวังเป็นทางเลือก แต่จะรอดหรือไม่ในกติกาหาร 100 ยังเป็นคำถามใหญ่ ในห้วงเวลาและกระแสความนิยมของนายกฯ ติดลบลงไปเรื่อยๆ

เมื่อประเมินตามนี้ อนาคตทางการเมืองของ "บิ๊กตู่" จึงค่อนข้างไปต่อลำบาก ผิดกับ "บิ๊กป้อม" แม้อายุจะมาก เดินไม่ไหว แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยบารมีทางการเมือง และที่สำคัญยังเปิดไฟเขียวตลอดสาย ดิวทุกขั้วทุกกลุ่มการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และยังมี ส.ว.ให้การสนับสนุน

หาก บิ๊กตู่ ไม่รอด ศาล รธน.วินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี  24 ส.ค.2565 บิ๊กป้อม ก็ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ต่อไปได้

ล่าสุด "บิ๊กป้อม" ยังให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ปิดกั้นตัวเอง  หากถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. ควบคู่กับ  "บิ๊กตู่"

รวมทั้งยังไม่ปฏิเสธร่วมงานกับเพื่อไทยในอนาคตอีกด้วย โดยระบุว่า "ให้ผลเลือกตั้งออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน"

ฉะนั้นสมมุติว่า ผลเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทย ได้เสียงข้างมากแต่เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา และต้องการกลับมาอยู่ในเส้นทางอำนาจ โดยไม่ต้องการมี ส.ว.สรรหาเข้ามาขัดขวาง ก็ต้องยอมยกเงื่อนไขเก้าอี้นายกฯ ให้แก่ "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯ 

ขณะที่ "บิ๊กตู่" หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ก็คงต้องเปิดทางให้ "พี่ใหญ่" ขึ้นคุมอำนาจเพื่อป้องกันไม่ให้น้องๆ ถูกเสือกัด เมื่อลงต้องลงจากหลังเสือ 

รูปแบบคล้ายๆ กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ยอมลาออก เปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมรัฐบาลและสนับสนุน "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ ในปี 2562

แต่หากสถานการณ์ไม่เป็นใจ พรรคเพื่อไทยได้เสียงในสภาไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และพรรคร่วมรัฐบาลเดิมรวมเสียงกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ  

เมื่อเป็นเช่นนั้น บิ๊กตู่ ก็จะเป็นนายกฯ ได้อีก 2 ปี ด้วยกลไก ส.ว.ที่ยังร่วมเลือกนายกฯ ได้อยู่ และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวไป วาระรัฐบาลยังเหลืออีก 2 ปี            

หาก บิ๊กป้อม ยังรอไหวอยู่... โอกาสจะเป็นนายกฯ ตามความฝัน ก็มีโอกาสเป็นไปได้ และที่สำคัญสูตรนี้ไม่ต้องถูกคำครหา พี่ฆ่าน้อง อีกด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)