จับกระแสประชาธิปัตย์ เลือดไหลออกรอบใหม่!

สัปดาห์นี้ต้องรอดูกันว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำชื่อ นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เป็น รมช.มหาดไท คนใหม่เลยหรือไม่ หรือจะรอไปอีกสักระยะ แต่ดูจากช่วงเวลาแล้ว คาดว่าการปรับ ครม.รอบนี้คงเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม

โดยหากจับสัญญาณการเมืองจนถึงเวลานี้ เมื่อพรรคภูมิใจไทย ทางอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคยืนยันว่าภูมิใจไทยจะไม่เสนอปรับ ครม.โดยจะยังคงให้ กนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็น รมช.ศึกษาธิการต่อไป แม้ปัจจุบันจะถูกศาลฎีกาสั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่การเป็นรัฐมนตรี หลังศาลฎีการับคำร้องคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมก็ตาม

ขณะที่ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ จนถึงช่วงหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีสัญญาณการปรับ ครม.ในส่วนของพลังประชารัฐเพื่อหาคนไปแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง หลังจากมีการปรับธรรมนัส พรหมเผ่า และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เมื่อกันยายนปีที่แล้ว

 แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้จัดการรัฐบาล มีการพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการปรับ ครม.ในส่วนของพลังประชารัฐ แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ส่งไปถึงคนพลังประชารัฐว่าจะมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นแต่อย่างใด

 ทำให้หากเป็นไปตามนี้คือ พลังประชารัฐก็ไม่ขอปรับ ครม.เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย ก็เท่ากับพลังประชารัฐที่ก็มีหลายคน-หลายกลุ่มการเมืองในพรรคลุ้นอยากเป็นรัฐมนตรีรอบสุดท้ายของรัฐบาล สุดท้ายก็ไม่มีใครได้ เพราะดูแล้ว พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตรอาจจะยอมปล่อยโควตารัฐมนตรีที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง โดยไม่เสนอชื่อตั้งใครให้ไปเป็นรัฐมนตรีแทน รวมถึงไม่ปรับในส่วนตำแหน่งอื่นๆ อย่างที่แวดวงการเมืองคาดหมาย เช่น เก้าอี้ รมว.มหาดไทย ของพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา

โดยเรื่องนี้ วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาบอกแล้วว่า พลังประชารัฐจะไม่ขอปรับ ครม.เพราะพรรคไม่ค่อยวุ่นวาย จึงไม่มีความเคลื่อนไหวภายในพรรค แม้ว่าความจริงสมาชิกบางคนจะอยากเป็นรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว คนจะมาเป็นรัฐมนตรีคงจะลำบาก จึงไม่เป็นแรงกดดันอะไรมากมาย ดังนั้นพรรค พปชร. น่าจะไม่ขอให้ปรับ ครม. เพราะหากเกิดการปรับก็จะยุ่งที่คนนั้นได้เป็น คนนี้ไม่ได้เป็น

เมื่อออกมาแบบนี้ เท่ากับการปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/5 รอบนี้ ถ้าทั้งภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ รวมถึงพลเอกประยุทธ์ ไม่มีการเปลี่ยนใจกะทันหัน ก็จะเป็นแค่การเสนอชื่อ นริศ ขำนุรักษ์ เข้าไปเป็น รมช.มหาดไทยคนใหม่เท่านั้น และเป็นไปได้สูง การปรับ ครม.รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 2

สำหรับการชิงเก้าอี้ รมช.มหาดไทยของประชาธิปัตย์ แม้ก่อนหน้าการโหวตลงมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อ 12 ต.ค. บรรยากาศจะค่อนข้างเข้มข้น เพราะแคนดิเดตแต่ละคน ทั้งสายภาคใต้และสายอื่น ที่รอลุ้นเก้าอี้รอบสุดท้ายต่างก็ลุ้นกันสุดฤทธิ์ แต่ระบบการเมืองของประชาธิปัตย์ เมื่อผลการลงมติออกมาแล้ว เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร ทุกอย่างต้องถือว่าจบ คนที่แพ้โหวตต่างก็เข้าใจและยอมรับกับมติดังกล่าว ส่วนภายในใจจะมีอะไรค้างคาอยู่หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของแต่ละตัวบุคคล

อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อจับกระแสความเคลื่อนไหวของประชาธิปัตย์ในช่วงก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ก็น่าจับตาไม่น้อย หลังมีกระแสข่าวทางการเมือง ว่าให้จับตาความเคลื่อนไหวเรื่อง อาจจะมีคนในพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนลาออกไปอยู่พรรคการเมืองอื่น หรือที่การเมืองเรียกกันว่า เลือดไหลออก ที่อาจจะยังไม่จบแค่จากที่คนที่เป็นข่าวล่าสุดคือ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี ที่จะย้ายไปภูมิใจไทยหลังไปร่วมปรากฏตัวในงานวันเกิดเนวิน ชิดชอบ ที่บุรีรัมย์ เพราะมีกระแสข่าวทางการเมืองตามมาอีกว่า ให้จับตาดูกันต่อไป เพราะอาจมีคนประชาธิปัตย์อีกบางคนที่อยู่ระหว่างการเปิดดีลพูดคุยกับพรรคอื่น

เช่น อาจมีบางส่วนไปอยู่กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีอดีตคนประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ คือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค โดยนักการเมืองประชาธิปัตย์ที่มีข่าวอาจย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ ก็มีเช่น แม่เลี้ยงติ๊ก ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เป็น ส.ส.มาแล้ว 5 สมัย รวมถึง “พันโทสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม” เขต 1

รวมถึงข่าวว่าไม่แน่ อาจมีชื่อ รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม 5 สมัย ด้วยอีก 1 คน แต่ชื่อนี้เป็นที่รู้กัน เคารพเกรงใจ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก เพราะนายชวนไปช่วยหาเสียงให้ รังสิมาในพื้นที่ตอนเลือกตั้งทุกครั้ง ทำให้ไม่แน่อาจยังอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อไป รวมถึงคนอื่นๆ เช่น เจือ ราชสีห์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และอดีต ส.ส.สงขลา ที่ไม่มีชื่อที่พรรคประชาธิปัตย์จะส่งลงสมัคร ส.ส.เขต สงขลาพื้นที่เดิมของตัวเอง แต่ข่าวว่าช่วงหลังคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามโน้มน้าวให้นายเจืออยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปโดยลงสมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์

  ขณะเดียวกันมีข่าวว่า ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก 5 สมัย อดีต รมว.อุตสาหกรรม ที่มีความใกล้ชิดกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็อาจหยุดพักทางการเมือง 1 สมัย ไม่ลงเลือกตั้งรอบหน้า โดยหากเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ประชาธิปัตย์อาจเสียขุนพลเลือกตั้งภาคเหนือตอนล่างไปอีก 1 คน ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติก็อาจจะได้อดีต ส.ส.กทม. หรืออดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ เมื่อตอนเลือกตั้งปี 2562 บางส่วนมาอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น หลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่า อาจจะมี ส.ส.กทม.พลังประชารัฐปัจจุบันบางคนอาจมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเช่น ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ เป็นต้น

ต้องดูกันว่า แกนนำประชาธิปัตย์กลุ่มจุรินทร์ จะหยุดเลือดไหลออกจากประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ รวมถึงสรรหา เลือดใหม่ ซึ่งเป็นคนที่มีคุณภาพ และมีโอกาสจะได้รับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ เข้ามาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นที่ฮือฮาทางการเมืองได้หรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ดึง น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ "มาดามเดียร์" มาร่วมงานกับพรรคได้สำเร็จ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หาก ‘ไผ่’ วืด ‘เบนซ์’ เต็งหนึ่งรมต. เสียบแทน ‘โควตากลาง’ พปชร.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจว่าคุณสมบัติของ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยังนั่งเป็นรัฐมนตรีได้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติไม่รับคำร้อง กรณีนายไผ่ขอร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ถูก 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน ละเมิดจนไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ กรณีระบุว่า ขาดคุณสมบัติ

ครม.เศรษฐา 2 ทักษิณเคาะโผ ฉากทัศน์กองทัพยุค "บิ๊กนิด"

ชัดเจนแล้วว่า ครม.เศรษฐา 2 ที่จะเป็นการปรับ ครม.ครั้งแรกของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน จะเกิดขึ้นแน่นอน โดยคาดว่า อาจจะเกิดขึ้นภายในปลายเมษายนนี้ หรือช้าสุดไม่เกินกลางเดือน พ.ค. เว้นแต่มีสถานการณ์แทรกซ้อนทำให้การปรับ ครม.อาจขยับออกไปได้

ลดความเสี่ยง‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ปรับ ครม.เค้นผลงานรัฐบาล

เรือธง ล้มไม่ได้ เพราะมีผลต่อเครดิตของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคต สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

โฆษก ปชป. ยืนยันไม่จริง 'ชวน' หมดสิทธิลงสมัคร สส. มั่นใจ 'เฉลิมชัย' ไม่คิดเช่นนี้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถีงกรณีที่มีบุคคลให้ข่าวว่า “ชวน หลีกภัย” อาจหมดสิทธิลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อว่า

'ติ๊งต่าง' จี้ ปชป. แจงข่าวลือจะไม่ส่ง 'ชวน' สมัคร สส. ถ้าจริงต้องมีคำตอบให้สังคม

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และแกนนำกลุ่ม ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีข่าวลือว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ส่งคุณชวนลงสมัครสส.เขต และไม่ให้เป็นสส.บัญชีรายชื่อ